ออฟฟิศยังจำเป็นอยู่อีกหรือ? ชวนอ่าน 5 สตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จได้ โดยไม่ต้องมีออฟฟิศ

ตื่นเช้า เดินทาง เจอรถติด ไปเข้าออฟฟิศ แค่คิดก็ปวดหัว แต่ทำอย่างไรได้ในเมื่อการเข้าออฟฟิศเป็นเงื่อนไขหนึ่งของการทำงาน แต่ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยีทุกวัน ลองไปอ่าน 5 บริษัทสตาร์ทอัพเหล่านี้ว่าเขาคิดอะไรกัน?

Stack Overflow

ก่อตั้งเมื่อปี 2008 เป็นสตาร์ทอัพที่พัฒนาซอฟต์แวร์ออนไลน์ให้กับบริษัทเอกชน เขาบอกเลยว่า เวลาของการทำงานที่มีประสิทธิภาพของแต่ละคนไม่ควรจำกัดไว้ให้เหมือนกันหมด เพระแต่ละคนมีเวลาที่ทำงานได้ดีแตกต่างกันออกไป ยังมิพักต้องพูดถึงเวลากินข้าว เวลาพักผ่อน เวลาทำอะไรอีกสารพัดที่ต่างกัน เพราะฉะนั้น เราจะต้องมีออฟฟิศให้เข้าไปเพื่ออะไร อีกอย่างที่สำคัญการทำงานด้านนี้ เมื่อเจอปัญหาของลูกค้าที่ส่งมาให้แก้ การจัดการตรงนั้นเป็นสิ่งที่ทีมงานสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง หากมีปัญหาก็ปรึกษาทีมผ่านระบบออนไลน์ได้ และเอาเข้าจริงถ้ามีออฟฟิศ บางครั้งเมื่อเจอปัญหา ก็อาจทำให้เสียสมาธิได้ง่ายอีกด้วย

Teamwork.com

ก่อตั้ง 2007 สตาร์ทอัพจัดการโครงการซอฟต์แวร์ในบริษัทโปรแกรมเมอร์เอกชน สตาร์ทอัพรายนี้บอกง่ายๆ เลยว่า เราต้องการให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ของเรา เวลาทำงานนั้นรู้สึกได้ว่า “Flow” หรือว่า “ลื่นไหล” ได้ตลอดเวลา มันก็คล้ายๆ กับการเขียนหนังสือที่คุณไม่ต้องการให้อะไรหรือใครมาทำให้สะดุดเวลากำลังแต่งสร้างตัวละคร หรือเขียนพล็อตเรื่อง เพราะถ้าไอเดียมันหายไปแล้ว การจะกู้กลับมาอีกครั้ง มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

Automattic

ก่อตั้งใน 2005 บริษัทนี้ทำเกี่ยวกับซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส ก็อย่างเช่น WordPress.com (ที่ Brand Inside กำลังใช้อยู่นี้) สตาร์ทอัพรายนี้บอกว่า การทำงานโดยไม่มีออฟิศดีตรงที่สามารถจ้างคนเก่งๆ ได้ เพราะใครก็อยากทำงานในสภาพแวดล้อมที่ยืดหยุ่น และอีกอย่างคนที่เป็นพนักงานของที่นี่อยู่ในทุก Time Zone กระจายตัวไปทั่วโลก การทำงานในออฟฟิศจึงไม่ตอบโจทย์ เพราะเวลาในการทำงานจะเป็นสิ่งที่พนักงานของเราจะเลือกได้เอง

GitLab

ก่อตั้งในปี 2011 สตาร์ทอัพพัฒนาซอฟต์แวร์รายนี้บอกว่า เราต้องการให้พนักงานของเรามีความสุขมากขึ้นกับชีวิตการทำงาน เพราะการทำงานจะเกิดขึ้นที่ไหนหรือเวลาใดก็ได้ ที่สำคัญคือพนักงานของเราจะได้ใช้เวลากับคนที่เขารัก การไม่ต้องเข้าออฟฟิศยังจะทำให้เจอคนใหม่ๆ บางครั้งอาจเป็นคนเก่งๆ แล้วชักชวนเข้าร่วมทีม ก็จะทำให้บริษัทมีคุณภาพขึ้นไปอีก แต่ที่แน่ๆ คือพนักงานจะมีความสุขขึ้น เพราะจะได้ใช้เวลากับครอบครัว ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมาเข้าออฟฟิศในทุกวันนั่นเอง

Chargify

ก่อตั้งในปี 2011 สตาร์ทอัพซอฟต์แวร์จัดการการเก็บเงิน (Billing software) การไม่มีออฟฟิศไม่ใช่แค่การทำให้หาคนเก่งๆ มาร่วมทีมง่ายขึ้นเท่านั้น แต่มันทำให้การบริหารงานในหลาย Time Zone มีประสิทธิภาพ ทำให้การขยายบริการของบริษัทไปในภูมิภาคต่างๆ วัฒนธรรมต่างๆ เป็นไปได้ด้วยดีมากขึ้น นอกจากนั้นสตาร์ทอัพรายนี้ยังบอกว่า สำหรับเราแล้วการทำงานโดยไม่ต้องเข้าออฟฟิศคือหัวใจของการประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้

สรุป

ในโลกยุคที่ทุกธุรกิจต้องเร่งนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ ไม่ใช่เพราะต้องการความก้าวหน้าเท่านั้น แต่มันคือความจำเป็น ถ้าไม่ทำก็ตกยุค แต่ทีนี้ต้องตระหนักว่า ธรรมชาติของเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตคือการกระจายตัวอยู่ในทุกที่ ความคิดแบบโลกเก่าที่การทำงานต้องมารวมกันในออฟฟิศก็จะสำคัญน้อยลงทุกที

อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้คาดหวังว่าทุกบริษัทจะต้องเปลี่ยนมาเป็นการทำงานที่ไม่มีออฟฟิศ เพียงแต่อยากทำให้เห็นว่าบริษัทที่ไม่มีออฟฟิศเขาคิดอะไร และที่สำคัญโลกมันเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหนแล้วเท่านั้นเอง

ที่มา –INC

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา