ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้รู้ว่า งานอดิเรกของผู้นำจีนคืออะไร เพราะส่วนใหญ่จะปกปิดเป็นความลับ แต่วันนี้เรารู้แล้วว่า หนึ่งในนั้น คือการดูซีรีส์ดังอย่าง Game of Thrones ?❄️
ผู้นำสูงสุดจีนก็ดู Game of Thrones
ไม่นานมานี้ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้พูดต่อหน้าแขกจากต่างประเทศในการประชุมที่ปักกิ่งว่า “พวกเราต้องทำให้มั่นใจได้ว่า เราไม่ได้อาศัยอยู่ในโลกที่กำลังเข้าสู่สงครามอันวุ่นวายใน 7 อาณาจักรแห่งเวสเทอรอส”
การพูดเช่นนี้ นอกจากจะสร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนที่ได้ยินได้ฟังแล้ว สิ่งหนึ่งที่แน่ใจได้คือ สี จิ้นผิงก็ดูซีรีส์ดังอย่าง Game of Thrones กับเขาเหมือนกัน
แต่ต้องบอกว่า การเปิดเผยงานอดิเรกของผู้นำจีนไม่ใช่เรื่องปกติ เพราะถือเป็นความลับ แต่ถ้าใครที่ติดตามประวัติของสีมาสักพัก ย่อมรู้ว่าเขาเป็นคนที่มีความสนใจในเรื่องวรรณกรรม ภาพยนตร์ และเพลงมานานแล้ว
- ครั้งหนึ่งมีคนถามสีว่า เขาจัดการเวลาในการทำงานและใช้ชีวิตให้สมดุลได้อย่างไร (ถึงขนาดที่มีเวลาไปดูหนัง!) เชื่อหรือไม่ เขาตอบกลับคำถามนั้นเป็นภาษาอังกฤษว่า “Mission: Impossible”
อย่างไรก็ตาม สีเคยบอกไว้นานแล้วว่า เขาเป็นแฟนตัวยงของหนังฮอลลีวูดหลายเรื่อง แต่มีอยู่ 2 เรื่องที่เขาชื่นชอบเป็นอย่างมากคือ The Godfather และ Saving Private Ryan
สี จิ้นผิง ไม่ใช่คนเดียวในพรรคที่ดูซีรีส์ดัง Game of Thrones
แน่นอนว่าสี จิ้นผิง ไม่ใช่คนเดียวในพรรคคอมมิวนิสต์ที่ดูซีรีส์ดัง
เพราะก่อนหน้านี้ หลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนคนปัจจุบัน (เขาคือบุคคลลำดับที่สองของคณะกรรมการประจำกรมการเมืองแห่งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน) เป็นอีกหนึ่งคนที่เรียกได้ว่าเป็นสมาชิกระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ก็เคยอ้างถึงซีรีส์ Game of Thrones เมื่อพูดถึงความสัมพันธ์ของจีนกับยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกในงานประชุมที่ Dubrovnik ประเทศโครเอเชีย เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายน 2019
รู้หรือไม่ Game of Thrones ในจีนไม่เหมือนที่อื่นในโลก โดนตัดออกหลายฉาก
แม้ว่า Game of Thrones จะมีฉายในประเทศจีนผ่านแพลตฟอร์มของ Tencent แต่รู้หรือไม่ว่า Game of Thrones ในจีนไม่เหมือนที่อื่นในโลก เพราะมีการเซ็นเซอร์และตัดหลายฉากออกไปจากภาพยนตร์ เช่น ฉากการมีเพศสัมพันธ์ หรือฉากที่มีความรุนแรง
เรื่องนี้ก็มีคนถามสี จิ้นผิงว่า เขาได้ดูเวอร์ชั่นไหน เขาตอบว่า เขาได้ดูเวอร์ชั่นย่อ เพราะด้วยตารางการทำงานที่แน่น ทำให้ไม่มีเวลาดูทั้งเรื่องแบบเต็มๆ โดยเขาเรียกเวอร์ชั่นที่เขาดูว่าเป็น “Daimond Version” (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคือเวอร์ชั่นอะไรกันแน่)
ที่มา – South China Morning Post
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา