วิมุต เดินเกมโรคเฉพาะทางเต็มตัว หลังรีแบรนด์โรงพยาบาลเทพธารินทร์ ควบคู่เสริมแกร่งบริการเลสิก

โรงพยาบาลวิมุต ธุรกิจสุขภาพในเครือ บมจ. พฤกษา โฮลดิ้ง เตรียมเดินหน้าบริการกลุ่มโรคเฉพาะทางเต็มตัว หลังรีแบรนด์ โรงพยาบาลเทพธารินทร์ สู่ วิมุต – เทพธารินทร์ เสริมแกร่งการรักษาโรคเบาหวาน, ไทรอยด์ และต่อมไร้ท่อ ทั้งลงทุนศูนย์เลสิกเพิ่ม หวังผู้เข้าใช้บริการ 1,000 เคส สิ้นปี 2024

วิมุต

วิมุต เปิดเกมเสริมแกร่งโรคเฉพาะทาง

พิชิต กังวลกิจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ. พฤกษา โฮลดิ้ง และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุต จำกัด เล่าให้ฟังว่า ในปี 2024 การดำเนินงานของกลุ่มวิมุตเป็นไปตามจุดมุ่งหมายขององค์กรตามกรอบแนวคิด “อยู่ดี มีสุข” ของพฤกษา โฮลดิ้ง ที่ต้องการส่งมอบความเป็นอยู่ที่ดีให้กับสังคมไทย

และเพื่อให้การดำเนินงานสามารถตอบแนวคิดดังกล่าว วิมุตจึงไม่ได้มองตัวเองเป็นเพียงโรงพยาบาล แต่มีการยกระดับสู่แพลตฟอร์มด้านสุขภาพที่ผสานความชำนาญการเฉพาะโรคเข้ากับนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ทันสมัย เข้าถึงความช่วยเหลือทางการแพทย์แบบไร้รอยต่อ

และด้วยโรงพยาบาลเทพธารินทร์ เป็นหนึ่งในธุรกิจของโรงพยาบาลมาระยะหนึ่ง ล่าสุดจึงเพิ่มความชัดเจนด้วยการปรับแบรนด์ใหม่เป็น โรงพยาบาลวิมุต – เทพธารินทร์ และชูเด่นเรื่องโรงพยาบาลแห่งแรกที่ได้รับการรับรองมาตรฐานเฉพาะโรคเบาหวาน และแห่งเดียวที่ได้รับการรับรองเฉพาะโรคไทรอยด์ จาก สรพ.

39 ปี ที่เชี่ยวชาญช่วยเหลือกลุ่มวิมุตให้เติบโต

“บริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จำกัด ได้เข้าถือหุ้นในโรงพยาบาลเทพธารินทร์ในสัดส่วน 51% ในปี 2021 และโรงพยาบาลวิมุต – เทพธารินทร์ถือเป็นจุดเริ่มต้น และเป็นการวางรากฐานไปสู่การขยายธุรกิจของโรงพยาบาลเฉพาะทางอื่น ๆ ในกลุ่มวิมุตต่อไป”

ด้าน สมเกียรติ ลลิตวงศา ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลวิมุต – เทพธารินทร์ กล่าวว่า เทพธารินทร์มีความชำนาญในการรักษาโรคเบาหวาน ไทรอยด์ และต่อมไร้ท่อที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลมานานกว่า 39 ปี อีกทั้งยังสามารถรักษาโรคเฉพาะทางอื่น ๆ ที่มีความซับซ้อน โดยในหลายสาขามีแพทย์เฉพาะทางระดับแนวหน้าของประเทศ

ทั้งนี้หลังจากรีแบรนด์ โรงพยาบาลวิมุต – เทพธารินทร์ เตรียมเดินหน้าธุรกิจผ่าน 4 กลยุทธ์ประกอบด้วย

  • การคิดค้นและเป็นต้นแบบแนวทางการรักษา เราให้การดูแลโดยทีมสหสาขาวิชาชีพ หรือ Multidisciplinary Team ซึ่งเป็นทีมเฉพาะทางที่สร้างมาตรฐานการดูแลรักษามาเกือบ 40 ปี
  • การดูแลแบบไร้รอยต่อ มีระบบการดูแลแบบแพทย์ประจำตัว หรือ primary doctor เป็นศูนย์กลางประสานงานกับแพทย์หลากหลายสาขาที่ให้การดูแล
  • การส่งเสริมให้ผู้คนดูแลตัวเองในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่เพียงแค่การรักษา แต่ส่งเสริมให้มีการป้องกันโดยเน้นให้ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อให้ทุกคนสามารถดูแลตนเองได้ และลดความเสี่ยงของการเกิดโรค
  • การดูแลคนในครอบครัวและคนรอบข้างผู้ป่วย มีการให้ความรู้เรื่องการดูแลสำหรับครอบครัวของผู้ป่วย ทั้งวิธีการดูแล การปรับพฤติกรรม รวมทั้งการป้องกัน และตรวจคัดกรองโรคที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์

วิมุต

เพิ่มศูนย์เลสิกคาดสิ้นปีมี 1,000 เคส

สมบูรณ์ ทศบวร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิมุต เสริมว่า ในปี 2022 อุตสาหกรรมการทำเลสิกทั่วโลกมีมูลค่ากว่า 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 92,000 ล้านบาท และจะเติบโตทบต้นปีละ 5.6% ไปจนถึงปี 2032 ดังนั้นเพื่อล้อกับการเติบโตดังกล่าว กลุ่มวิมุตจึงลงทุนนำเทคโนโลยี FEMTO LDV Z8 เพื่อมายกระดับการผ่าตัดเลสิกดั้งเดิม

“วิมุต มุ่งมั่นนำเสนอการดูแลสุขภาพตาอย่างเต็มรูปแบบ ให้ผู้ป่วยที่มีปัญหาสายตามั่นใจได้ว่าการมองเห็นจะกลับมาชัดเจนได้อย่างปลอดภัย โดยคาดว่าหลังจากมีการนำเทคโนโลยี FEMTO LDV Z8 มาใช้ที่ศูนย์เลสิก รพ.วิมุต จะทำให้มียอดผู้ใช้บริการ เพิ่มขึ้นอีก 20 % ภายใน 1 ปี และในปีแรกจะมีเคสการผ่าตัดทั้งหมด 1,000 เคส”

สำหรับโอกาสในบริการเลสิกอ้างอิงจากการรายงาน World Report on Vision 2022 ขององค์การอนามัยโลก ว่า ในปีดังกล่าวมีผู้บกพร่องทางการมองเห็น 2,200 ล้านคนทั่วโลก และอย่างน้อย 1,000 ล้านคน มีความบกพร่องทางการมองเห็นระยะใกล้ และระยะไกลที่ยังสามารถป้องกันได้หรือยังแก้ไขได้หากมีการตรวจพบอย่างทันท่วงที

นอกจากนี้ในปี 2050 คาดการณ์ประชากรโลก 50% หรือราว 3.5 พันล้านคน จะเจอปัญหาสายตาสั้น ยิ่งปัจจุบันการใช้งานดิจิทัลมีการแพร่หลายมากขึ้น ส่งผลต่อการใช้สายตา ยิ่งทำให้โอกาสในการเกิดปัญหาทางสายตามีมากขึ้นเช่นกัน

อ้างอิง // วิมุต

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา