โควิดวิกฤตการทำงานในสหรัฐฯ ผู้หญิงว่างงานสูง ต้องลาออกจากงานมาเลี้ยงลูกมากกว่าผู้ชาย

สถานการณ์ของโรคโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกายังคงมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อการภาวะการทำงานของคน ไม่ใช่แค่การโดนไล่ออกเพราะบริษัทปิดกิจการ แต่การเลี้ยงดูลูกที่ไปโรงเรียนไม่ได้ ก็เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ผู้ปกครองหลายๆ คน ต้องตัดสินใจลาออกจากงานด้วยตัวเอง

ภาพจาก Shutterstock

จากการศึกษาของสำนักงานสถิติแห่งชาติ สหรัฐฯ พบว่า คนวัยทำงานของสหรัฐฯ กว่า 1 ใน 5 จำเป็นต้องลาออกจากงานเพื่อเลี้ยงดูลูก ที่ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ ในช่วงที่โควิด-19 กำลังระบาด และในจำนวน 1 ใน 5 ของคนที่ต้องลาออกจากงานนี้ มีสัดส่วนเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า

ลาออกจากงานมาดูแลลูก ทางเลือกที่ไม่เต็มใจนัก

Kelly Bebout พนักงานด้านสาธารณสุข เล่าว่า เธอสามารถลางานได้สูงสุด 14 สัปดาห์ เพื่อดูแลลูกๆ ในช่วงเปิดภาคเรียนใหม่ ซึ่งจะจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ แต่เธอก็ยังไม่รู้ว่าหากเธอใช้วันลาหมดไปแล้วจะต้องทำอย่างไรต่อไป อนาคตยังเป็นสิ่งไม่แน่นอน

สิ่งที่น่ากังวลคือ ในระยะเวลาอันใกล้นี้เธอจำเป็นต้องตัดสินใจเลือกระหว่างชีวิตครอบครัว หรืองานด้านสาธารณสุข ที่เธอทำมานานเกือบ 10 ปี ซึ่งแน่นอนว่าครอบครัวต้องมาเป็นอันดับแรกอยู่แล้ว

ส่วนด้าน Katie Simon พนักงานบริษัทอีกคนหนึ่ง ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการขออนุญาตบริษัท ให้เธอทำงานที่บ้านเพื่อดูแลลูกต่อไปได้ แต่บริษัทกลับเสนอให้เธอขอทำเรื่องลาออกโดยสมัครใจแทน โดยที่ไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีโอกาสในการกลับเข้ามาทำงานอีกหรือไม่

ในอีกทางหนึ่ง หากครอบครัวที่มีทั้งพ่อและแม่ที่ช่วยกันดูแลลูก การลาออกจากงานเพื่อดูแลลูกอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่มากนัก เทียบกับคนที่เลี้ยงลูกคนเดียว ไม่ว่าจะเป็น Single Mom หรือ Single Dad เพราะการลาออกจากงานมาเลี้ยงลูก เท่ากับการขาดรายได้ที่จะเอามาใช้เป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

แม้ว่าก่อนหน้านี้ประเทศสหรัฐอเมริกาจะมีนโยบายให้เงินช่วยเหลือกับคนว่างงาน 600 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อสัปดาห์ หรือประมาณ 18,800 บาท เพื่อให้คนว่างงานสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ แต่อย่างไรก็ตามปัจจุบันนโยบายนี้หมดอายุไปแล้ว และยังไม่มีการใช้เงินช่วยเหลือรอบใหม่แต่อย่างใด

ผู้หญิง คนดำ คนกลุ่มน้อยได้รับผลกระทบมากที่สุด

จากข้อมูลสถิติของสหรัฐ พบว่า อัตราการว่างงานของผู้หญิงวัยทำงาน อายุ 20 ปีขึ้นไป อยู่ที่ 11.1% เทียบกับผู้ชาย ที่มีอัตราการว่างงาน 9.2% ส่วนกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ ผู้หญิงผิวดำ และชนกลุ่มน้อย ที่ต้องเผชิญกับอัตราการว่างงานกว่า 14% ในช่วงเดือนกรกฎาคม

สาเหตุที่อัตราการว่างงานในผู้หญิงสูงกว่าผู้ชาย เป็นเพราะ ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่ยังมีค่านิยมว่าหน้าที่การเลี้ยงลูก ยังคงเป็นหน้าที่ของผู้หญิงอยู่ จึงไม่น่าแปลกใจว่าผู้หญิงหลายๆ คน จึงอาจตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อมาดูแลลูก ในช่วงที่ลูกไม่สามารถไปโรงเรียนได้ตามปกติเหมือนก่อนการระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลต่อรายได้เฉลี่ยของผู้หญิงที่ลดลง เพราะผู้หญิงเลือกที่จะลดชั่วโมงการทำงานลง หรือต้องเลือกที่จะลาออกจากงานโดยถาวร

ที่มา – cnn

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา