ส่องตลาดนมอัลมอนด์ 700 ล้านบาท กับ 137 ดีกรี เบอร์ 1 ตลาดนี้ แถมเป็นแบรนด์ไทยที่แซงต่างชาติได้

หลังโรคโควิด-19 ระบาด ผู้บริโภคเริ่มใส่ใจสุขภาพมากขึ้น และนมทางเลือก หรือนมถั่ว และนมธัญพืช คือหนึ่งในสินค้าที่ได้รับความนิยมสูง ผ่านตลาดที่เติบโตถึง 41% และมีมูลค่า 1,399 ล้านบาท โดยมีนมอัลมอนด์เป็นสินค้ายอดนิยม ผ่านการกินส่วนแบ่งของตลาดนี้ถึง 50% หรือราว 700 ล้านบาท

แบรนด์ 137 ดีกรี ของ บริษัท ซิมเพิ้ล ฟู้ดส์ จำกัด คือผู้นำของตลาดนมอัลมอนด์ ผ่านการกินส่วนแบ่งของสินค้าประเภทนี้ที่ 42% ซึ่งในฐานะผู้นำ การจะอยู่เฉย ๆ ก็คงไม่ได้ ทำให้หลังจากทำตลาดมา 9 ปี แบรนด์ 137 ดีกรี ตัดสินใจปรับภาพลักษณ์แบรนด์เล็กน้อย พร้อมใช้ ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต เป็นพรีเซนเตอร์

ทั้งสองกลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับสินค้านมอัลมอนด์ของ 137 ดีกรี ได้อย่างไร และภาพรวมตลาดนมทางเลือกจะมีโอกาสเติบโตได้อีกหรือไม่ มาร่วมกันหาคำตอบได้จาก อริสา อร่ามวัฒนานนท์ กรรมการผู้จัดการ และผู้ก่อตั้ง บริษัท ซิมเพิ้ล ฟู้ดส์ จำกัด ดังนี้

137 ดีกรี

นมทางเลือก ตลาดที่ยังเติบโตต่อเนื่อง

อริสา อร่ามวัฒนานนท์ กรรมการผู้จัดการ และผู้ก่อตั้ง บริษัท ซิมเพิ้ล ฟู้ดส์ จำกัด เล่าให้ฟังว่า ในระดับโลก ภาพรวมตลาดนมทางเลือก (RNGS: Rice, Nuts, Grains และ Seeds-Based) หรือนมที่ไม่ใช่นมวัว และนมถั่วเหลืองยังมีการเติบโตต่อเนื่อง ในปี 2023 มีมูลค่ากว่า 3.6 แสนล้านบาท ผ่านปัจจัยเรื่องการใส่ใจสุขภาพเป็นหลัก

เช่นเดียวกับในประเทศไทยที่ตลาดนมทางเลือกในปี 2023 มีมูลค่าถึง 1,399 ล้านบาท เติบโตถึง 41% ผ่านตัวแปรเรื่องสุขภาพ รวมถึงมีแบรนด์ต่าง ๆ ทั้งใน และต่างประเทศหันมาทำตลาดนมอัลมอนด์ในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งในปี 2024 แนวโน้มการเติบโตยังมีเช่นเดิม แต่อาจไม่ก้าวกระโดด ผ่านฐานของมูลค่าที่ค่อนข้างใหญ่

“ในตลาดโลกนมอัลมอนด์มีมูลค่าสูงถึง 1.5 แสนล้านบาท ส่วนในประเทศไทย นมอัลมอนด์คิดเป็นครึ่งหนึ่งของตลาดนมทางเลือก หรือราว 700 ล้านบาท เหนือกว่านมทางเลือกประเภทอื่น เช่น นมโอ๊ต, นมธัญพืช และนมข้าว แสดงให้เห็นถึงผู้บริโภคมีความใจ และความต้องการสินค้านี้มากขึ้นในไทย”

137 ดีกรี

ครองผู้นำตลาดนมอัลมอนด์ พร้อมขับเคลื่อนให้ตลาดโต

สำหรับตลาดนมอัลมอนด์ บริษัท ซิมเพิ้ล ฟู้ดส์ จำกัด ทำตลาดสินค้าภายใต้แบรนด์ 137 ดีกรี ผ่าน 5 รสชาติ ทั้งถือเป็นผู้บุกเบิกตลาดนมอัลมอนด์ในประเทศไทย ผ่านการทำตลาดสินค้านี้มา 9 ปี จนปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดนมอัลมอนด์ที่ 42%

“เราเน้นเรื่องนวัตกรรม และเป็นเจ้าแรกที่เปิดตัวนมจากถั่วเปลือกแข็ง และถึงช่วงแรกที่เราทำตลาดจะโปรโมตน้อยมาก แต่ยอดขายมีการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนปัจจุบันเริ่มบุกตลาด Mass มากขึ้น ตอบโจทย์มากกว่าแค่คนที่ดื่มนมวัวไม่ได้ กับคนรักสุขภาพ เป็นเจาะกลุ่มผู้สูงอายุ และหญิงตั้งครรภ์ เพราะนมอัลมอนด์มีโฟเลตสูง และมีค่า GI ต่ำ”

ทั้งนี้เพื่อครองตำแหน่งเบอร์หนึ่ง และขับเคลื่อนตลาดนี้ให้เติบโต 137 ดีกรี มีการปรับภาพลักษณ์แบรนด์เล็กน้อย ผ่านการเพิ่มสีทองเข้าไปในโลโก้ พร้อมดึง ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต มาเป็นพรีเซนเตอร์ช่วยสื่อสารแบรนด์ ซึ่งตอบโจทย์ทั้งคนรุ่นใหม่ และคนที่ใส่ใจสุขภาพ รวมถึงผู้สูงอายุ และหญิงมีครรภ์

ตลาดนมอัลมอนด์แข่งเดือน ผ่านผู้เล่นกว่า 20 แบรนด์

อริสา เสริมว่า ภาพรวมตลาดนมอัลมอนด์ในประเทศไทยมีการแข่งขันสูง ผ่านผู้เล่นในตลาดทั้งในไทย และจากต่างประเทศกว่า 20 แบรนด์ โดยตลาดนี้ผู้บริโภคจะเน้นทดลองซื้อสินค้าหลากหลายแบรนด์เพื่อหาแบรนด์ที่ชอบ และจากนั้นจึงจะเกิดการซื้อซ้ำ ซึ่งอาจใช้เวลาค่อนข้างนาน

“เมื่อแข่งขันกันเยอะ เราจำเป็นต้องเพิ่มความแข็งแกร่งให้แบรนด์ และพยายามสื่อสารข้อมูลสินค้าไปถึงลูกค้ากลุ่มต่าง ๆ มากขึ้น ทั้งยังเปิดตัวนมทางเลือกประเภทอื่น เช่น นมวอลนัต, พิสตาชีโอ และแมคาเดเมีย รวมถึงบุกตลาด B2B ผ่านการจำหน่ายเข้ากลุ่มโรงแรม, ร้านอาหาร และร้านกาแฟ แต่ลูกค้ากลุ่มนี้ยังไม่ถึง 10% ของยอดขาย”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันนมอัลมอนด์มีผู้เล่นที่คุ้นชื่อจากต่างประเทศเป็นหลัก เช่น แบรนด์ Almond Breeze จากสหรัฐอเมริกา, Alpro จากยุโรป และ Almond Koka จากญี่ปุ่น รวมถึงยังมีกลุ่มนมโอ๊ตที่เป็นกระแสเมื่อ 1-2 ปีก่อน มาช่วยแย่ง และขับเคลื่อนตลาดนมทางเลือกให้เติบโตเช่นกัน

เจาะลึก ซิมเพิ้ล ฟู้ดส์ ที่ไม่ได้มีแค่ 137 ดีกรี

บริษัท ซิมเพิ้ล ฟู้ดส์ จำกัด มีการส่งออกแบรนด์ 137 ดีกรี ไปจำหน่ายใน 30 ประเทศ และสามารถเป็นอันดับ 1 ในตลาดนมอัลมอนด์ได้ในพื้นที่กัมพูชา, ลาว, เมียนมา และเวียดนาม รวมถึงแข่งขันได้ในหลายตลาด ผ่านโรงงานมีผลิตได้กว่า 2 ล้านลิตร/เดือน และยังเพิ่มกำลังการผลิตได้

นอกจาก 137 ดีกรี ซิมเพิ้ล ฟู้ดส์ ยังมีแบรนด์ Wholly Nuts ที่จำหน่ายนมทางเลือกเช่นกัน และ Happy Addey จำหน่ายไอศกรีมจากนมอัลมอนด์ โดยบริษัทต้องการปรับภาพลักษณ์ให้แบรนด์สินค้าจากไทยไม่ได้มีดีแค่สินค้าราคาสมเหตุสมผล แต่ยังมีความยั่งยืนอยู่ในตัว

ทั้งนี้หากเปรียบเทียบราคาของนมทางเลือก กับนมวัว หรือนมถั่วเหลืองจะพบว่า ปริมาณ 1 ลิตร จะมีความแตกต่างของราคาราว 1 เท่า เช่น นมวัวแบรนด์เมจิขนาด 2 ลิตร ราคาราว 95 บาท (ลิตรละ 47.5 บาท) ส่วน 137 ดีกรี นมอัลมอนด์ 1 ลิตร ราคาราว 130 บาท เป็นต้น

อ้างอิง // Simple Foods

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา