Apple ย้ายฐานการผลิตออกจากจีนครั้งใหญ่ สูงสุดกว่า 30%
Apple เริ่มแผนการกระจายห่วงโซ่การผลิตออกจากจีนอย่างมีนัยสำคัญ หวังพึ่งพาจีนน้อยลง มีการประเมินกันว่า Apple วางแผนย้ายกำลังการผลิตออกจากจีนสูงสุด 30%
แผนการย้ายการลงทุนครั้งนี้ มีประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นปลายทางที่บริษัทผู้รับประกอบสินค้าของ Apple อย่าง Foxconn และบริษัทอื่นๆ หมายตาเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น เวียดนาม และมาเลเซีย รวมไปถึงประเทศในเอเชียใต้อย่างอินเดีย ที่มีดีกรีเป็นประเทศที่ผลิตสินค้าให้ Apple มากที่สุดอันดับ 2 รองจากจีน
อินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นปลายทางสำคัญ
อินเดีย เป็นปลายทางแรกของแผนการย้ายฐานการผลิตในครั้งนี้ Foxconn ย้ายมาทำการประกอบสินค้าในประเทศอินเดียตั้งแต่ 2017 คือตั้งแต่ช่วงแรกของแผน
Foxconn ย้ายการผลิต iPhone11 บางส่วนมายังอินเดียตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา และมีแผนที่จะทำการผลิต iPhone 12 โทรศัพท์รุ่นล่าสุด และเป็นรุ่นแรกที่รองรับ 5G ในอินเดียภายไตรมาสนี้
เวียดนาม เป็นอีกปลายทางสำคัญที่มีข่าวกับ Apple มากที่สุดในปีที่ผ่านมา โดยปี 2020 เป็นปีที่ Foxconn เริ่มมาทดลองผลิตเพื่อประเมินความเป็นไปได้
ส่วนในปี 2021 จะเริ่มทำการผลิตในเวียดนามครั้งใหญ่อย่างจริงจัง
ล่าสุด Foxconn ได้รับอนุญาติให้สร้างโรงงานเพิ่มอีกแห่งในเวียดนามเรียบร้อยแล้วภายใต้เงินลงทุนกว่า 270 ล้านดอลลาร์ และมีแผนจะเริ่มผลิต iPad และ MacBook บางส่วนกลางปีนี้ ทดแทนการผลิตในจีน
โครงการดังกล่าวยังไม่รวมถึงแผนการลงทุนเพิ่มเติมในเวียดนาม ที่ Foxconn วางแผนเอาไว้
นอกจากนี้ Luxshare Precision ผู้รับประกอบอีกเจ้าหนึ่งของ Apple ที่เน้นผลิตเครื่องเสียงเป็นหลัก ก็ได้เพิ่มกำลังการผลิต AirPods, AirPods Pro, AirPods Max และ HomePod mini ในเวียดนามเช่นกัน
ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็เป็นปลายทางที่ถูกหมายตาจากทาง Apple ตัวอย่างเช่น มาเลเซีย ที่จะทำการผลิต Mac mini สินค้าในไลน์คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ให้กับ Apple
สรุป
แผนการกระจายกำลังการผลิตออกจากจีนของ Apple เป็นส่วนหนึ่งของการลดความเสี่ยงจากสงครามการค้าที่มีทีท่าจะยังไม่หายไปในเร็ววันแม้สหรัฐฯ จะเปลี่ยนผู้นำแล้วก็ตาม แต่ในอีกด้านหนึ่ง Apple ก็รับรู้ได้ถึงความเสี่ยงที่จะพึ่งพิงการผลิตในประเทศเดียว โดยเฉพาะเมื่อวิกฤติโควิด-19 ทำให้สายพานการผลิตหยุดชะงัก
- บทความเพิ่มเติมเรื่อง โมเดล China+1 จีนยังเป็นโรงงานโลก แต่ประเทศอื่นผลิตมากขึ้น
ที่มา – Nikkei Asia, The Verge
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา