ทำหน้าที่รัฐมนตรีต่างประเทศภายใต้ยุคโดนัลด์ ทรัมป์จนวาระสุดท้ายจริงๆ สำหรับ Mike Pompeo ที่โจมตีจีนไม่หยุด ล่าสุดเขาบอกว่า จีนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนกลุ่มน้อยมุสลิมอุยกูร์ที่อาศัยอยู่ทางตะวันตกของมณฑลซินเจียง
Less than 24 hours before Secretary of Disinformation Mike Pompeo is gone for good. Time to celebrate.
— Chen Weihua (陈卫华) (@chenweihua) January 19, 2021
เขาทวีตข้อความดังกล่าวผ่านแอคเคาท์ทวิตเตอร์ของเขาเอง ทำให้คอลัมนิสต์จากหนังสือพิมพ์ China Daily ของจีนต้องออกมาทวีตตอบว่า เหลือเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง รัฐมนตรีกระทรวงบิดเบือนข้อมูล Mike Pompeo ก็จะไปดีแล้ว ถึงเวลาฉลองเสียที
สำหรับ Mike Pompeo ถือว่ามีผลงานในการโจมตีจีนได้อย่างโดดเด่น ต่อเนื่อง ตลอดช่วงวาระที่เขาดำรงตำแหน่ง
- สหรัฐฯ ยังรุกจีนหนัก: ขอจีนเคลียร์เรื่องโควิดอย่างจริงใจ, ปล่อยคนเห็นต่างทางการเมือง
- สหรัฐฯ แบนวีซ่าคนจีนที่ทำงาน Huawei ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนและเรียกร้องแก้ปัญหาทะเลจีนใต้
- “WHO ถูกรัฐบาลจีนซื้อไปแล้ว” สหรัฐฯ ยังไม่หยุดโจมตีจีนและองค์การอนามัยโลก
- ทำความรู้จัก “Quad” ภาคี 4 ฝ่ายต้านจีน: สหรัฐฯ ญี่ปุ่น อินเดีย และออสเตรเลีย
ผลงานโดดเด่นขนาดนี้ มีหรือจีนจะปล่อยให้สร้างความวุ่นวายกับจีนได้อีกต่อไป ล่าสุด Hua Chunying โฆษกกระทรวงต่างประเทศ จีน ออกคำสั่งคว่ำบาตร Mike Pompeo เรียบร้อย
Foreign Ministry Spokesperson Announces Sanctions on Pompeo and Others:
?https://t.co/DE8JOonqbo pic.twitter.com/gJJm3eViF0— Hua Chunying 华春莹 (@SpokespersonCHN) January 20, 2021
คำประกาศสั่งแบนห้ามเข้าประเทศจีนดังกล่าว ไม่ได้ระบุไว้แค่ Mike Pompeo เท่านั้น แต่ยังมีทั้งหมดรวม 28 คน โดยเนื้อหาระบุว่า ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ มีนักการเมืองสหรัฐอเมริกาที่มีท่าทีต่อต้านจีน มีอคติและสร้างความเกลียดชังจีน ท่าทีดังกล่าวมีการวางแผนมาอย่างดี มีทั้งการสนับสนุน จัดการและมีการเคลื่อนไหวที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง มีความพยายามที่จะแทรกแซงกิจการภายในจีน สร้างความขุ่นเคืองใจให้แก่ชาวจีนและยังทำลายความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา
ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลจีนยืนยันที่จะแก้ไขปัญหาเพื่อปกป้องอำนาจอธิปไตยชาติจีน โดยตัดสินใจคว่ำบาตรบุคคลที่มุ่งร้ายต่ออำนาจอธิปไตยจีน ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวพันโดยตรงต่อการเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ ต่อจีน ซึ่งก็เป็นผู้ที่ดำรงตำแหน่งสมัยโดนัลด์ ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีทั้งนั้น รายชื่อที่ถูกขึ้นบัญชีดำคร่าวๆ ดังนี้
- Michael R. Pompeo (รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ)
- ปีเตอร์ เค นาวาร์โร (ผู้อำนวยการสำนักนโยบายด้านการค้าและการผลิต)
- โรเบิร์ต ซี โอไบรอัน (ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ)
- เดวิด อาร์ สติลเวลล์ (ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศ กิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก)
- แมทธิว พอททิงเกอร์ (รองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ)
- อเล็กซ์ เอ็ม อซาร์ ทู (รัฐมนตรีสาธารณสุข)
- คีธ เจ คราช (ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ
- เคลลี ดี เค คราฟต์ (เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ)
- จอห์น โบลตัน (อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ)
- สตีเฟน เค แบนนอน (ผู้ช่วยประธานาธิบดีและหัวหน้านักยุทธศาสตร์แห่งทำเนียบขาว)
รายชื่อทั้งหมดที่ว่ามาและบุคคลที่เหลือรวม 28 คนและสมาชิกครอบครัวของพวกเขาถูกสั่งห้ามเข้าประเทศจีน, ฮ่องกงและมาเก๊า และยังห้ามดำเนินธุรกิจหรือทำงานเกี่ยวข้องกับจีนด้วย
ที่มา – Financial Times, MFA China
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา