วิจัยชี้ สหภาพยุโรปอาจขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าเป็น 55% ป้องกันแบรนด์จีนแย่งแชร์ผู้ผลิตท้องถิ่น

บริษัทสำรวจ และวิจัย Rhodium Group คาดการณ์ว่า สหภาพยุโรป หรือ EU อาจยกเพิ่มค่าธรรมเนียมการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนไปที่ 55% เพื่อป้องกันแบรนด์จีนแย่งส่วนแบ่งในตลาดนี้จากผู้ผลิตรถยนต์ในกลุ่มยุโรป เพราะเดิมที่จัดเก็บอยู่ราว 10% ทำให้แบรนด์จีนมีส่วนต่างอัตรากำไรต่อคันที่สูงถึง 35%

BYD

EU อาจขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีน

สำนักข่าว CNBC รายงานโดยอ้างอิงผลวิจัยจาก Rhodium Group ว่า แม้หลังจากนี้สหภาพยุโรป หรือ EU อาจปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีนเป็น 15-30% แต่ตัวเลขดังกล่าวอาจไม่เพียงพอต่อการลดโอกาสทางธุรกิจจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน รวมถึงช่วยเหลือผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มประเทศยุโรป

หากอ้างอิงตัวเลขปัจจุบันที่การนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีนมาจำหน่ายในประเทศกลุ่มสหภาพยุโรปจะต้องเจอกับอัตรานำเข้า 10% รถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Seal U ของ BYD ที่นำเข้ามาจำหน่ายในยุโรปราคา 42,000 ยูโร จะมีคาดการณ์กำไรต่อคันที่ 14,300 ยูโร ซึ่งมากกว่าในประเทศจีนที่จำหน่ายราคา 20,500 ยูโร แต่กำไรต่อคัน 1,300 ยูโร

และถึงจะเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าเป็น 30% อัตรากำไรต่อคันของรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนก็ยังเป็นที่น่าพอใจอยู่ดี แม้ว่าปัจจุบัน BYD จะเริ่มปรับลดราคาเพื่อเพิ่มโอกาสการแข่งขันในพื้นที่ยุโรป ตัวอัตรากำไรต่อคันก็ยังน่าพอใจเช่นเดิม ดังนั้นหาก EU ต้องการแก้ปัญหานี้จริง ๆ อาจต้องเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าเป็น 45-55%

เช็คบิลการสนับสนุน เหตุกระทบผู้ผลิตในยุโรป

ในทางกลับกัน คณะกรรมาธิการยุโรป หรือ European Commission อยู่ระหว่างการตรวจสอบมาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนเมื่อปี 2023 เนื่องจากมาตรการดังกล่าวอาจช่วยเพิ่มรถยนต์ไฟฟ้าราคาคุ้มค่าจากจีนมากเกินไป และไม่เป็นผลดีต่อผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มสหภาพยุโรป

ที่มาของปัญหานี้ต้องย้อนไปถึงมาตรการการสนับสนุนผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น แบตเตอรี่ ของรัฐบาลจีนตั้งแต่ต้นทศวรรษ 2010s เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างสตาร์ตอัปรถยนต์ไฟฟ้า และผู้ผลิตชิ้นส่วนราคาประหยัดจำนวนมาก และเกือบทั้งหมดสามารถก้าวขึ้นมามีบทบาทในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในระดับโลก

ขณะเดียวกันการถูกทางการสหรัฐอเมริกากีดกันทางการค้า ทำให้แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากจีนให้ความสำคัญในตลาดยุโรปมากขึ้น เพื่อชดเชยโอกาสทางธุรกิจที่หายไป จนมีหน่วยงานคมนาคม และสิ่งแวดล้อมในยุโรปคาดว่า แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากจีนจะมีส่วนแบ่งในกลุ่มสหภาพยุโรป 11% ในปี 2024 และเพิ่มเป็น 20% ในปี 2027

หากขึ้นภาษีก็กระทบผู้ผลิตท้องถิ่นที่ตั้งฐานในจีน

อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของยุโรป เช่น BMW มีการตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในจีนเพื่ออาศัยต้นทุนที่ถูก และภาษีที่คุ้มค่า เพื่อนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีนมาจำหน่ายในกลุ่มสหภาพยุโรป จนหากนับรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดที่ผลิตในจีนจะมีสัดส่วนมากกว่า 25% ของรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดที่จำหน่ายในกลุ่มสหภาพยุโรป

ดังนั้นหากมีการขึ้นภาษีนำเข้าย่อมกระทบกับผู้ผลิตแบรนด์ท้องถิ่นเช่นกัน รวมถึง Tesla ที่มีการใช้กลยุทธ์ดังกล่าวเพื่อทำตลาดในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปด้วย แต่ถึงอย่างไรกลุ่มผู้ผลิตต่าง ๆ ของยุโรป เช่น Volkswagen, BMW และ Mercedes-Benz ต่างมีโรงงานผลิตในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปอยู่แล้ว

ทั้งนี้จากความเป็นไปได้เรื่องการขึ้นภาษีนำเข้า ทำให้แบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนเริ่มวางแผนตั้งโรงงานในประเทศของกลุ่มสหภาพยุโรปมากขึ้น เช่น BYD ที่อยู่ะรหว่างเดินหน้าสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศฮังการี

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา