วิเคราะห์ดาต้าช่วยขายรถ! YDM จับมือกรังด์ปรีซ์ พัฒนา Automatrix ระบบปิดการขายด้วยข้อมูล

ธุรกิจรถยนต์คือภาคอุตสาหกรรมที่ใช้เงินโฆษณามหาศาล เช่นในก้อนโฆษณาดิจิทัล 12,000 ล้านบาท เป็นการใช้เกี่ยวกับรถยนต์ถึง 3,000 ล้านบาท แต่เงินเหล่านั้นกลับถูกใช้เพื่อสร้างแบรนด์ และใช้เพื่อปิดการขายน้อยมาก

ปิดการขายอย่างมีประสิทธิภาพ

ปัจจุบันการซื้อรถยนต์ของผู้บริโภคเริ่มมีการตัดสินใจจากการหาข้อมูลผ่านสื่อออนไลน์มากขึ้น ทำให้ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ต่างๆ ลงทุนทำโฆษณาออนไลน์เต็มที่ แต่การกระทำเหล่านี้กลับไม่ได้เก็บฐานข้อมูลของผู้บริโภคที่เข้าถึงโฆษณา และทำให้ค่ายรถยนต์ต่างๆ มีต้นทุนในการสร้าง Lead หรือต้นทุนการสร้างลูกค้าที่สูงมาก

ธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร YDM Thailand เล่าให้ฟังว่า ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ค่อนข้างใช้เงินมหาศาลเพื่อหว่านข้อมูลให้กับผู้บริโภคหลากหลายกลุ่ม ทำให้ต้นทุนการได้ลูกค้ามาค่อนข้างสูง และน่าจะเป็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญหากพัฒนาหากระบบ หรือเครื่องมือที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้

ธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ CEO YDM Thailand
ธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ CEO YDM Thailand

จุดนี้เอง YDM Thailand จึงร่วมมือกับบมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ GPI เพื่อสร้าง Automatrix Solution บริษัทใหม่ที่ดูแลเรื่องการพัฒนาระบบปิดการขายรถยนต์ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อช่วยลดต้นทุนการสร้างลูกค้าของค่ายผู้ผลิตรถยนต์ ผ่านการนำฐานข้อมูลลูกค้ามาวิเคราะห์จนได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

จุดเริ่มต้นคือ Bangkok International Motorshow

“ทั้งสองบริษัทมีการเจรจามาระยะหนึ่งแล้ว แต่จุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจร่วมกันคือใน Bangkok International Motorshow ที่บริษัททำแอปพลิเคชั่น Car Buddy เพื่อใช้ลงทะเบียนเข้างาน และในแอปฯ นั้นมีข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับรถยนต์ด้วย รวมถึงบริษัทยังรับผิดชอบการจัดงานดังกล่าวในรูปแบบออนไลน์”

Car Buddy
แอปพลิเคชั่น Car Buddy

ปัจจุบันแอปพลิเคชั่น Car Buddy มียอดดาวน์โหลดกว่า 1.2 แสนครั้ง ทำให้บริษัทเรียนรู้พฤติกรรมของผู้บริโภค และด้วยการทำการตลาดออนไลน์มาเป็นเวลานาน ทำให้มีฐานข้อมูลของผู้บริโภคอีกจำนวนหนึ่ง เมื่อนำฐานข้อมูลทั้งสองมาประกอบกัน การวิเคราะห์ข้อมูลว่าผู้บริโภคแต่ละคนต้องการซื้อรถยนต์แบรนด์ใดจะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ Automatrix ได้เริ่มทำตลาดผ่านการเจรจากับแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ไปจำนวนหนึ่งแล้ว นอกจากจุดเด่นเรื่องฐานข้อมูล ตัวระบบยังเดินหน้าในรูปแบบ Commission Base หรือการันตียอดขายให้กับค่ายผู้ผลิตรถยนต์ที่ใช้ รวมถึงสามารถปิดการขายโดยใช้ต้นทุนที่น้อยกว่าเดิมเท่าตัว

โฆษณาออนไลน์

40-50 ล้านบาทในปีแรกคือเป้าหมาย

“ค่อนข้างมั่นใจว่า Automatrix ยังไม่มีคู่แข่ง เพราะเป็นผู้เล่นในตลาดนี้ที่นำฐานข้อมูลจำนวนมากมาวิเคราะห์เพื่อช่วยให้ค่ายรถยนต์ปิดยอดขายได้ดีขึ้น และการร่วมมือกับกลุ่ม GPI ก็ทำให้ PDM Thailand มีข้อมูลเกี่ยวกับตลาดรถยนต์ และเข้าถึงค่ายผู้ผลิตรถยนต์ต่างๆ ได้ดีขึ้นเช่นกัน”

สำหรับเป้าหมายของ Automatrix นั้นบริษัทวางไว้ที่ 40-50 ล้านบาทภายในเวลา 1 ปีที่ทำธุรกิจ แม้จะไม่เยอะเมื่อเทียบกับมูลค่าโฆษณาออนไลน์ของอุตสาหกรรมรถยนต์ แต่ถือเป็นการสร้างช่องทางใหม่ๆ ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยเน้นที่การปิดการขาย ไม่ใช่การสร้างการรับรู้ของแบรนด์

โฆษณาออนไลน์

ในทางกลับกัน ผู้จัดงาน International Bangkok Motorshow อย่างกลุ่ม GPI อธิบายเกี่ยวกับอุตสาหกรรมรถยนต์ในไทยว่า ปกติแล้วฝั่งแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์จะใช้เงินมหาศาลเพื่อสร้างการรับรู้ของแบรนด์ ส่วนการปิดการขายจะไปอยู่ที่ดีลเลอร์รถยนต์เป็นหลัก ดังนั้นการใช้งาน Automatrix ย่อมเป็นการช่วยเหลือทั้งสองฝ่าย

สรุป

ตอนนี้ฝั่งดีลเลอร์รถยนต์ต่างทำสงครามราคากันทุกราย และหนึ่งในนั้นคือการยิงโฆษณาออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่างๆ ดังนั้นการที่ค่ายรถยนต์เข้ามาช่วยประหยัดต้นทุนเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่เน้นสร้างแบรนด์เพียงอย่างเดียวน่าจะดีไม่น้อย แต่ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่า Automatrix จะสามารถเปลี่ยนใจค่ายผู้ผลิตได้แค่ไหน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา