Coca-Cola เปิดตัวโค้กผสมกาแฟในสหรัฐฯ เจาะตลาดกาแฟพร้อมดื่ม มาพร้อมสูตรไม่มีน้ำตาล

Coca-Cola เปิดตัว Coca-Cola with Coffee เครื่องดื่มผสมกาแฟครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา หวังแข่งขันกับเครื่องดื่มกาแฟพร้อมดื่ม ที่เติบโตเร็วในกลุ่มคนวัยรุ่น แทรกช่องว่างของกาแฟพร้อมดื่มสูตรไม่ผสมน้ำตาล

Coca-Cola
ภาพจาก Coca-Cola

Coca-Cola เปิดตัวโค้กผสมกาแฟ ลงเล่นตลาดกาแฟพร้อมดื่ม

Coca-Cola ในประเทศสหรัฐอเมริกา ประกาศเปิดตัวเครื่องดื่ม Coca-Cola with Coffee ซึ่งเป็นเครื่องดื่มผสมกาแฟเป็นครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยจะวางจำหน่ายในร้านค้าทั่วประเทศ แต่ไม่ได้วางจำหน่ายอยู่บนชั้นน้ำอัดลมเหมือนกับที่ผ่านมา แต่จะวางจำหน่ายอยู่บนชั้นกาแฟพร้อมดื่ม (Ready to Drink Coffee) ซึ่งนับว่าเป็นการเปิดตลาดใหม่ให้กับ Coca-Cola

เครื่องดื่ม Coca-Cola with Coffee ประกอบไปด้วย 3 รสชาติ ได้แก่ Dark Blend, Vanilla และ Caramel ส่วนสูตร Zero ที่ไม่มีน้ำตาล จะมีด้วยกัน 2 รสชาติ คือ Dark Blend และ Vanilla โดยมีคาเฟอีน 69 กรัม ต่อปริมาณ 12 ออนซ์

ส่วนเครื่องดื่ม Coca-Cola แบบปกติ จะมีปริมาณคาเฟอีนที่น้อยกว่า อยู่ที่ 34 กรัม ในขณะที่หากเทียบกับกาแฟทั่วไป เฉลี่ย 1 แก้ว จะมีปริมาณคาเฟอีน 95 กรัม

ทางเลือกดื่มกาแฟพร้อมดื่ม ที่มีสูตรไม่มีน้ำตาล

ทาง Coca-Cola ระบุว่า ผู้บริโภค Coca-Cola ส่วนใหญ่ ประสบกับปัญหาไม่รู้จะเลือกดื่มเครื่องดื่มอะไรดี ระหว่างน้ำอัดลม กับกาแฟ โดยเฉพาะในช่วงเวลาบ่าย-เย็น ในระหว่างเรียนหนังสือ การทำงาน หรือระหว่างการเดินทาง

การเปิดตัวเครื่องดื่มผสมกาแฟในประเทศสหรัฐอเมริกาครั้งนี้ เป็นการแสดงให้เห็นว่าเส้นแบ่งระหว่างเครื่องดื่มน้ำอัดลม กับกาแฟ เริ่มมีเส้นแบ่งที่จางลงเรื่อยๆ ในขณะที่เครื่องดื่มกาแฟพร้อมดื่ม เป็นเครื่องดื่มที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในกลุ่มคนวัยรุ่นเจน Z และคนรุ่นใหม่

นอกจากนี้การที่ Coca-Cola เปิดตัวเครื่องดื่มผสมกาแฟ เป็นเพราะช่องว่างในการทำตลาดเครื่องดื่มกาแฟพร้อมดื่ม ที่มักไม่ค่อยมีผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล เพราะเครื่องดื่มกาแฟพร้อมดื่มเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของนมเป็นหลัก แต่ Coca-Cola with Coffee เป็นการอุดช่องว่างตรงนี้เพราะเป็นเครื่องดื่มที่อยู่ตรงกลางระหว่างน้ำอัดลม กับกาแฟ จึงสามารถทำสูตรไม่ผสมน้ำตาล (Zero) ได้

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา Coca-Cola เคยวางจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีการผสมกาแฟมาแล้วก่อนหน้านี้ 50 ประเทศทั่วโลก เช่น ในประเทศญี่ปุ่น โดยมีการปรับปรุงรสชาติให้เหมาะสมกับความชอบของคนในแต่ละพื้นที่

ที่มา – Coca-Cola, usatoday

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา