เปิดประวัติ Want Want แบรนด์ขนมชื่อดังจากไต้หวัน อายุกิจการกว่า 60 ปี บุกตลาดประเทศไทยแล้ว

เปิดประวัติแบรนด์ขนมชื่อดังของไต้หวัน “Want Want” อายุกิจการกว่า 60 ปี บทความนี้จะพาไปเจาะลึกเบื้องหลัง เนื่องจากปัจจุบันขนมของ Want Want บุกเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยแล้ว

ที่มาของชื่อแบรนด์ Want Want หรือ “วั่ง วั่ง”

Want Want เป็นแบรนด์ขนมที่มีต้นกำเนิดจากไต้หวัน ก่อตั้งในปี 1962

แต่รู้หรือไม่ว่า ชื่อแรกของ Want Want คือ I Lan Foods Industrial ซึ่งหมายถึงอาหารทางภาคตะวันออกของไทเป แต่ต่อมาก็เปลี่ยนชื่อเป็น Want Want

แน่นอนว่า ด้วยความที่เป็นแบรนด์ไต้หวัน ชื่อ Want Want มาจากการเปลี่ยนคำเพื่อให้ดูสากลและออกเสียงง่ายสำหรับคนที่ไม่ได้ใช้ภาษาจีนเป็นภาษาแม่

ชื่อแบรนด์จริงๆ ของ Want Want ในภาษาจีน 旺 旺 ออกเสียงว่า “วั่ง วั่ง” 

โลโก้น้องว่างไจ๋
โลโก้น้องว่างไจ๋

โลโก้แบรนด์ น้องว่างไจ๋

โลโก้ที่เห็นคือ น้องว่างไจ๋ สัญลักษณ์ของแบรนด์ Want Want

แต่ก่อนที่จะเป็นน้องว่างไจ๋ก็ผ่านความคิดเบื้องหลังหลายอย่าง ในยุคเริ่มแรกผู้ก่อตั้งไม่ต้องการโลโก้แบบธรรมดา เพราะในยุคที่เริ่มก่อตั้งบริษัท ยุคนั้นบริษัทต่างๆ จะทำโลโก้เป็นวงกลมและมีตัวหนังสือเขียนตรงกลาง ซึ่ง Want Want ไม่ต้องการโลโก้ที่ธรรมดาหรือหาได้ทั่วไป

สุดท้ายตลกผลึกความคิดว่า ต้องการโลโก้ที่เป็นรูปเด็กที่ใครเห็นก็ต้องหลงรัก จึงเกิดเป็น “น้องว่างไจ๋” ขึ้นมา ซึ่งอันที่จริงในช่วงแรก น้องว่างไจ๋มีชื่อเรียกสุดน่ารักว่า “Hot Kid” จนกระทั่งปี 1983 “Hot Kid” ก็เปลี่ยนชื่อเป็น “ว่างไจ๋”

สิ่งที่น่าสนใจคือ “น้องว่างไจ๋” มีความหมายที่ซ่อนอยู่ในทุกจุดเลย โดยภาพรวมแล้วหมายถึงโชคชะตา ความมั่นใจ และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

  • หัวที่ดูยุ่งๆ หมายถึง การยุ่งกับภารกิจในการสรรหาบุคคลผู้มีความสามารถ (ตามสำนวนจีนโบราณ束髮、延攬賢士 สื่อถึงการยุ่งกับการสรรหาผู้มีความสามารถจนไม่มีเวลาดูแลผม เลยต้องมัดผมเอาไว้)
  • ปากกับลิ้นรูปร่างเหมือนหัวใจ สื่อถึงความจริงใจ ซื่อสัตย์ ความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม
  • สองมือของน้องว่างไจ๋ที่กางออก สื่อถึงความสามัคคี มีวาสนาต่อกัน มองการณ์ไกล มุ่งมั่นเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมของสังคมและองค์กรในระยะยาว

นี่คือที่มา ประวัติของแบรนด์ รวมถึงว่างไจ๋ที่เป็นมาสคอตของแบรนด์ขนมจากไต้หวันอายุกว่า 60 ปี และรู้หรือไม่ว่า ตอนนี้ เขาบุกเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยแล้ว

ตลาดทั่วโลกของ Want Want
ตลาดทั่วโลกของ Want Want

Want Want บุกเข้ามาทำตลาดในไทย (ในยุคโควิดซะด้วย!)

อันที่จริงแล้ว Want Want ไม่ได้ทำตลาดแค่ในประเทศไต้หวันเท่านั้น เพราะได้ขยายกิจการตัวเองออกไปทั่วโลก

สินค้าของเขามีหลายรายการ ทั้งขนม ลูกอม เครื่องดื่มแช่แข็ง ส่วนพื้นที่มีสินค้าของเขาจำหน่ายมีทั้งไต้หวัน จีนแผ่นดินใหญ่ หลายประเทศในเอเชีย บุกยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ทวีปแอฟริกา ออสเตรเลีย คือไปมาหมดแล้ว

ความยิ่งใหญ่ของ Want Want ดูได้จากมูลค่ากิจการของเขาในปี 2019 ที่สูงเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์

ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ แต่ตลาดที่ยังไม่ได้เจาะเข้ามาคือ ตลาดอาเซียนหรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้น พอกิจการส่งต่อมาอีกรุ่น เขาก็เลยมองว่า ภูมิภาคนี้น่าเข้ามาเล่น โดยเขาเริ่มต้นจากการไปทำตลาดในเวียดนามก่อน แล้วก็ต่อด้วยไทย

  • คำถามที่เกิดขึ้นคือ เหตุใดจึงบุกตลาดประเทศไทยในยุคโควิด

Want Want บอกว่า เอาเข้าจริงแล้วโควิดไม่ได้เป็นอุปสรรคเลยที่จะบุกตลาดประเทศไทย เพราะเชื่อมั่นในตลาดประเทศไทยอย่างมาก สถานการณ์ที่หลายคนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ Want Want มองว่าเป็นไปได้

ในยุคโควิด Want Want มองว่า ผู้คนจะมีเวลามากขึ้น ทำให้ได้ลองสินค้าใหม่ๆ และสินค้าของทางแบรนด์น่าจะไปอยู่ในใจลูกค้าได้

นี่คือวิธีคิดที่น่าสนใจมาก

กลยุทธ์ทางการตลาดของ Want Want

กลยุทธ์ทางการตลาดของ Want Want ที่มาบุกไทยอันนี้น่าสนใจมากๆ เพราะใช้ยุทธศาสตร์ที่เรียกว่า “ล้อมเมืองเข้ามาทำตลาด” หรืออาจเรียกได้ว่า เป็นการตลาดแบบล้อมเข้าเมืองหลวง

เหตุผลที่ Want Want บอกคือ เหตุที่ไม่เริ่มทำตลาดในกรุงเทพก่อน เพราะไม่อยากให้สินค้าเป็นสินค้าของคนกรุงเทพ อยากให้เป็นสินค้าของคนไทยทุกคน

ก่อนหน้านี้ Want Want เริ่มต้นทำตลาดด้วยการ Road show ไปภาคเหนือของประเทศไทย ลงไปสำรวจแต่ละพื้นที่แล้วกลับมาทำตลาดในเมืองหลวง

กลยุทธ์นี้ตอบโจทย์ตัวสินค้าที่อยากเป็นของคนไทยทุกคน เป็นสินค้าที่จับต้องได้ ราคาเข้าถึงได้ เป็น common product ของคนไทยทุกคน

อย่างไรก็ตาม สินค้าที่ Want Want ส่งมาทำตลาดในไทย เบื้องต้นมี 2 ตัวคือ มิลค์กี้ ทอฟฟี่ (ลูกอมนม) และ Want Want frozen โดยเน้นเจาะกลุ่มเด็ก วัยรุ่น รวมไปถึงคนทุกเพศและทุกวัย ส่วนในอนาคตจะขยับไปสู่การเจาะตลาด first jobber และพนักงานผู้หญิงหรือ office lady

สังฆทาน Want Want

เจาะตลาดศรัทธา-ความเชื่อ จุดแข็งของ Want Want

ในไต้หวันตลาดที่  Want Want เติบโตสูงมาก นอกจากจะเป็นขนมที่ครองใจคนทุกเพศ ทุกวัยแล้ว ยังอยู่ในตลาดศรัทธา ความเชื่ออีกด้วย เพราะคำว่า “วั่ง วั่ง” ในภาษาจีน แปลว่า ความเจริญรุ่งเรือง

คนในไต้หวันซื้อขนมของ Want Want ไปไหว้ในเทศกาลความเชื่อต่างๆ เพราะมีความเชื่อว่า ไหว้ด้วยสินค้าของ Want Want จะทำให้ธุรกิจเจริญรุ่งเรืองดี ไหว้แล้วทำให้กิจการรุ่งเรือง ในแง่ครอบครัวไหว้แล้วจะมีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง ทำสิ่งใดก็ดีไปหมด

สำหรับประเทศไทยในอนาคต เราอาจจะเอา สินค้าของ Want Want ไปไหว้พระหรือคนไทยเชื้อสายจีนก็จะไหว้ในเทศกาลต่างๆ เป็นไปได้ว่าต่อไปอาจมีการนำเอาสินค้าของ Want Want ไปไหว้ในเทศกาลก็เป็นไปได้ เพราะเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรือง 

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้คือที่มาของ “Want Want” หรือ “วั่ง วั่ง” แบรนด์ขนมจากไต้หวันที่มีประวัติน่าสนใจ ซึ่งตอนนี้ได้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยแล้ว

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา