จากเดิมที่เซ็นบันทึกความร่วมมือ หรือ MOU เพื่อพัฒนารถยนต์รุ่นต่างๆ ด้วยกัน ล่าสุด Volkswagen กับ Ford ก็เซ็นสัญญาร่วมมือกันอย่างเป็นทางการ โดยเริ่มที่การพัฒนารถกระบะ กับรถตู้ ก่อนต่อยอดไปถึงรถยนต์ไฟฟ้า
จากคู่แข่งสู่ความร่วมมือครั้งสำคัญ
ก่อนหน้านี้ Volkswagen และ Ford เป็นคู่แข่งกันอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะทั้งสองบริษัทต่างพัฒนารถยนต์เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคทั่วโลก แต่ด้วยสภาพอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เปลี่ยนไป มีบริษัทเทคโนโลยีเข้ามาโจมตีมากขึ้น ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจร่วมมือกันเพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
สำหรับความร่วมมือดังกล่าวจะเริ่มด้วยการร่วมกันพัฒนารถกระบะขนาดกลาง และรถตู้สำหรับขนส่งสินค้าที่จะทำตลาดตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป ซึ่งการร่วมมือกันครั้งนี้จะช่วยให้ทั้งคู่ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตได้ดีกว่าเดิม
อย่างไรก็ตามการร่วมมือกันผลิตรถกระบะ และรถตู้นั้นจะเน้นทำตลาดในพื้นที่ยุโรป, อเมริกาใต้ และแอฟริกาใต้ ไม่ได้ทำตลาดทั่วโลกแต่อย่างใด แต่ Volkswagen และ Ford ก็พร้อมช่วยเหลือในตลาดที่แต่ละฝ่ายอ่อนแอ เช่นในอเมริกาเหนือที่ Volkswagen มีส่วนแบ่งตลาดเพียง 2% และในจีนที่ Ford แทบไม่มีที่ยืน
ขณะเดียวกันการร่วมมือกันครั้งนี้ระหว่าง Volkswagen กับ Ford ยังต่อยอดไปถึงเรื่องการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า, รถยนต์ไร้คนขับ และบริการดิจิทัลต่างๆ เพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมยานยนต์เช่นกัน จึงไม่แปลกที่ Herbert Diess ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Volkswagen จะบอกว่ามันเป็นการร่วมมือครั้งสำคัญ
ก่อนหน้านี้ Volkswagen มีการประกาศลงทุน 44,000 ล้านยูโร (ราว 1.58 ล้านล้านบาท) ใน 5 ปีจากนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต พร้อมกับลงทุนเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง เช่นเดียวกับ Ford ที่มีการประกาศลงทุน 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.75 แสนล้านบาท) เพื่อปรับโครงสร้าง และพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า
สรุป
เรียกว่าเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมรถยนต์ก็ว่าได้ เพราะมันเป็นการจับมือระหว่างเบอร์หนึ่งยานยนต์โลกอย่าง Volkswagen และแบรนด์เก่าแก่จากสหรัฐฯ อย่าง Ford ซึ่งก็ต้องจับตาดูต่อไปว่าความร่วมมือของทั้งคู่จะเป็นไปในทิศทางใดต่อไป เพราะมันอาจสืบเนื่องไปถึงการออกแบบรถเก๋งส่วนบุคคลก็เป็นได้
อ้างอิง // Bloomberg
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา