คุณชอบกินซูชิร้านไหนมากที่สุด?
เชื่อหรือไม่ ‘ซูชิ’ คืออาหารญี่ปุ่นที่ครองใจคนไทยมาทุกยุค ไม่ว่าจะเป็นโอมากาเสะสุดหรู ร้านเชนตามห้างสรรพสินค้า หรือซูชิแองกรี้เบิร์ดในตลาดนัด ก็ได้รับความนิยมกันมาตลอด
ความแมสนี้สะท้อนให้เห็นจากยอด Engagement และ Mention บนโซเชียลมีเดีย ที่ผู้บริโภคพากันสนใจ พร้อมแชร์ประสบการณ์การลิ้มลองซูชิเจ้าต่างๆ อย่างฟินๆ เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องของความอร่อย แต่รวมถึงร้านแนวใหม่ๆ ที่ทำให้การรับประทานซูชิไม่เหมือนเดิมด้วย
‘บริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด’ ได้รวบรวมข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย มาฟังความเห็นผู้บริโภคในสังคมออนไลน์ (Social Listening) ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 15 มีนาคม 2025 เพื่อวิเคราะห์อินไซต์เกี่ยวกับพฤติกรรมการบริโภคซูชิไทย
จะเป็นอย่างไรบ้าง มาดูกัน
ซูชิ = ความสดใหม่ พรีเมียม คุ้มค่า ไม่อั้น
ถ้าถามว่าเวลาคนพูดถึงซูชิ เขานึกถึงอะไร ดาต้าเซ็ตบอกว่า ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับ
- ‘ความสดใหม่’ ได้รับการพูดถึงมากที่สุด เพราะซูชิที่ดีต้องเริ่มจากวัตถุดิบคุณภาพสูง สดๆ จากท้องทะเล และผ่านการจัดเตรียมอย่างพิถีพิถัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความคาดหวังต่อรสสัมผัสที่ธรรมชาติ สะอาด ไม่มีกลิ่นคาว
- ‘ระดับพรีเมียม’ ก็ถูกพูดถึงบ่อยครั้ง โดยดาต้าเซ็ตมองว่า ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อย ไม่ได้ต้องการแค่ซูชิธรรมดาๆ แต่วัตถุดิบต้องมีคุณภาพสูง มาตรฐานเลิศ และอาจมีความ ‘ต้นตำรับ’ ตามฉบับญี่ปุ่นแท้ด้วย
- ‘ความคุ้มค่า’ ก็มีให้เห็นอยู่บ้าง สะท้อนว่าผู้บริโภคยังให้ความสำคัญกับบาลานซ์ระหว่างคุณภาพและราคา ซึ่งแม้ซูชิจะเป็นอาหารพรีเมียม แต่ยังต้องมีความเหมาะสมในแง่ของค่าใช้จ่ายอยู่
- ‘ไม่อั้น’ ก็ถูกพูดถึงไม่น้อย ทำให้เห็นถึงเทรนด์การทานบุฟเฟต์ซูชิ โดยยังให้ความสำคัญกับปริมาณและความอิ่มคุ้มค่า
จากข้อมูล Social Listening ทั้งหมด ดาต้าเซ็ตเห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของตลาดซูชิที่จะยังคงโตต่อเนื่อง ทั้งในกลุ่มซูชิสายพาน พรีเมียม และบุฟเฟต์ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็ต้องพัฒนาเมนูหรือบริการให้สอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไปด้วย
พูดถึงซูชิ จะลืมน้องแซลมอนไปได้ไง
เมื่อพูดถึงเมนูซูชิที่คนไทยนิยมมากที่สุด อิงจากยอด Mention บนโซเชียล ดาต้าเซ็ตเผยว่า ‘ซูชิแซลมอน’ (27%) ยังคงครองใจคนไทยอย่างเหนียวแน่น ด้วยความสดใหม่ของเนื้อปลา ประกอบกับรสชาติหวานมัน เนื้อสัมผัสนุ่มๆ แถมยังมีคุณค่าทางโภชนาการ
ในส่วนของ ‘ซูชิกุ้ง’ (20%) ที่มาพร้อมกับรสชาติหวาน เนื้อสัมผัสหนึบหนับ และมักปรุงกับซอสหรือเครื่องเทศเล็กน้อย ก็ยิ่งเพิ่มความเข้มข้นให้รสชาติสมบูรณ์ขึ้น กลายเป็นรองแชมป์ของคนไทย ที่สามารถทานได้ตั้งแต่เด็กยันผู้สูงวัย
มาถึงเมนูอันดับ 3 จะเป็นใครไม่ได้นอกจาก ‘ซูชิหน้าไก่ทอด’ (15%) เรียกได้ว่าหลุดกรอบซูชิแบบเดิมๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบทานปลาดิบ หรือต้องการสัมผัสรสชาติใหม่ๆ โดยยังคงคอนเซปต์ความเป็นซูชิอย่างลงตัว
นอกจากนี้ เมนูอื่นๆ ก็ได้รับความสนใจ ไม่แพ้กัน เช่น
- ซูชิทูน่า (9%)
- ซูชิซาบะ (7%)
- ซูชิหน้าปลาไหล (6%)
- ซูชิปลาหมึก (6%)
ศึกจ้าวซูชิ Sushiro นำโด่ง ตามด้วยน้องใหม่ Katsu Midori
สำหรับร้านซูชิเจ้าต่างๆ ดาต้าเซ็ตเผยว่าแบรนด์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ
- ‘Sushiro’ ได้รับการพูดถึงบนโซเชียลมีเดียมากที่สุด ด้วย Engagement 48% สะท้อนถึงความนิยมของซูชิสายพาน ที่มีความสะดวก รวดเร็ว และทานง่าย
- ‘Katsu Midori’ แบรนด์น้องใหม่ของตลาดไทย ที่ความแมสเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วย Engagement 18% แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของซูชิสายพานเช่นกัน
- ‘Shinkanzen’ แบรนด์สัญชาติไทยที่ยังแมสต่อเนื่องด้วย Engagement 12% จากกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซูชิคุณภาพดี ในราคาจับต้องได้
- ‘Kouen’ (9%) และ ‘Maguro’ (7%) แบรนด์ซูชิพรีเมียมก็ยังได้รับความสนใจจากผู้บริโภคที่กำลังมองหาซูชิคุณภาพสูง โดยมีฐานลูกค้าประจำอันแข็งแกร่ง
- แบรนด์อื่นๆ (6%) แม้จะมี Engagement น้อยกว่า แต่ยังคงฐานลูกค้าที่เหนียวแน่น ประกอบกับกระแสบนโซเชียลต่อเนื่อง ทำให้เห็นว่า ตลาดซูชิยังมีความหลากหลาย และมีแนวโน้มการเติบโตในทุกๆ กลุ่ม ทั้งซูชิสายพาน ซูชิพรีเมียม และซูชิทั่วไป
นอกจากนี้ เมื่อเจาะไปที่อันดับ 1 และอันดับ 2 ของตลาดซูชิไทยอย่าง Sushiro และ Katsu Midori จะพบว่า จริงๆ แล้ว แม้ทั้งคู่เป็นแบรนด์ญี่ปุ่นที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพ ความพิถีพิถัน และประสบการณ์การรับประทาน แต่ทั้งสองก็มีเอกลักษณ์ต่างออกไป ทำให้ตอบสนองความต้องการลูกค้าที่ไม่เหมือนกัน โดย
- Sushiro เน้นเข้าถึงง่าย เมนูหลากหลาย ด้วยสาขาทั่วประเทศกว่า 30 แห่ง แถมมีทั้งปลาดิบและซูชิที่ใช้วัตถุดิบปรุงสุก เช่น ซูชิหน้าไก่ทอด ตอบโจทย์คนไม่ทานปลาดิบ
- Katsu Midori เน้นความพรีเมียม ประสบการณ์ในร้านใกล้เคียงต้นตำรับ มาพร้อมกับเมนูสดใหม่ เสิร์ฟโดยตรงจากมือของเชฟ ทำให้ลูกค้าได้สัมผัสบรรยากาศร้านซูชิแบบญี่ปุ่นแท้ๆ
ซูชิสายพานมาแรง สะดวก รวดเร็ว กินง่าย ไม่ต้องรอ
เอาจริงๆ จากข้อมูลที่กล่าวไปทั้งหมด คงพอจะเดาออกว่า รูปแบบร้านซูชิที่กำลังฮิตติดกระแสในปัจจุบันคือ ‘ซูชิสายพาน’ ซึ่งทางดาต้าเซ็ตก็อธิบายสาเหตุของความไวรัลไว้ดังนี้
- สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องรอ เพราะหยิบจากสายพานได้เลยทันที
- ราคาเข้าถึงง่าย เนื่องจากซูชิสายพานมีราคาหลากหลาย เริ่มต้นเพียงหลักสิบบาทต่อจาน ทำให้เลือกทานตามงบประมาณได้
- เมนูหลากหลาย มีทั้งซูชิฉบับดั้งเดิม และแบบฟิวชันที่ปรับรสชาติให้ถูกปากคนไทย แถมบางร้านยังมีเมนูพิเศษเช่น เบอร์เกอร์ซูชิ หรือ ของหวานสไตล์ญี่ปุ่น
- ความตื่นเต้นจากสายพาน ทำให้รู้สึกสนุก ดึงดูดให้อยากลองจานใหม่ๆ และการได้เห็นอาหารจริงก่อนหยิบ ยิ่งทำให้ตัดสินใจง่ายขึ้นว่าอยากทานเมนูไหน
- ทันสมัย เพราะหลายๆ ร้านมีแท็บเล็ตให้สั่งอาหาร พร้อมระบบรางเสิร์ฟอาหารจากครัว ส่งตรงถึงโต๊ะ และระบบสีของจานก็ทำให้เข้าใจราคาง่ายขึ้นด้วย
- บรรยากาศเป็นกันเอง เนื่องจากที่นั่งแบ่งสัดส่วนชัดเจน จะกินคนเดียวก็ได้ ไม่ต้องกลัวเขิน และบางร้านยังมีโซนสำหรับการนัดสังสรรค์อีก
แม้ร้านซูชิสายพานหลายๆ เจ้า ต้องรอคิวนานเป็นชั่วโมง แต่ผู้บริโภคจำนวนมากก็ยินดีรอ เพราะพวกเขารู้ดีว่า เมื่อเข้าไปในร้านแล้ว จะได้รับประสบการณ์การรับประทานที่สนุกและสะดวก
ดังนั้น เทรนด์ซูชิสายพานจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากคนไทย และเปลี่ยนพฤติกรรมการกินซูชิไปจากเดิม เพราะตอนนี้มันไม่ใช่แค่อาหารมื้อพิเศษอีกต่อไป แต่กลายเป็นเมนูที่ทานได้บ่อยขึ้น
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา