Xiaomi เปิดบวกไป 26% หลัง IPO อาทิตย์แรก แต่ยังมีคำถามใหญ่หลังจากนี้

เปิดตัวไปแล้วในอาทิตย์แรกสำหรับหุ้นของผู้ผลิต Smartphone อย่าง Xiaomi ที่พยายามพลิกตัวเองจากบริษัทเทคโนโลยีมาเป็นบริษัทผู้จำหน่ายของใช้ภายในบ้านเหมือนกับ Muji ซึ่งผลตอบแทนในอาทิตย์แรกถือว่าสวยงามเลยทีเดียว

ภาพจาก Shutterstock

หลังจากเปิดตัวในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงอาทิตย์แรก หุ้นดังอย่าง Xiaomi ได้ให้ผลตอบแทนแก่นักลงทุนในอาทิตย์แรก 26% ถึงแม้ว่าวันแรกของการ IPO จะปิดราคาต่ำกว่าก็ตาม โดยสาเหตุสำคัญคือมีความกังวลจากนักลงทุนถึงเรื่องของสงครามการค้า และนักวิเคราะห์ก็มองว่าสงครามการค้าทำให้หุ้นของบริษัทดูหมองลงทันที

ปัญหาของ Xiaomi

ถึงแม้ว่า IPO ของ Xiaomi จะบริษัทสนใจลงทุนไม่ว่าจะเป็น Qualcomm หรือแม้แต่ China Unicom และยังรวมไปถึงผู้ที่สนใจลงทุนอย่าง Li Ka-shing และ George Soros รวมไปถึง 2 ผู้ยิ่งใหญ่ของวงการเทคโนโลยีจีนอย่าง Jack Ma แห่ง Alibaba และรวมไปถึง Pony Ma แห่ง Tencent ด้วยก็ตาม

แต่ปัญหาของ Xiaomi ในช่วงที่ผ่านมาคือความสนใจของบริษัทนั้นน้อยกว่าที่ควร โดยก่อน IPO สามารถระดมทุนได้เพียง 4,270 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือว่าน้อยกว่าที่บริษัทตั้งเป้าไว้ด้วยซ้ำ และมียอดการจองหุ้นจากนักลงทุนมากกว่าจำนวนหุ้นที่ออกขายแค่เพียง 9.5 เท่า ยังทำให้มูลค่าบริษัทน้อยกว่าที่ควรเป็นด้วยซ้ำ โดยมูลค่าบริษัทำได้เพียงแค่ 54,000 ล้านเหรียญสหรัฐ น้อยกว่าที่ทางบริษัทคาดหวังไว้ซึ่งอยู่ที่ 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ

คำถามเรื่อง Valuation ของบริษัทเทคโนโลยี

หลังจากที่ Xiaomi ได้เข้าตลาดหลักทรัพย์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังมีคำถามจากนักลงทุนเกี่ยวกับ Valuation ของบริษัทเทคโนโลยี โดยเฉพาะช่วงหลังๆ ที่ Valuation นั้นแพงเกินความเป็นจริง ถึงแม้ว่าในความเป็นจริงบริษัทยังมีสภาวะขาดทุนเหมือน Xiaomi

Jeffrey Jaensubhakij ซึ่งเป็น CIO ของกองทุนความมั่งคั่งของประเทศสิงคโปร์อย่าง GIC ได้กล่าวว่าสาเหตุหนึ่งคือ Hedge Fund รวมไปถึง กองทุนความมั่งคั่งของประเทศต่างๆ หรือแม้แต่ Venture Capital นั้นเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้ Valuation ของบริษัทเทคโนโลยีสูงขึ้นอย่างมาก

เขายังได้เสริมอีกหว่ายิ่งบริษัทเทคโนโลยียิ่งดังเท่าไหร่ ยิ่งต้องตั้งคำถามกับบริษัทเหล่านี้มากขึ้นเท่านั้น เช่น เราสามารถมองเห็นบริษัทสามารถหาเส้นทางทำกำไรได้ไวสุดแค่ไหน หรือแม้แต่บริษัทมีคู่แข่งเยอะมากแค่ไหนที่จะทำให้บริษัทต้องใช้เงิดสดเพิ่มเติมต่อเนื่องจากระยะเวลาเดิมที่เคยวางไว้ เป็นต้น

ที่มาFinancial Times, Bloomberg

 

 

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
Content Writer ที่สนใจในเรื่องของตลาดทุนทั้งในและต่างประเทศ กลุ่ม TMT (Technology, Media, Telecom) การควบรวมกิจการ (M&A) นโยบายทางเศรษฐกิจของไทยและต่างประเทศ รวมถึงสิ่งละอันพันละน้อยทางธุรกิจที่น่าสนใจ