เมื่อผู้ผลิตน้ำอัดลมรายใหญ่อย่าง Coca-Cola ประกาศซื้อกิจการร้านกาแฟ Costa Coffee ซึ่งมีสาขากว่า 3,800 สาขา อะไรคือแรงจูงใจให้ยักษ์ใหญ่น้ำอัดลมรายนี้ถึงลงทุนในกิจการเกี่ยวกับกาแฟ
เป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์ไม่น้อยหลังจากที่ Coca-Cola ประกาศเข้าซื้อกิจการของ Costa Coffee ด้วยมูลค่า 5,100 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้บริษัทน้ำดำชื่อดังเข้าสู่ตลาดเชนร้านกาแฟขึ้นมาทันที โดยมีสาขารองรับแล้วประมาณ 3,800 สาขา
Brand Inside วิเคราะห์ถึงสาเหตุว่าทำไม Coke ถึงต้องซื้อกิจการของ Costa Coffee ในเวลานี้
มูลค่าของตลาดกาแฟยังเติบโตได้ดี
เราจะเห็นได้ว่าร้านกาแฟเกิดขึ้นในไทยและต่างประเทศเป็นจำนวนสูงมาก และเกิดผู้เล่นรายใหม่ๆ ขึ้นมา ในปี 2017 มูลค่าตลาดของอุตสาหกรรมกาแฟอยู่ที่ 83,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งในปี 2012 ตลาดนี้ยังมีมูลค่าแค่ประมาณ 63,600 ล้านเหรียญสหรัฐแค่นั้น
นอกจากนี้การเติบโตของตลาดกาแฟยังเติบโตได้แบบช้าๆ แต่เติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเทียบกับตลาดน้ำอัดลมที่เริ่มจะตกเทรนด์เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มบริโภคน้ำอัดลมแบบระมัดระวังมากขึ้น ซึ่งทำให้บริษัทอย่าง Coca-Cola เริ่มสนใจในอุตสาหกรรมนี้ทันทีเพื่อที่จะกระจายรายได้ไปยังธุรกิจอื่นๆ ด้วย
ใครๆ ก็ซื้อกิจการกาแฟ
ในช่วงที่ผ่านมาดีลการซื้อกิจการร้านกาแฟใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็น Restaurant Brands International ซื้อกิจการร้านกาแฟ Tim Horton หรือการซื้อกิจการ Keurig Green Moutain โดย Dr Pepper Snapple มูลค่ามากถึง 18,700 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือไม่เว้นแม้แต่ Nestle ที่ลงทุนในกิจการร้านกาแฟอย่าง Blue Bottle ทำให้แทบจะไม่เหลือธุรกิจร้านกาแฟขนาดใหญ่ให้เลือกมากเท่าไหร่
Costa Coffee จึงตกเป็นหนึ่งในเป้าหมายของบริษัทใหญ่ๆ รวมไปถึง Coca-Cola ด้วย แถมเหตุการณ์ที่เหล่านักลงทุนเรียกร้องให้ Whitbread ซึ่งเป็นบริษัทแม่ประกาศแยกกิจการของ Costa Coffee ออกมา หรือว่าขายกิจการให้ผู้ที่สนใจ ยิ่งทำให้ทุกอย่างง่ายกว่าเดิม
ดังนั้นความไวจึงเป็นเรื่องสำคัญ มิฉะนั้นแล้วแทบจะไม่เหลือธุรกิจร้านกาแฟขนาดใหญ่ให้บริษัทลงทุนอีก วันศุกร์ที่ผ่านมาเราจึงได้เห็นดีลมูลค่า 5,100 ล้านเหรียญสหรัฐนี้เกิดขึ้น
บุกตลาดจีน?
ตลาดจีนเป็นตลาดสำคัญที่ธุรกิจร้านกาแฟระดับโลกต้องการเจาะตลาดนี้ให้ได้ เนื่องจากตลาดเครื่องดื่มร้อนในจีนกำลังเติบโตอย่างมหาศาล คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 34,200 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2022 ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็น Starbucks หรือแม้แต่ Costa Coffee ต้องการที่จะตีตลาดนี้ให้ได้ ปัจจุบัน Costa Coffee มีสาขาร้านกาแฟใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศจีน ซึ่งมีสาขาประมาณ 460 สาขา
ก่อนที่ Coca-Cola จะซื้อกิจการ ทาง Costa Coffee ได้ตั้งเป้าที่จะมีสาขาในประเทศจีนในปี 2022 ให้ได้อย่างน้อย 1,200 สาขา ในปี 2017 ที่ผ่านมาบริษัทได้ซื้อกิจการในตอนใต้ของประเทศจีนจากหุ้นส่วนกลับมาเป็นของบริษัทด้วยมูลค่า 45 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้บริษัทยังตั้งเป้าที่จะขยายสาขาในเมืองหลักๆ ของจีนด้วย
ต้องมารอดูกันว่าท้ายที่สุดแล้วหลังจากนี้การขยายสาขาของ Costa Coffee ภายใต้อาณาจักรใหม่ Coca-Cola จะเป็นเช่นไร
ยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว
เป้าหมายที่แท้จริงของ Coca-Cola อาจไม่ใช่การที่อยากได้กิจการที่เป็นร้านกาแฟด้วยซ้ำ แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือธุรกิจกาแฟที่เป็นเบื้องหลัง ไม่ว่าจะเป็นโรงคั่วกาแฟ สูตรกาแฟต่างๆ ฯลฯ ซึ่งสามารถทำให้บริษัทสามารถจัดทำสินค้าใหม่ๆ ในชื่อ Costa Coffee ได้ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มพร้อมดื่ม เช่น กาแฟพร้อมดื่ม ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะช่วยเสริม Portfolio ของบริษัทให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วย
ยิ่งในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นว่า Nestle จับมือเป็นพันธมิตรกับ Starbucks ในการจำหน่ายเมล็ดกาแฟ หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ นอกสาขา ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่าตลาดกาแฟ โดยเฉพาะกาแฟพร้อมดื่ม หรือผลิตภัณฑ์กาแฟต่างๆ ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจร้านกาแฟยังมีช่องทางที่เติบโตได้อีกมาก
ซึ่งถ้าหาก Coca-Cola เริ่มต้นในธุรกิจนี้ใหม่ กว่าที่จะสำเร็จอาจใช้เวลานานกว่าหรืออาจรวมไปถึงเสียเงินมากกว่านี้ด้วยซ้ำ
ที่มา – Bloomberg [1], [2], [3], [4], [5] Business Insider [1],[2]
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา