สัปดาห์ที่จะถึงนี้ โลกย่อมจับตาพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 46 ของโจ ไบเดน ท่ามกลางข่าวกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์เตรียมก่อความรุนแรงอีกรอบ
แต่ในอีกด้าน ทีมงานของไบเดนก็เตรียมงานอย่างหนักเพื่อออกนโยบายต่างๆ “ทันที” ที่เขารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ
ธรรมเนียมการเซ็นคำสั่งทางปกครองตามอำนาจประธานาธิบดี (executive order) ในวันแรกที่รับตำแหน่งนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ และอดีตประธานาธิบดีหลายคนก็ใช้วิธีนี้เพื่อแสดงให้ฐานเสียงผู้สนับสนุนตนเองเห็นว่า “เริ่มทำงานทันที” อย่างคำสั่งแรกที่โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในวันที่ 21 มกราคม 2017 คือการปรับแก้กฎหมายหลักประกันสุขภาพ (Obamacare) ไปบางส่วนเท่าที่อำนาจประธานาธิบดีสามารถทำได้
แนวทางของไบเดนก็เป็นไปในลักษณะเดียวกันคือ ยกเลิกหรือแก้ไขนโยบายหลายๆ อย่างที่ทรัมป์ทำไว้ โดย Ron Klain หัวหน้าคณะทำงานของไบเดนได้ส่งบันทึกแจ้งทีมงาน ถึงแผนการที่จะทำใน 10 วันแรกของไบเดน
คำสั่งแรกๆ ที่ไบเดนจะลงนามในวันแรกหลังรับตำแหน่ง คือยกเลิกนโยบายการปิดกั้นผู้อพยพจากประเทศมุสลิมบางประเทศไม่ให้เข้าสหรัฐ, พาสหรัฐอเมริกากลับเข้าร่วมข้อตกลง Paris Accord ด้านภูมิอากาศ และสั่งบังคับใส่หน้ากากในพื้นที่ของหน่วยงานรัฐบาล และขณะเดินทางข้ามรัฐ (อำนาจของการเดินทางภายในรัฐอยู่ที่ผู้ว่าการรัฐ)
ในวันที่สอง ไบเดนจะเซ็นคำสั่งด้านการเปิดโรงเรียนและภาคธุรกิจกลับคืนมา เพิ่มศูนย์การทดสอบผู้ติดเชื้อ
ส่วนวันที่สาม ไบเดนจะเซ็นคำสั่งด้านเศรษฐกิจ ช่วยสนับสนุนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจยุคหลังโรคระบาด
จากนั้นในสัปดาห์ถัดไป จะมีคำสั่งเรื่องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม, การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และผู้อพยพ โดยเฉพาะครอบครัวที่ถูกแยกจากกันหลังทรัมป์มีนโยบายด้านผู้เข้าเมืองอเมริกา-เม็กซิโก
อย่างไรก็ตาม บททดสอบ “ของจริง” ที่ไบเดนต้องเผชิญ จะอยู่ที่การผลักดันกฎหมายสำคัญหลายตัวที่ต้องผ่านกลไกรัฐสภา โดยเฉพาะกฎหมายแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดยักษ์ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ที่เขาเพิ่งเสนอต่อสาธารณะ รวมถึงกฎหมายด้านปฏิรูประบบคนเข้าเมืองและผู้อพยพด้วย
ที่มา – AP
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา