AIS เปิดโครงการ JUMP THAILAND 2021 สร้างนวัตกรรมด้วยแนวคิดแบบสตาร์ทอัพ

ในฐานะผู้ให้บริการด้านดิจิทัลรายใหญ่ของไทยอย่าง AIS ภายใต้ AIS NEXT หน่วยงานขับเคลื่อนนวัตกรรม ได้เดินหน้า JUMP THAILAND 2021 โครงการระดมความคิดแบบสตาร์ทอัพ ชิงเงินรางวัล 1 ล้านบาท หากผ่านการคัดเลือกจะมีโอกาสได้ทำงานร่วมกับ AIS NEXT และพาร์ทเนอร์ พร้อมงบประมาณสนับสนุนสูงสุดถึง 100 ล้านบาท

อราคิน รักษ์จิตตาโภค หัวหน้าฝ่ายขับเคลื่อนนวัตกรรม เอไอเอส กล่าวว่า ตอนนี้ปัญหาระดับโลก ส่งผลกระทบต่อทุกคนในวงกว้าง เช่น

  1. สิ่งแวดล้อม : PM 2.5 / ไมโครพลาสติก / ขยะพลาสติก / มลภาวะ / ภาวะโลกร้อน
  2. สุขภาพและบริการด้านสาธารณสุข : การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 / โอกาสการเข้าถึงการรักษา / การบริการทางการแพทย์ / ราคาค่ารักษา  
  3. การศึกษา : ความเท่าเทียม / รายได้ / คุณภาพบุคคลากรผู้สอน / ระบบโครงสร้างพื้นฐาน
  4. สภาพเศรษฐกิจและสังคม : อัตราการว่างงาน / การจ้างงาน / ค่าครองชีพสูง / แรงงานต่างด้าว / ยาเสพติด
  5. การคมนาคม ขนส่ง : การเข้าถึงการขนส่งสาธารณะ / คุณภาพการบริการ/ ราคา / รถติด
  6. สวัสดิภาพความปลอดภัยและคุณภาพชีวิต : ไฟส่องสว่างทางเดิน / ยาเสพติด / คอรัปชั่น

นอกจากนี้ยังมีเรื่องของกระบวนการดิจิทัลหรือการทำ Digital Disruption ที่ส่งผลกระทบทั้งในระดับบุคคล, องค์กร และประเทศ ประกอบด้วย 

  1. Digital Identity Foundation Initiative: ภาพรวมของความเป็นตัวตนของตัวบุคคลในแพลตฟอร์มต่างๆ ความเป็นเจ้าของของตัวตน และความง่ายในการอนุญาติ รวมทั้งการควบคุมความเป็นตัวตนในยุคดิจิทัล ภายใต้การควบคุมของหน่วยงานราชการไทย
  2. Digital Archive & Intelligence Initiative: การเก็บข้อมูลด้วยเซนเซอร์และอุปกรณ์ไอโอที การนำเอาข้อมูลไปเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่องเพื่อการสร้างข้อมูลเชิงลึก รวมถึงรากฐานของการจัดเก็บกระบวนการในกลุ่มเมฆเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในสากล
  3. Phygital Exchange Market Initiative: การรวมกันของสิ่งของในโลกความเป็นจริงและโลกเสมือน การสร้างและควบคุมตลาดซื้อขายระหว่างสินทรัพย์ดิจิทัลและสินทรัพย์จริง และการสร้างการระบบการจัดเก็บข้อมูลดิจิทัล ระหว่างสินทรัพย์ในโลกจริงและโลกเสมือนที่เป็นรากฐานให้กับประเทศไทย
  4. Future Workforce Platform Initiative: ภาพรวมของความสามารถและสกิลของกลุ่มคนในสังคมต่างๆจากภาวะสังคมผู้สูงอายุ การแยกกันทางวิชาความรู้ระหว่างกลุ่มดิจิทัลโดยกำเนิด (Digital Natives) และกลุ่มผู้อพยพทางดิจิทัล (Digital Immigrants) เทรนด์ของการเรียนรู้แบบทีละเล็กละน้อย (MicroLearning) หลักการเรียน และการอัพเดทความรู้ในยุคดิจิทัล รวมทั้งโครงสร้างของสังคมการทำงานแบบฟรีแลนซ์ของไทย
  5. Digital Police Initiative: การบังคับใช้กฎหมายในโลกดิจิทัลในประเทศไทย รวมถึงการใช้กฎหมายดิจิทัลกับโลกของอุปกรณ์ไอโอทีในยุค 5G ความปลอดภัยและอาชญากรรมไซเบอร์ที่ควรระวัง

ดังนั้น AIS จึงพร้อมเป็นแกนกลางในการระดมความคิดในการแก้ไขปัญหาสำคัญ ด้วยกระบวนการแบบสตาร์ตอัพ ที่มุ่งหาโซลูชั่นส์ในการแก้ Pain Point พร้อมจัด Online Hackathon โครงการ JUMP THAILAND by AIS NEXT เพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน โดยมีรายละเอียดโครงการดังนี้ 

  1. Problem Submission: ส่งโจทย์ปัญหาเพื่อโหวตหัวข้อที่ต้องการเห็นประเทศไทยเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 14 ก.พ. 2564 ที่เฟซุบ๊กเพจ: JumpThailand และเว็บไซต์  jumpthailand.earth 
  2. Team Registration: รับสมัครทีม ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.- 15 มี.ค.2564 ผ่านทางเฟซบุ๊กเพจ JumpThailand และเว็บไซต์ jumpthailand.earth และประกาศรายชื่อทีมที่ได้เข้าแข่งในวันที่ 27 มี.ค. 2564 
  3. Online Hackathon: ช่วงการแข่งขัน Hackathon ประมาณต้นเดือนพฤษภาคม
  4. Incubation: ภายหลังจากโครงการจะมีการรับโครงการที่ผ่านเกณฑ์ เพื่อนำมาบ่มเพาะนวัตกรรมกับ AIS NEXT

โดยทีมที่เข้าร่วม JUMP THAILAND  Online Hackathon ครั้งนี้ นอกจาก จะมีโอกาสเข้าถึงกระบวนการทำงานและเทคโนโลยีของเอไอเอส อาทิ 5G, AI, Blockchain, Cloud, XR, Big Data รวมถึงได้ใช้พื้นที่ AIS PLAYGROUND ในการทดลองทดสอบนวัตกรรมต้นแบบบนเครือข่ายและสภาพแวดล้อมจริงแล้ว ทีมผู้ชนะยังมีโอกาสได้รับเงินรางวัลสูงสุดรวมกว่า 1 ล้านบาท นอกจากนี้โครงการดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะสามารถพัฒนาต่อยอด ขยาย Scale ได้  ก็จะได้โอกาสในการเข้าร่วมการบ่มเพาะนวัตกรรมร่วมกับทีม AIS NEXT เพื่อทดลองทดสอบโซลูชันในตลาดจริง ด้วยงบประมาณสนับสนุนที่มากที่สุดถึง 100 ล้านบาทอีกด้วย

 ผู้สนใจโครงการ JUMP THAILAND สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม และร่วมส่งหัวข้อปัญหาที่คิดว่าควรเร่งแก้ไขที่สุดได้ตั้งแต่วันนี้ – ถึง 14 ก.พ. 2564 ที่เฟซบุ๊กเพจ JumpThailand และเว็บไซต์ jumpthailand.earth

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา