วีรพงษ์ รามางกูร หรือ ดร. โกร่ง ได้กล่าวถึงสภาวะเศรษฐกิจไทยในยุคปัจจุบันอาจต้องรอ 5 ปีถึงจะได้เห็นเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว และสัญญาณการฟื้นตัวจะมาจากต่างประเทศ นอกจากนี้ยังต้องให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าเพื่อที่จะทำให้การส่งออกดีขึ้น
วีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวปาฐกถาเรื่อง “ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจไทย 2020” ซึ่งจัดโดยสถาบันสร้างไทย โดยประเด็นสำคัญนั้น วีรพงษ์ หรือที่เรารู้จักกันดีว่า ดร. โกร่ง มองว่าประเทศไทยในขณะนี้ได้เข้าสู่สภาวะวิกฤติเศรษฐกิจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าไทยอาจใช้เวลาถึง 5 ปีในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยการฟื้นตัวครั้งต่อไปนั้น ดร. โกร่งมองว่าได้ปัจจัยจากต่างชาติ
- Citi ปรับลด GDP ไทยลงมาเหลือ 0.2% คาดนักท่องเที่ยวหาย 15% จาก COVID-19
- Goldman Sachs ปรับ GDP ไทยปีนี้เหลือแค่ 1% เท่านั้น หลังเศรษฐกิจไทยอ่วมจาก COVID-19
- แบงก์ไทยหลายแห่งพร้อมใจปรับลด GDP ไทยปีนี้ลงอีก หลังเศรษฐกิจไทยโตต่ำกว่าคาด
ดร. โกร่ง ได้เล่าถึงพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยว่าไทยนั้นต้องพึ่งพิงการส่งออกและบริการด้วยสัดส่วนถึง 70% ฉะนั้นใครที่บอกว่าการส่งออกไม่สำคัญกับประเทศไทยจริงๆ รายได้ประชาชาติของไทยจะเหลือเพียงแค่ 30% และจะเกิดวิกฤติการณ์แน่นอน ในยามที่เศรษฐกิจโลกดีเศรษฐกิจไทยก็ดี ยามที่ราคาสินค้าเกษตรสูง ราคาสินค้าอุตสาหกรรมสูง จากนอกประเทศ เป็นไปตามราคาตลาดโลกถ้าหากราคาสินค้าเป็นดอลลาร์สหรัฐ
การที่จีนกลายเป็นโรงงานของโลกทำให้เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจไทย เนื่องจากไทยเราส่งสินค้าไปให้จีนและญี่ปุ่น แต่ตอนหลังกลายเป็นประเทศจีน และจากอดีตไทยส่งออกสินค้าเช่น ข้าว ยางพารา น้ำตาล จนมาถึงปัจจุบันไทยได้ส่งออกสินค้ากึ่งอุตสาหกรรมมากขึ้น
ปัจจุบันรายได้ประชาชาติของไทย มาจากภาคเกษตรแค่ 10% อีก 40% มาจากภาคอุตสาหกรรม ที่เหลืออีก 50% มาจากภาคบริการ เช่น ภาคการเงิน ธุรกิจส่งออกนำเข้า ภาคการค้าปลีก ทำให้ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยอยู่ในระดับกำลังพัฒนา และน่าจะตามมาเลเซียไปเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว
ขณะเดียวกัน ดร. โกร่ง ได้กล่าวว่าแต่ประเทศไทยโชคร้ายเพราะเกิดการรัฐประหารขึ้นมา จึงทำให้ความก้าวหน้าที่จะถีบตัวของประเทศไทยไปเป็นประเทศพัฒนานั้นชะงักลง ในสายตาประชาคมโลกไทยนั้นมีระบอบการปกครองที่ล้าหลัง และผู้นำของเราไม่สามารถเดินทางไปไหนได้ การที่ไทยมีรัฐประหารที่ผ่านมาได้ฉุดรั้งเศรษฐกิจไทยไม่ให้เดินหน้าไปไหน ผู้นำทหารของไทยมองว่าการปกครองของไทยไม่สำคัญนั้นไม่จริง
ดร. โกร่ง ได้กล่าวต่อเนื่องว่า การที่ผู้นำของเราไม่สามารถเดินทางไปเจรจาการค้าแบบทวิภาคีกับประเทศต่างๆ ไปได้เฉพาะการเจรจาแบบพหุภาคี (หลายๆ ประเทศรวมกัน) เป็นเหตุทำให้สภาวะเศรษฐกิจของเราถดถอยลง การส่งออกประสบปัญหา นอกจากนี้ยังไม่เข้าใจเรื่องบทบาทของอัตราแลกเปลี่ยน และความผิดพลาดของรัฐบาลนี้คือการไม่ดูแลผู้ส่งออกผ่านอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้การส่งออกถดถอยและล้าหลังสุดในอาเซียน
ขณะที่การท่องเที่ยวที่หวังว่าจะออกมาช่วยเรื่องการส่งออก แต่เราก็ทำตัวเอง เช่น กรณีเรือล่มที่จังหวัดภูเก็ต เราก็พูดกระทบจิตใจกับชาวจีน ขณะที่เกิดโรคระบาดเกิดขึ้น เราก็ทำอะไรบางอย่างที่กระทบจีน ทั้งๆ ที่เราต้องพึ่งพาประเทศจีน
ดร. โกร่ง ได้เล่าถึงเมื่อมีคนมาถามว่าเมื่อไหร่เศรษฐกิจไทยจะฟื้นนั้น ดร. โกร่งได้เล่าว่าเมื่อไหร่เศรษฐกิจโลกจะฟื้น นั้นยังมองไม่เห็นแสงสว่างจากปลายอุโมงค์ แม้ว่าเราจะไม่สามารถตั้งราคาตามตลาดโลกได้ แต่ความเข้าใจเศรษฐกิจของโลกและเศรษฐกิจของไทยนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าหากรัฐบาลมีทัศนะคติแปลกๆ จะสามารถแก้ไขเศรษฐกิจได้อย่างไร
แต่เศรษฐกิจไทยซบเซาเนื่องจากการส่งออก แต่การนำเข้าหดตัวมากกว่าการส่งออกด้วยซ้ำ ทำให้ดุลการค้า ดุลบัญชีเดินสะพัดยังดี ส่งผลทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่า ทำให้เกิดการไหลเข้าเก็งกำไร แต่ครั้งนี้ไม่ได้เข้าตลาดหุ้นแต่ไปอยู่ในตราสารหนี้ทำให้พันธบัตรรัฐบาลของไทยมีราคาสูงขึ้นแต่ผลตอบแทนลดลง นอกจากนี้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นและระยะยาวกลับเท่ากัน มีอัตราใกล้เคียงกันทำให้คาดว่าเศรษฐกิจจะซบเซาไปอีกนาน
ดร. โกร่ง ยังมองว่าถ้าหากจะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัว ค่าเงินบาทของไทยต้องอ่อนค่ามากกว่านี้ ตามสถิติถ้าอยากให้เศรษฐกิจไทยขยายตัว 4% ค่าเงินบาทต้องอยู่ที่ 33 บาทต่อดอลลาร์ ถ้าให้ขยายตัว 5% เงินบาทต้องอยู่ในระดับ 35 บาทต่อดอลลาร์ และถ้าหากค่าเงินบาทยังวนเวียนอยู่ที่ประมาณ 30 บาทจะทำให้เศรษฐกิจไทยไม่ไปไหน
และเมื่อโคโรนาไวรัสเข้ามาทำให้โมเดลที่รัฐบาลคาดไว้ผิดหมด การส่งออกที่ขยายตัวบ้างกลับกลายเป็นหดตัว ทุกอย่างผิดพลาดหมด ปีนี้จะกลายเป็นว่าปีนี้เผาจริง ปลายปีนี้เก็บกระดูกไปลอยอังคาร ขอให้เตรียมการไว้ ดร. โกร่ง ได้กล่าวว่าไม่ได้เกลียดรัฐบาล แต่ดูจากตัวเลขทางเศรษฐกิจ และได้เล่าถึงรัฐบาลของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ในระยะเวลา 8 ปีนั้นซบเซา และมาฟื้นสมัยพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ
วัฏจักรเศรษฐกิจนั้นมีประมาณ 10 ปีที่ขึ้นและลง และไทยได้เข้าสู่ขาลงมาแล้ว 5 ปี และไทยน่าจะเหลือ 5 ปีเป็นอย่างน้อยที่เศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัว และสัญญาณจากการฟื้นต้องมาจากต่างประเทศ ดร. โกร่งได้กล่าวทิ้งท้าย
ปาฐกถาเต็มๆ รวมไปถึงช่วงถามตอบ สามารถดูได้จากวิดีโอด้านล่าง
Note: อัพเดตล่าสุด กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ได้รายงานว่า ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ได้ออกมากล่าวว่า ผิดหวังกับ ดร. โกร่ง และได้ออกมากล่าวว่ารัฐบาลไม่ได้โง่อย่างที่ ดร. โกร่งดูแคลน นอกจากนี้ โฆษกพรรคพลังประชารัฐยังได้กล่าวว่า แทนที่จะแนะนำด้วยความหวังดี กลับอาศัยวิกฤติของประเทศมาโจมตีรัฐบาล
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา