YouTrip เผย คนไทยไปต่างประเทศ ‘กินถูกช็อปแพง’ นิยมญี่ปุ่นอันดับ 1 จีนมาแรงหลังฟรีวีซ่า

YouTrip เปิดข้อมูลเชิงลึกการเดินต่างไปต่างประเทศของนักท่องเที่ยวไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่เพิ่งผ่านมา พบว่าคนไทยเน้นช็อปปิ้ง  สนใจในสถานที่เที่ยวใหม่ ๆ 

การท่องเที่ยวของคนไทยผ่านสายตา YouTrip

จุฑาศรี คูวินิชกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง YouTrip ประเทศไทยเผยว่า ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา การใช้จ่ายไปกับการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยเพิ่มขึ้น 150% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ข้อมูลพบว่า คนไทยยังมีพฤติกรรมกินถูกช็อปแพงจากความต้องการท่องเที่ยวหลังโควิด-19 ไปพร้อมกับความต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย 

กิจกรรมที่คนไทยทำในต่างประเทศ อันดับแรก 54% ไปท่องเที่ยวเพื่อช็อปปิ้ง บ่งบอกว่าคนไทยมีความสุขกับการจับจ่ายใช้สอย นอกจากนี้ ยังพบว่า ไม่ว่าจะเดินทางไปประเทศไหน คนไทยนิยมใช้บริการ 7-11, POP MART รวมทั้งซื้อสินค้าหรูโดยเฉพาะแบรนด์ Goyard ที่เห็นการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น 

ขณะที่ 14% เดินทางไปเพื่อชิมอาหาร แต่มักเลือกร้าน Fast Food เพราะความสะดวกและคุ้นเคยกันอยู่แล้ว หลายคนเข้าร้านขายของชำและซุปเปอร์มาเก็ต สะท้อนว่าคนไทยชื่นชอบที่จะทำอาหารกินเอง

สำหรับจุดหมายปลายทางในต่างประเทศที่นักท่องเที่ยวไทยนิยม อันดับแรกยังเป็นญี่ปุ่น โดย 31% ของลูกค้า YouTrip ที่เดินทางต่างประเทศเลือกไปญี่ปุ่น โดยมีปัจจัยสนับสนุนอยู่ที่ทิวทัศน์ อาหาร วัฒนธรรม การช็อปปิ้ง ประกอบกับเงินเยนที่อ่อนค่าลงและราคาสินค้าที่ไม่ได้มีการปรับเท่าไรนัก ทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปญี่ปุ่น 58% ใช้เงินไปกับการช็อปปิ้ง ถือว่าสูงเป็นอันดับ 1 รวมทั้งยังใช้เงินไปกับสินค้าหรูเพิ่มขึ้น 2 เท่าเทียบกับปีที่แล้ว ทำให้ยอดการใช้จ่ายพุ่งสูง

นอกจากนี้ YouTrip พบว่า ผู้ใช้ได้แลกเงินบาทเป็นเงินเยนผ่านแอปพลิเคชัน YouTrip เพิ่มขึ้น 3 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว 

จีนเป็นประเทศที่กำลังได้รับความนิยมมาแรงที่สุดหลังจากการเริ่มนโยบายฟรีวีซ่า  ทำให้ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา มีปริมาณการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้น 466% และกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับที่ 2 โดยเมืองที่ผู้ใช้ YouTrip ชื่นชอบ คือ เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง เซินเจิ้น และเฉิงตู

ในจีนจะใช้จ่ายเงินผ่าน Vision Pay และ Alipay เป็นหลักซึ่งคนไทยยังไม่สามารถใช้ได้ ในข้อนี้ YouTrip มองว่า อาจมีผลต่อการท่องเที่ยวในจีนบ้าง แต่ไม่ได้ทำให้คนไทยไม่อยากเดินทางไปจีนเพราะ YouTrip เองก็ผูกกับบริการ WeChat Pay และ Alipay

ในระยะสั้นและระยะกลาง YouTrip มองว่า ญี่ปุ่นจะยังได้รับความนิยมสูงสุด โดยเฉพาะการช็อปปิ้งเพราะมีสินค้าที่ไม่เหมือนประเทศอื่น และสถานที่ท่องเที่ยวโดยเฉพาะ Theme Park ที่ให้บริการและสร้างประสบการณ์ต่างจากประเทศอื่น

YouTrip เป็นดิจิทัลวอลเล็ตหลายสกุลเงินที่เปิดตัวเมื่อปี 2562 มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 1.5 ล้านครั้ง เติบโตเร็วที่สุดในตลาดของดิจิทัลวอลเล็ตโดยเติบโต 3 เท่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาหลังจากโควิด-19 สำหรับการเพิ่มอัตราแลกเปลี่ยน มองว่าจะเพิ่มอีก 10 หน่วยแต่ยังต้องใช้เวลาวิเคราะห์ทิศทางการท่องเที่ยวก่อน

คนไทยเที่ยวด้วยตัวเองมากขึ้น

ภิรมย์ทิศ ทองแถม ณ อยุธยา หัวหน้ากลุ่มงานการตลาดผลิตภัณฑ์ บมจ. การบินไทย เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่ช่วงหลังโควิด-19 ยอดการเดินทางค่อนข้างสูงและฟื้นฟูขึ้นในหมู่นักท่องเที่ยวไทย เทรนด์ที่สังเกตเห็น คือ การจองบัตรโดยสารแบบท่องเที่ยวอิสระ (FIT) มากขึ้นจากเดิมที่มักเดินทางไปกับบริษัททัวร์ เพราะเทคโนโลยีก้าวหน้ามากขึ้น

ข้อมูลจากการบินไทยพบว่า ญี่ปุ่นยังได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่าน โดยมีปัจจัยเสริมจากสภาพอากาศที่อุณหภูมิต่ำกว่าไทย มีทิวทัศน์ธรรมชาติ และเงินเยนที่อ่อนค่าลง เส้นทางการบินหลักในญี่ปุ่นจากนักท่องเที่ยวไทยมีอยู่ทุกเมือง โดยโตเกียวมาเป็นอันดับ 1 และเติบโตสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในปีนี้ ส่วนซัปโปโลเติบโตอย่างรวดเร็วจากที่คนไทยมักจะเดินทางไปในฤดูหนาว

ข้อมูลจากการบินไทยเป็นไปในทิศทางเดียวกับ YouTrip ว่า การเดินทางไปจีนเติบโตเร็วที่สุด ช่วงกรานต์ที่ผ่านมา เติบโตขึ้นราว 5 เท่าเทียบกับเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว 

การบินไทยตั้งเป้าว่า สัดส่วนเที่ยวบินจะฟื้นตัวกลับมาเทียบเท่ากับปี 2019 แม้ว่าในปัจจุบันจะยังไม่ได้ให้บริการเที่ยวบินครบ 100% 

นักท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับประกันภัย

วาสิต ล่ำซำ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ. เมืองไทยประกันภัย ให้มุมมองว่า หลังจากโควิด-19 นักท่องเที่ยวไม่เฉพาะคนไทยให้ความสำคัญกับประกันภัยทำให้อัตราการซื้อเพิ่มขึ้นมาก สิ่งที่เห็นเพิ่ม คือ การซื้อประกันภัยเพิ่มที่ครอบคลุมเรื่องปัญหาการเดินทาง เช่น การยกเลิกเที่ยวบิน กระเป๋าเสียหาย 

ทางด้านจุดหมายที่คนไทยนิยมในต่างประเทศ 1 ใน 3 ของผู้ซื้อประกันภัยเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น ถือว่าสูงเป็นอันดับ 1 รองลงมาเป็นเกาหลีใต้ และจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากปีที่แล้วที่อยู่ในอันดับ 7 เพราะความสะดวกจากการฟรีวีซ่า

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่คนทุกรุ่นสามารถไปเที่ยวร่วมกันได้ เพราะอากาศดี มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒธรรม การเดินทางด้วยตัวเองสามารถทำได้ง่าย ญี่ปุ่นจะมีค่าเฉลี่ยอายุคนที่เดินทางไปน้อยกว่าจีน ส่วนคนที่เดินทางไปจีนจะมีความสนใจที่เฉพาะเจาะจงกว่า

สำหรับมูลค่าเบี้ยประกันการเดินทางของเมืองไทยประกันภัย ในปีที่แล้วกลับมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด-19 ส่วนในปีนี้ คาดว่าอาจจะเติบโต 5% ในช่วง 2-3 เดือนแรกจากการขยายความคุ้มครอง

Klook ส่งครีเอเตอร์ทำคอนเทนต์โปรโมทที่เที่ยว

มิเชล โฮ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท Klook ประจำประเทศไทยและฟิลิปปินส์ เผยว่า ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา มียอดการจองบน Klook เพิ่มขึ้น คนไทยนิยมไปเที่ยวประเทศในเอเชียที่มีอากาศหนาว เช่น ญี่ปุ่น ฮ่องกง ที่เห็นการเติบโตขึ้นเป็นตัวเลข 2-3 หลัก

Klook พบว่า เทรนด์การท่องเที่ยวเริ่มเปลี่ยนไปจากอิทธิพลของโซเชียลมีเดีย ก่อนหน้านี้ นักท่องเที่ยวจะมีที่เที่ยวในใจอยู่แล้ว แต่ปัจจุบันเป็นการเที่ยวตามโซเชียลมีเดียโดยเฉพาะ TikTok มักจะไปในสถานที่ที่ถ่ายรูปสวย ทำให้ Klook มีโอกาสเพิ่มบริการในที่เที่ยวอื่น ๆ 

จุดหมายปลายทางยอดนิยมยังเป็นญี่ปุ่นและยังนิยมกลับมาท่องเที่ยวซ้ำด้วยโดยนิยมท่องเที่ยวอิสระและไปในสถานที่ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น ทำให้ Klook ส่งครีเอเตอร์สายท่องเที่ยวเพิ่มไปทำคอนเทนต์ในญี่ปุ่นพร้อมกับเสนอบริการสำหรับการท่องเที่ยวส่วนตัวมากขึ้น เช่น การเช่ารถ  

นอกจากนี้ นโยบายฟรีวีซ่าทำให้นักท่องเที่ยวไปจีนเพิ่มขึ้น 4 เท่าในด้านของกิจกรรม ทำให้คนสนใจในจีนมากขึ้น แต่ยังมีอุปสรรคที่การเข้าถึงข้อมูลการท่องเที่ยวในจีนได้อย่างจำกัดในหมู่นักท่องเที่ยวไทย ไม่เหมือนญี่ปุ่นที่คุ้นเคยกันอยู่แล้ว ทำให้ Klook พยายามจะเพิ่มสื่อและข้อมูลในการไปเที่ยวจีนให้มากขึ้น

ส่วนเทรนด์การท่องเที่ยวในอนาคต Klook คาดว่า ผู้ใช้แอปพลิเคชันจะมีอายุเฉลี่ยน้อยลง เป็นกลุ่ม Gen Y และ Gen Z 

ที่มา – YouTrip

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา