เสียวหมี่ เป็นปลื้มเผยกำไรไตรมาสที่ 3 เพิ่มขึ้น 20.3%

ภาพจาก Shutterstock

รวมไฮไลท์ทางด้านการเงินปี 2019 ไตรมาสที่ 3

  • รายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 53.7 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 5.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน
  • กำไรขั้นต้นอยู่ที่ประมาณ 8.2 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 25.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน
  • ปัจจุบันเสียวหมี่เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก และได้สร้างแพลตฟอร์ม IoT ชั้นนำของโลกที่มีอุปกรณ์อัจฉริยะมากกว่า 213 ล้านรายการ ซึ่งไม่รวมสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อป
  • เกือบจะ 50% ของรายได้ของเสียวหมี่ มาจากธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ต่างประเทศ นอกประเทศจีน

เสียวหมี่ ผู้นำด้านเทคโนโลยีของโลก เผยความสำเร็จการดำเนินงานในไตรมาส 3 ของปี 2019 โดยรายได้ในภาพรวมเพิ่มขึ้นกว่า 5.5% มีมูลค่ารายได้กว่า 53.7 พันล้านหยวน ซึ่งเกือบครึ่งหนึ่งของรายได้มาจากธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ต่างประเทศนอกประเทศจีน มีรายงานอื่นเผยว่าเสียวหมี่ยังเป็นแบรนด์หนึ่งใน 5 อันดับ ในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ในแง่ของการจัดส่งสมาร์ทโฟนซึ่งนั่นสะท้อนถึงการลงทุนมหาศาลในยุคโลกาภิวัตน์ กับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นับว่าเป็นตลาดที่มีความสำคัญสูง

มากไปกว่านั้นสำนักงานใหญ่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ เมื่อเดือนที่แล้ว โดยมี สตีเว่น ฉือ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รับผิดชอบในการพัฒนาธุรกิจและบริหารการดำเนินงานภายในภูมิภาคนี้

“ผลการดำเนินงานของเสียวหมี่ในไตรมาส 3 เกินความคาดหวังเป็นพิเศษ เป็นเพราะการเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจของเราในตลาดต่างประเทศ รวมทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” สตีเว่น ฉือ ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้กล่าวไว้

“นอกจากนี้เรายังมีความยินดีที่จะประกาศถึงการย้ายฐานที่ตั้งใหม่ของสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มายังประเทศไทย ด้วยตัวเลขประชากรที่มีกว่า 69 ล้านคน และมีมากกว่า 51 ล้านคนที่ใช้งานอินเทอร์เน็ต ซึ่งประเทศไทยนับเป็นหนึ่งในตลาดที่เข้าถึงเทคโนโลยีได้มาก และยังเป็นประเทศที่ได้รับการจัดอันดับว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินทางมือถือสูงมาก ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามาคือศักยภาพที่เรามองเห็น โดยในปีหน้าเราได้วางแผนที่จะเพิ่มช่องทางร้านค้า Mi Store และช่องทางค้าปลีกให้มากขึ้น เพื่อขยายการบริการหลังการขายและได้มอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า พร้อมกันนี้ เราจะสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจโดยนำศักยภาพความร่วมมือของพันธมิตรมาผลักดันให้ธุรกิจเติบโต ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ และที่สำคัญที่สุดคือเราจะนำผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สร้างความตื่นตาตื่นใจ ในราคาที่เข้าถึงได้ มาส่งมอบให้ถึงมือคนไทยและ Mi Fans ทุกคน”

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา