เอาเข้าจริง ปัญหาไม่มีเงินจ่ายค่าบ้าน ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่า หรือค่าซื้อบ้าน น่าจะเป็นปัญหาร่วมสมัยของคนรุ่นใหม่ในหลายๆ ชาติ
Business Insider นำเสนอเรื่องราวของ Park Su-Ah สาวเกาหลีวัย 25 ปี ทำอาชีพผู้จัดการฝ่ายบัญชี เธอบอกว่าถ้าเรื่องเงินไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญของชีวิต เธอก็อยากจะอาศัยอยู่ในบ้านที่เต็มไปด้วยหนังและกองหนังสือ
เธออยากจะมี Walk-in Closet หรือห้องเก็บเสื้อผ้าที่ตกแต่งด้วยเสื้อผ้าและเครื่องประดับของตัวเอง อยากมีห้องมีเดียที่สามารถเล่นวิดีโอเกมได้เต็มที่ แต่ตอนนี้สิ่งที่คาดหวังทั้งหมดยังเป็นได้แค่ฝัน
Park ยังอาศัยอยู่กับพ่อแม่ในเมืองคยองกี ซึ่งก็คือเมืองบริวารหรือเมืองย่อยของโซล เกาหลีใต้ มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 1 ล้านคน เป็นเมืองที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม มีห้างสรรพสินค้า มีโรงเรียน มีอพาร์ทเมนท์และสวนที่ตกแต่งงดงามหลายแห่ง
ในเกาหลีใต้ ใครก็ตามที่เกิดช่วงปี 1980-2005 ก็คือคนที่ถูกให้จัดอยู่ในกลุ่ม MZ หรือกลุ่มมิลเลนเนียลและกลุ่ม Gen Z ซึ่งมีจำนวน 1 ใน 3 ของประเทศ มีจำนวนประชากรทั้งหมด 52 ล้านคน Park บอกว่าอสังหาริมทรัพย์ในเกาหลีใต้มีราคาค่อนข้างสูง อพาร์ทเมนท์ในเมืองที่เธออาศัยอยู่ มีขนาดราว 109 ตารางเมตร ราคาสูงถึง 606,570 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 20.9 ล้านบาท นี่คือราคาในปี 2022 ที่ผ่านมา
Park ทำตำแหน่งผู้จัดการบัญชีของสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง เธอมีรายได้ต่อเดือนที่ 2.2 ล้านวอนหรือ 1,690 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 5.8 หมื่นบาทต่อเดือน ก่อนหน้านั้นเธอก็เป็นครูสอนภาษาอังกฤษมาก่อน เธอจบจากมหาวิทยาลัยวอนกวาง สาขาวรรณคดีอังกฤษ ภาษาและเศรษฐศาสตร์ เธอบอกว่าเลือกเรียนสาขานี้เพราะชอบอ่านหนังสือ แต่ก็คิดว่าจะเรียนสาขาอื่นเพิ่ม เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำงานของตัวเอง
Park วางแผนไว้ว่าจะย้ายออกจากบ้านเมื่อทำงานไปแล้ว 6 เดือน แต่ในความเป็นจริงก็คือ เธอยังคงอยู่บ้านเดียวกับพ่อแม่มา 2 ปีกว่าแล้ว เธอบอกว่าการอยู่กับพ่อแม่และน้องสาวนั้นก็เป็นเรื่องที่ดี เธอรู้สึกปลอดภัย ยิ่งไปกว่านั้น เธอสามารถเก็บเงินได้เมื่ออยู่กับพ่อแม่ ทั้งครอบครัวจะเฝ้ารอเพื่อทานข้าวพร้อมกัน มีแม่คอยทำอาหารให้ทุกวัน งานบ้านก็จะแบ่งกันทำ เธอรับหน้าที่ล้างจาน ทำความสะอาดห้องน้ำสัปดาห์ละครั้งและล้างตู้เย็นเดือนละครั้ง
เธออยู่บ้านหลังนี้มาตั้งแต่ 10 ขวบ มีความสะดวกสบาย ทั้งหลัง มี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ เธอกับน้องสาวต่างมีห้องนอนเป็นของตัวเอง พ่อของเธอเป็นนักธุรกิจ เขาจะใช้ห้องนั่งเล่นไว้ศึกษาและทำงาน แม้บ้านของเธอจะอยู่ในตัวเมืองที่มีความสะดวกสบาย แต่สถานที่ทำงานของเธออยู่ในโซล เธอต้องเดินทางไปทำงานทุกวัน ทุกครั้งที่เดินทางใช้เวลาเป็นชั่วโมง ครึ่งหนึ่งของการเดินทางก็โดยสารโดยขนส่งสาธารณะ เธอต้องจ่ายค่าเดินทางราว 62 เหรียญหรือประมาณ 2 พันกว่าบาทต่อเดือน
แม้จะรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเมื่อใช้ชีวิตอยู่กับพ่อแม่ แต่เธอก็อยากมีอิสระในการใช้ชีวิต บ่อยครั้งที่พ่อแม่ต้องซักไซร้เธอเวลาเธออยากออกไปเที่ยวนอกบ้านตอนกลางคืน เธออยากออกไปใช้ชีวิตคนเดียว แต่การจะย้ายออกจากบ้านก็ต้องใช้เวลานานหน่อย จนกว่าเธอจะเก็บเงินได้มากพอ พอจะซื้ออพาร์ทเมนท์เป็นของตัวเอง
Park เล่าว่า การเช่าที่อยู่อาศัยในเกาหลีใต้มันซับซ้อน มันเรียกว่าระบบ Jeonse (ชอนเซ) ที่ผู้เช่าจะต้องจ่ายเงินเป็นหลักประกันก้อนใหญ่แบบเหมาจ่าย ไม่ใช่การเช่าทั่วไปที่ต้องจ่ายรายเดือน
[ระบบการเช่าแบบชอนเซนี้ถูกนำมาใช้ตั้งแต่ช่วงปี 1959 โดยผู้เช่าจะต้องวางเงินเพื่อเป็นหลักประกันในการเช่าราว 50% หรือ 70% ของมูลค่าทรัพย์สิน เช่าเป็นระยะเวลา 2 ปี เมื่อหมดสัญญาผู้ให้เช่าก็จะคืนเงินทั้งหมดให้แก่ผู้เช่า หากผู้เช่าต้องการต่อสัญญาใหม่ก็ทำได้]
Park ระบุว่า ตอนนี้เธอต้องวางเงินประกันราว 80% และค่าเช่าโดยเฉลี่ยตามสัญญาเช่าแบบชอนเซ ทำให้เธอต้องจ่ายเงินมากถึง 522,642 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 17.89 ล้านบาท Park บอกว่า ราคาค่าบ้านในเกาหลีใต้นั้นโหดมาก ทุกวันนี้เธอก็เอาแต่เก็บเงินเพื่อหาบ้านอยู่ลำพัง และก็รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนตัว ส่วนครอบครัว เธอก็จ่ายเงินในคราวที่ได้พาครอบครัวออกไปดูหนังหรือดูคอนเสิร์ตบ้าง
อย่างไรก็ดี Park เคยคิดว่าจะย้ายออกไปคนเดียว ตอนนี้เธอคิดใหม่แล้ว เธอว่าจะย้ายออกไปอยู่ข้างนอกกับน้องสาววัย 23 ปี และคิดว่าน่าจะย้ายได้ภายในปีหน้า เธอกำลังมองหาอพาร์ทเมนท์ขนาด 2 ห้องนอน และคิดว่าถ้ามีเงินเดือนเพิ่มขึ้นกว่าเดิมสัก 2 เท่า การจัดการเรื่องค่าเช่าบ้านน่าจะทำได้สะดวกสบายกว่านี้
ที่มา – Business Insider, Asia Society
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา