2 ปี คนไทยโดนมิจฉาชีพหลอกแล้ว 5.7 แสนเคส เสียหายสะสม 6.5 หมื่นล้าน วันละ 80 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดกับเพศหญิงวัยกลางคน-สูงอายุ

รู้หรือไม่ สถิติการรับแจ้งความออนไลน์ล่าสุดของ บช.สอท. บอกว่า 2 ปีที่ผ่านมา (มีนาคม 2565 – มิถุนายน 2567) คนไทยโดยมิจฉาชีพหลอกแล้ว 575,500 คดี มูลค่าความเสียหายสะสมกว่า 65,715 ล้านบาท หรือเฉลี่ยมูลค่าความเสียหายวันละ 80 ล้านบาท ยังไม่รวมถึงคดีที่อยู่ในระบบออฟไลน์ หรือ ผู้ที่ไม่ได้มาแจ้งความ

อีกทั้งสถิติยังบอกว่า 64% เกิดขึ้นกับกลุ่มเพศหญิงวัยทำงานตอนกลางจนถึงวัยสูงอายุ ตั้งแต่อายุ 30 – 60 ปีขึ้นไป สูงถึงกว่า 248,800 คดี เรียกว่าผู้สูงอายุเป็นเหยื่อหลักของมิจฉาชีพ

ข้อมูลผลสำรวจจาก Gogolook บริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อความเชื่อมั่น (TrustTech) ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน Whoscall แอปพลิเคชันระบุตัวตนสายเรียกเข้าที่ไม่รู้จัก บอกว่า สาเหตุที่ทำให้ผู้สูงอายุตกเป็นเป้าหมายของมิจฉาชีพ คือ เงินออม เงินเกษียณ เงินบำนาญ และความไม่ชำนาญการใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อน

จึงเป็นเหตุให้ Gogolook จับมือกับ บช.สอท. รณรงค์เฝ้าระวังมิจฉาชีพผ่านการออกวิดีโอแคมเปญ #ไม่มีใครตัดสายเก่งเท่าแม่คุณ ที่จะปล่อยออกมาในช่วงเทศกาลวันแม่นี้ เป็นการนำเสนอไอเดียการสื่อสารผ่านหนังโฆษณาที่มุ่งเน้นไปที่การปกป้องผู้ใช้จากการรับสายและข้อความที่ไม่พึงประสงค์

มนประภา รัตนกนกพร หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท โกโกลุก (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน Whoscall กล่าวว่า แคมเปญหยิบยกเคสตัวอย่างจริงที่ Gogolook ได้มีการตรวจสอบและขออนุญาตจากผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายแล้ว โดยเคสที่หยิบยกขึ้นมาเป็นเคสตัวอย่างของคุณแม่หลายท่านที่ถูกมิจฉาชีพหลอกเงิน ตามมาด้วยความสูญเสียมหาศาลทั้งทางทรัพย์สินและสภาพจิตใจ

แคมเปญยังมาพร้อมวลีเด็ด “อย่าให้ค่าน้ำนมกลายเป็นค่าเสียหาย” เพื่อเป็นการย้ำเตือนให้ลูกๆ ตระหนักถึงปัญหา และอยากถือโอกาสเชิญชวนลูกทุกคนลุกขึ้นมาร่วมมือกันปกป้องคุณแม่จากมิจฉาชีพด้วยการโหลดแอปพลิเคชัน Whoscall และแจ้งเบาะแสของการหลอกลวงกับสายด่วนตำรวจไซเบอร์ 1441

นอกจากนั้น ในช่วงเทศกาลวันแม่ปีนี้ Whoscall ยังได้จัดกิจกรรมแจกโค้ด ‘WHOSCALLSAVEMOM’ สำหรับใช้กับ Whoscall พรีเมียม เบสิก เป็นระยะเวลา 2 เดือน ให้ทั้งแม่และลูก จำนวน 500,000 โค้ด รวมมูลค่ากว่า 29 ล้านบาท ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 สิงหาคม 2567 รีดีมโค้ดได้ผ่านเว็บไซต์

ข่าวเกี่ยวข้อง

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา