Wongnai จับมือ Eatigo ชูฟีเจอร์ใหม่จองโต๊ะผ่านแอปฯ ลุ้นส่วนลดสูงสุด 50%

สายชิลล์ กิน-ดื่มไม่ต้องเสียเวลาเปิดใช้งาน 2 แอปเพื่อค้นหาร้านอาหารแอปฯ หนึ่ง จองโต๊ะร้านอาหารอีกแอปฯ หนึ่งอีกต่อไปแล้ว เพราะตอนนี้ Wongnai และ Eatigo ได้จับมือเป็นพาร์ทเนอร์กันเรียบร้อย 

ถือเป็นการเชื่อมต่อ O2O แพลตฟอร์มจากออนไลน์สู่ออฟไลน์ที่สานประโยชน์หลายฝ่าย ทั้งฝ่ายพัฒนาแอปฯ ทั้งร้านอาหารที่มีรายได้เพิ่มมากขึ้น ไปจนถึงลูกค้าหรือผู้บริโภคที่มีทางเลือกหลากหลายขึ้น สะดวกขึ้น และยังมีส่วนลดให้รอลุ้นสูงสุดอีก 50%

50% คือดีลสูงสุดที่ลูกค้าจะได้รับเมื่อทั้งสองฝ่ายร่วมมือกัน สามารถจองโต๊ะร้านดังกว่า 850 ร้าน ทั้งในกรุงเทพฯ พัทยา เชียงใหม่ และเตรียมขยายเป็น 1,500 ร้านภายใน 6 เดือนต่อจากนี้ ฟีเจอร์นี้จะเปิดให้ใช้งานพร้อมกันที่ภูเก็ต เดือนพฤศจิกายน

(ซ้าย) ยอด ชินสุภัคกุล CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Wongnai (ขวา) ภูมินทร์ ยุวจรัสกุล CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Eatigo

มูลค่าตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่สูงถึง 12,000 ล้านบาท พฤติกรรมบวกของผู้บริโภคส่งผลให้ธุรกิจเติบโตมากถึง 3-4 เท่า

ยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Wongnai ระบุ “ภาพรวมธุรกิจ O2O (Online-to-Offline) ที่เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมร้านอาหารในไทยปีนี้เติบโตอย่างก้าวกระโดด มูลค่าตลาดรวมทั้งบริการฟู้ดเดลิเวอรี่และการจองโต๊ะออนไลน์มีมูลค่ารวม 12,000 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้ว 3-4 เท่า”

“ปัจจัยบวกหลายด้าน ส่งผลให้ตลาดเติบโตขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคนมีเวลาน้อยลง คนมีความหลากหลายในการทานอาหารมากขึ้น ไปจนถึงการเข้าถึงสมาร์ทโฟนและอินเทอร์เน็ตที่สูงขึ้น” 

“Wongnai ถือเป็นผู้นำแพลตฟอร์มสัญชาติไทยที่พยายามตอบโจทย์ความต้องการของไลฟ์สไตล์คนที่มีความหลากหลายมากขึ้น คนเปิดแอปฯ Wongnai เพียงแอปฯ เดียวก็สามารถอ่านรีวิว สั่งเดลิเวอรี่ และยังจองโต๊ะผ่านแอปฯ ได้ ฟีเจอร์นี้ถือเป็นฟีเจอร์ล่าสุดที่ Wongnai จับมือกับ Eatigo ถือเป็นพาร์ทเนอร์ที่มีความแข็งแกร่งด้านบริการจองร้านอาหารออนไลน์”

(ซ้าย) ยอด ชินสุภัคกุล CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Wongnai (ขวา) ภูมินทร์ ยุวจรัสกุล CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง eatigo

การร่วมมือกันระหว่าง Wongnai กับ Eatigo ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนมากขึ้น

ขณะที่ภูมินทร์ ยุวจรัสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Eatigo กล่าว “ความร่วมมือครั้งนี้ ทำให้คนไทยที่ชื่นชอบการกิน-ดื่มสายชิลล์กว่า 12 ล้านคนบน Wongnai มาพบกับโต๊ะว่างในร้านอาหารมากมาย และยังมีดีลสุดพิเศษบน Eatigo”

“เราเชื่อว่า ฟีเจอร์จองโต๊ะนี้จะช่วยแก้ปัญหาฝั่งผู้บริโภที่ไม่จำเป็นต้องรอคิวหน้าร้านเป็นเวลานาน สามารถวางแผนเรื่องเวลาได้ และยังได้รับดีลพิเศษจาก Eatigo สูงสุด 50% ร้านอาหารเองก็สามารถจัดคิวลูกค้าได้มากขึ้น” 

“ในช่วงแรก Eatigo ได้รวบรวมร้านอาหาร คาเฟ่ และบาร์ชื่อดังกว่า 850 ร้านทั่วกรุงเทพฯ พัทยา เชียงใหม่ สามารถจองโต๊ะผ่านแอปฯ Wongnai ได้เลย คาดว่าจะมียอดการจองโต๊ะอย่างน้อย 500 ยอดจองต่อเดือน ตั้งเป้าขยายอีกกว่า 1,500 ร้านภายใน 6 เดือน เตรียมเปิดในจังหวัดกระบี่เพิ่มอีก”

ยอด ชินสุภัคกุล ระบุว่า “Wongnai ก็เปิดบริษัทมาครบ 9 ปีแล้ว เริ่มต้นจาก Food review เรียกว่าเป็น Search discovery คือการค้นหา ดูสถานที่อยู่ตรงไหน รีวิวเป็นยังไง รูปภาพเป็นไง แต่ละเมนูเป็นไง เมนูแนะนำคืออะไร นี่คือสิ่งที่ Wongnai ทำมาตลอด” 

(ซ้าย) ยอด ชินสุภัคกุล CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Wongnai (ขวา) ภูมินทร์ ยุวจรัสกุล CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง eatigo

ภารกิจ Wongnai เชื่อมต่อสิ่งดีๆ ให้ผู้คน เชื่อมโยงข้อมูลในเชิงลึก สานต่อประโยชน์ผู้คนมากขึ้น

ยอด ชินสุภัคกุล ระบุ “ปีหลังๆ Mission ของ Wongnai คือการเชื่อมต่อสิ่งดีๆ ให้กับผู้คนคือ Connect people to good stuff ก็มองว่าไม่ใช่แค่ค้นหาข้อมูลแล้ว การเชื่อมต่อร้านค้ากับผู้บริโภคคือการจับมือร่วมกับ LINE MAN ที่เป็น Food delivery ซึ่งร่วมมือกันมา 3 ปีแล้ว เราก็สามารถใช้แอปฯ Wongnai เพื่อดูว่าร้านไหนรับ-ส่ง delivery ได้บ้าง” 

“Scenario ต่อมาที่เราทำก็คือการร่วมมือกับ Eatigo วันนี้ นั่นก็คือเรื่องการจองโต๊ะ ที่ทำให้นอกจากจะเจอร้านอาหารแล้ว พบแล้วว่าอาหารเป็นยังไง เสร็จแล้วก็จะมีปุ่มให้จองโต๊ะได้เลย ซึ่ง Eatigo ก็ให้ส่วนลดมากสุดถึง 50% Wongnai ก็ทำในส่วนเชื่อมต่อข้อมูล ให้ประโยชน์กับ Users ที่ลึกขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการดูอาหาร และการจองโต๊ะ” 

“เราร่วมมือกันเพื่อให้คนกับร้าน เชื่อมต่อกันได้ดีขึ้น Mission ของ Wongnai เองก็ซื้อของออนไลน์ และการเชื่อมต่อโลกออนไลน์กับออฟไลน์เข้าด้วยกัน (O2O platform)”

“ทาง Wongnai เลือกจับมือกับ Eatigo ซึ่ง Wongnai มีร้าน 3 แสนร้านทั่วไทย มีทั้งสตรีทฟู้ด, คาเฟ่, Fine Dining Restaurant, ร้านในโรงแรม, Family Dinner ซึ่ง แพลตฟอร์มการจองโต๊ะในประเทศไทยก็หนีไม่พ้น Eatigo ถ้าจะเป็นพาร์ทเนอร์ก็ต้องเป็น Eatigo เท่านั้น มีคนใช้ Wongnai 10 ล้านรายต่อเดือน เราก็พาร์ทเนอร์กับ Eatigo ซึ่งมีมากที่สุดเช่นกัน”

ขณะที่ ภูมินทร์ ยุวจรัสกุล กล่าวว่า “ตอนนี้ร่วม Partnership กับร้านอาหารอยู่ที่หลักพัน พฤศจิกายนจะเปิดที่ภูเก็ต ซึ่งจะมีพาร์ทเนอร์ทั้งในและต่างประเทศ ทุกร้านจะมีส่วนลด 50% ในทุกวัน ไม่ใช่แค่การจองร้านอาหาร จะมีช่วงโต๊ะว่างอยู่ เช่น ช่วง 11.00น. ไม่มีลูกค้าอยู่แล้ว ก็มีศักยภาพพอที่จะรองรับ คาดว่าจะใช้เทคโนโลยีมาช่วยพัฒนาในวงกว้างมากขึ้น”

“เป้าหมายในการขยายร้าน คิดว่าจะเติบโตก้าวกระโดด ตั้งเป้า (ตอนนี้มี 1,000 แห่ง) ว่าจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา จะเริ่มลงเมืองรองมากขึ้นในปีหน้า”ในส่วนของบรรดาร้านอาหารนี้ ไม่ถือว่าการลดราคามีสัดส่วนสูงสุด แต่ช่วยเพิ่มรายได้มากขึ้น

ภูมินทร์ ยุวจรัสกุล เผย “จริงๆ ส่วนลดมีตั้งนานแล้ว แต่จะมีเรื่อง dinamic pricing คือส่วนลดขึ้นอยู่กับเวลาที่เราไป ส่วนลดจะมีทุกร้านอาหาร ปกติ ร้านธรรมดาไม่ได้ลด แต่เมื่อเข้าร่วมกับ Eatigo ก็มีกำไรมากขึ้นนะ เราก็มี case study มาแล้ว ก็พบว่ามียอดเพิ่มขึ้นจริง”

ยอด ชินสุภัคกุล เผย “ตอนนี้ก็ต้องเริ่มให้คนรู้จักก่อนว่าเราร่วมมือกัน แล้วค่อยดูอีกทีว่าเราจะขยายไปทั่วประเทศยังไงบ้าง”

ภารกิจ Eatigo การจองโต๊ะอาหารเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน มุ่งตอบโจทย์ลูกค้าและเพิ่มโอกาสทางรายได้ให้พาร์ทเนอร์มากขึ้น

ภูมินทร์ ยุวจรัสกุล “ตอนนี้ user เข้าไปจองโต๊ะอาหารได้ทั้งสองแอปฯ คือ Wongnai และ Eatigo ตอนนี้มีผู้จองแล้วกว่า 5 ล้านที่นั่งในร้านอาหารกว่า 4,000 ร้านทั่วภูมิภาค และยังให้บริการในฮ่องกง สิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย อินเดีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ตอนนี้กำลังมีเกาหลีเพิ่ม”

“ถ้าเทียบกันในระดับประเทศ ถือว่าคนสิงคโปร์ตอบรับในการใช้แอปฯ เยอะ เพราะระดับเศรษฐกิจดี จีดีพีต่อหัวสูงคนยอมรับเยอะ ตอนนี้เราล้มเบอร์ 1 ได้แล้ว ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 แทนแล้ว การใช้แอพในไทยยังไม่หวือหวามาก เพราะก่อนหน้านี้คนยังไม่ค่อยสนใจจองโต๊ะอาหารมากนัก”

“ในประเทศเหล่านี้เขาจะมีเรื่องการจองโต๊ะ การได้รับส่วนลดเป็นปกติอยู่แล้ว มีหลายคนพยายามทำให้มีการจองอย่างเดียวแต่ไม่ให้ส่วนลด ก็ล้มกันไปบ้าง จุดเปลี่ยนของการจองโต๊ะคือการเอาช่วงเวลาที่ว่างอยู่ ที่คนไม่ทานกัน มาลดราคาในเวลาช่วงนี้ก็จะตอบโจทย์มากขึ้น ตอนนี้ก็มีคู่แข่งเพิ่มขึ้น เราก็มั่นใจว่าสิ่งที่เราทำเป็นสิ่งที่ดีกับลูกค้า”

“ก็ถือว่า Wongnai เป็นพาร์ทเนอร์ที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งถือเป็นสตาร์ทอัพเหมือนกันเช่นนี้ ก็ถือว่าได้ประโยชน์ทุกฝ่าย คือ Win-Win Solution ก่อนหน้านี้ในวงการ Food delivery ก็ไม่ได้มีตลาดที่ใหญ่ขนาดนี้ แต่วันนี้มีสัดส่วนมากกว่าเก่าถึง 3-4 เท่า ซึ่ง  Wongnai ก็มาพัฒนาให้ขนาดตลาดใหญ่มากขึ้น การมาร่วมกันก็น่าจะได้ผลประโยชน์ต่อทุกฝ่าย เป็นแบบแผนและตัวอย่างที่ดีให้กับสตาร์ทอัพรุ่นต่อไป” 

จองโต๊ะบนแอป Wongnai ผ่าน Eatigo

ยอด ชินสุภัคกุล “การร่วมมือของเราทั้งสองฝ่ายก็จะทำให้คนเชื่อมต่อระหว่างออฟไลน์มายังออนไลน์ได้มากขึ้น เพราะชีวิตคนเราไม่ได้มีการไปกินข้าวร้านอาหารอย่างเดียว ก็มีกิจกรรมอื่นๆ ในชีวิตด้วย” 

“เรื่องการจะขยายไปต่างจังหวัด วงในก็อาจจะมาร่วมพาร์ทเนอร์กับ Eatigo โดยที่จะไปให้ไกลกว่ากรุงเทพฯ ตามหัวเมืองใหญ่ๆ ก็ต้องขยายไป”

“สำหรับร้านอาหาร น่าจะเป็นเรื่องดีที่ทำให้ทราฟฟิกมากขึ้น คนน่าจะมาใช้เยอะขึ้น ซึ่งร้านอาหารเองก็จะได้ทราฟฟิกจากทั้งสองฝ่ายเพิ่มขึ้น ปกติเราจะคิดเงินเมื่อส่งคนไปร้านอาหารเท่านั้น ถือว่าการร่วมมือกันนี้จะทำให้ร้านอาหารได้สื่อเพิ่มฟรี”

“อย่างไรก็ตาม ในส่วนของร้านอาหารนั้น ก็ยังมีอย่างน้อย 20% ที่ร้านยังไม่เปิดโอกาสให้ตัวเอง ไม่ได้สนใจเครื่องมือใหม่ๆ หรือไม่ค่อยได้สนใจในส่วนของ Food delivery อยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นรุ่นลูก generation 2 เขาก็จะสนใจ เข้าหาอยู่แล้ว”

ภูมินทร์ ยุวจรัสกุล “ตอนนี้ ร้านอาหารต้องสนใจแล้วว่าตัวเองจะ integrate เข้ากับโลกออนไลน์ยังไงบ้าง Eatigo วางแผนจะขยายให้เยอะที่สุดในการเติบโต ปลายปีนี้คิดว่าจะโตแบบลึกมากขึ้น ไม่กว้างอย่างเดียวแล้ว”

(ซ้าย) ยอด ชินสุภัคกุล CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Wongnai (ขวา) ภูมินทร์ ยุวจรัสกุล CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Eatigo

Wongnai มุ่งขยายการให้บริการลูกค้าหลากประเภทมากขึ้น ยกระดับประสบการณ์ลูกค้าในเชิงลึกเพิ่มขึ้น

ยอด ชินสุภัคกุล “ในอนาคตอันใกล้นี้ วงในยังไม่คิดกระจายไปยังต่างประเทศ ตอนนี้จะไปให้ลึกขึ้นในไทย และสร้างประโยชน์ให้กับทุกคนมากขึ้น จองโต๊ะ, ส่งอาหาร, สั่งอาหารไว้ก่อน เดี๋ยวไปรับ, คือไม่ได้ดูข้อมูลแล้วจบ จะมีหลายๆ อย่างพัฒนามากขึ้น เพราะเอาเข้าจริง โมเดลธุรกิจไม่ได้ใหม่ขนาดนั้น หลายประเทศก็มีเว็บไซต์แบบนี้อยู่แล้ว” 

“O2O ในไทยน่าจะโตไปได้อีก ตลาดฟู้ดในประเทศไทย 7-8 แสนล้าน ในอนาคตเราอาจจะโตขึ้นถึง 10% คืออาจจะโตอีก 7-10 เท่า Wongnai จะเติบโตในเชิงลึกมากขึ้น  ตอนนี้ก็ถือว่า Food ของเราใหญ่สุด ลึกสุด เราจับมือ LINE MAN ส่งอาหาร จับมือจองโต๊ะกับ Eatigo ทำวงใน PoS ทำระบบให้ร้านอาหารใช้งาน เป็นคลาวด์ ร้านอาหารใช้งานมากกว่าหมื่นราย เราจะไปให้ลึกที่สุด” 

“ตอนนี้เราก็มาทำ Beauty ก็ถือว่าใหญ่ระดับหนึ่ง ต่อด้วย Travel ตามด้วย Cooking ก็เริ่มมีสอนทำอาหารแล้ว อีกหน่อยเราอาจจะเพิ่ม Parenting ก็ได้ พ่อแม่ชอบค้นข้อมูลอะไรให้ลูก อาจจะเป็น Pet ตัดขนสุนัขที่ไหน อาจจะเป็น Home Service ก็ได้ หาช่างไฟ หาแม่บ้านให้ ทุกวันนี้หาข้อมูลกันยังไง หรืออาจจะเป็น Car Services ซ่อมรถที่ไหนไว้ใจได้ อู่ไหนดี ไม่ต้องคอยถามเพื่อน เข้าศูนย์ก็อาจจะราคาแพงไป” 

Wongnai กำลังคิดจะเพิ่มประเภทการให้บริการเหล่านี้เพื่อให้เกิด Transaction มากขึ้น เรียกคนไปให้บริการที่บ้านได้ไหม ทราฟฟิกหลักของเราเป็นอาหาร เราก็อาจจะ Cross sale ไปยังบริการอื่นได้ อาจจะมีสัก 10%”

(ซ้าย) ยอด ชินสุภัคกุล CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Wongnai (ขวา) ภูมินทร์ ยุวจรัสกุล CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Eatigo

การร่วมมือกันของทั้งสองฝ่ายมีแนวโน้มส่งเสริมกันมากกว่าส่งผลกระทบเชิงลบ

ภูมินทร์ ยุวจรัสกุล “การร่วมมือของเราน่าจะเป็นการส่งเสริมกันมากกว่า มันมี experience บางอย่างที่เราจะให้ได้”

ยอด ชินสุภัคกุล ทุกอย่างไม่ใช่ Food delivery ทั้งหมดอยู่แล้ว การจองโต๊ะก็จะมีตลาดของเขาอยู่”

ยอด ชินสุภัคกุล วันนี้เรามองว่าเป็นการร่วมมือกันระหว่าง Search delivery แพลตฟอร์ม กับระบบการจองอันดับหนึ่ง ทั้งสองฝ่ายมีจุดแข็งของกันและกัน การเพิ่ม O2O service เข้าไปด้วยจะสร้างประโยชน์ให้ร้านอาหาร ทำให้รายได้เพิ่มขึ้น สร้างประโยชน์ให้ Partnership ด้วย ทั้ง Wongnai, Eatigo และผู้บริโภค

ภาครัฐบาลควรมีนโยบายส่งเสริม เพื่อให้มีการแข่งขันอย่างเท่าเทียมมากขึ้น 

ยอด ชินสุภัคกุล และภูมินทร์ ยุวจรัสกุล เห็นตรงกันว่า “กติกาของภาครัฐต้องเป็นธรรมในอาเซียน รัฐควรสนับสนุนให้เกิดการแข่งขันกันอย่างเป็นธรรม อย่างน้อยควรมีคู่แข่งตั้งแต่ 2 เจ้าขึ้นไป ไม่ควรสนับสนุนให้เกิดการผูกขาดในอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง”

ตรวจสอบรายชื่อร้านที่สามารถจองโต๊ะได้ผ่านเว็บไซต์ Wongnai 

  • พิเศษสุด สำหรับผู้จองโต๊ะผ่านแอปฯ Wongnai รับดีลสุดพิเศษจาก Eatigo สูงสุด 50%
  • รับสิทธิพิเศษต่อที่ 2 โดยใส่ Promo Code WNEATIGO เพื่อรับ Eatigo Cash Voucher 100 บาท (ใช้ได้ 2 ครั้ง) เฉพาะวันนี้ถึง 15 ธันวาคมนี้เท่านั้นหรือจนกว่า Promo Code จะหมด 
  • สามารถใช้สิทธิ Eatigo Cash Voucher ได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคมนี้ 

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา