จนกว่าเราจะพบกันใหม่..พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กล่าวอำลา หลังถูกยุบพรรคก้าวไกล ตัดสิทธิ 10 ปี

หลังจากที่พรรคก้าวไกล หัวหอกแห่งพรรคการเมืองที่เข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศไทย ภายใต้สโลแกน “กาก้าวไกล ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม” ได้รับชัยชนะ ประชาชนเลือกตั้งเป็นพรรคอันดับ 1 อย่างถล่มทลายแบบที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน

จนสู่วันนี้ วันสำคัญแห่งประวัติศาสตร์ชาติไทยอีกหนึ่งวันที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ปิดฉากพรรคการเมืองหัวก้าวหน้าอีกครั้ง หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้มีการยุบพรรคก้าวไกล

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กล่าวอำลาบนเวที “ก้าวไกลไปต่อ”

Pita
Image from Move Forward Party

พิธาเริ่มด้วยการขอให้ปรบมือแก่หัวหน้าพรรคชัยธวัช ตามด้วยขอเสียงคนรักประชาธิปไตย ขอเสียงประชาชน

บอกเขาไปดังๆ ว่า พวกเขาทำอะไรพวกเราไม่ได้ นอกจากทำอะไรพวกเราไม่ได้ เราก็จะไม่ชินชากับการเมืองแบบนี้เช่นกัน

สั้นๆ ง่ายๆ ตาย 10 เกิด 100,000

เป็นเกียรติสูงสุดของชีวิตผมที่ได้มีโอกาสรับใช้ประเทศชาติ รับใช้พี่น้องประชาชน ทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมพรรคตั้งแต่อนาคตใหม่และก้าวไกล เป็นความรู้สึกที่ผมจะไม่มีวันลืมครับพี่น้อง

ถึงวันนี้ผมยืนต่อหน้าพี่น้องประชาชน ขออำลาพวกท่าน ในฐานะนักการเมือง ในฐานะผู้แทนราษฎร ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่มาเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย

แต่ถ้าพวกท่านยังต้องการและส่งเสียงออกมาดังๆ ผมจะขอกลับมาใหม่ในฐานะประชาชนสู้ไปกับพวกท่าน

ถึงแม้ว่าเขาจะตัดสิทธิผมไป แต่เขาตัดใจผมจากประชาชนและประเทศไทยไม่ได้ และผมก็หวังว่าเขาจะตัดใจผมไปจากประชาชนไม่ได้เช่นเดียวกัน (พิธาหลั่งน้ำตาบนเวที) พิธาย้ำนี่เป็นน้ำตาแห่งความดีใจ ไม่ใช่น้ำตาแห่งความเสียใจ

แต่ผมอยากจะบอกกับพี่น้องประชาชนว่าผมมีความมั่นใจเหลือเกินในเพื่อนๆ ที่สู้กันมาตั้งแต่อนาคตใหม่ ตั้งแต่ก้าวไกล พวกเขาจะสามารถทำให้ประเทศไทยเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีได้แน่นอน พี่น้องประชาชนยังจำได้ไหมวันที่เราชนะในวันที่ทุกคนคิดว่าเราแพ้ วันที่เราชนะในเกมที่ถูกดีไซน์มาให้เราแพ้ เราชนะเพราะอะไร

ไม่ใช่ว่าท่านเชื่อในตัวผม แต่เพราะท่านเชื่อในตัวพวกท่านเอง ว่าพวกท่านทุกคนมีอำนาจเพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ได้ จงจำความรู้สึกวันนั้นไว้

ถึงจะไม่มีผมอยู่ในทำเนียบรัฐบาล ไม่มีผมอยู่ในรัฐสภา ไม่มีผมอยู่ในการเมืองไทย ถ้าผมอยู่ในหัวใจพี่น้องประชาชน และพี่น้องประชาชนยังเชื่อมั่นในพลังของตัวเอง

ประเทศไทยเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมแน่นอนครับ

ในขณะเดียวกันขอให้พี่น้องฟังคำของผมเอาไว้ ถึงแม้ว่าพวกเขาทำอะไรเราไม่ได้ เขาอยากได้อะไร เราจะไม่ให้พวกเขาเด็ดขาด เขายุบพรรค ยุบโลโก้ ยุบสี ไม่เป็นไร แต่ถ้าเขายุบความหลังของเราได้สำเร็จเมื่อไร เท่ากับเรายกประเทศไทยใส่พานให้มอบเขาทันที

เพราะฉะนั้นวันนี้เศร้า โกรธ แค้น เสียใจได้แค่วันนี้วันเดียว พรุ่งนี้เราเดินหน้าต่อไปเพื่อรัฐบาลที่ดีที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมีมา ในขณะเดียวกันเรื่องที่สำคัญที่สุด เราจะชินชากับเรื่องแบบนี้ไม่ได้โดยเด็ดขาด พี่น้องประชาชนเห็นผมตรงนี้ มีน้ำตาแห่งความดีใจเล็กน้อย ไม่มีน้ำตาแห่งความเสียใจแม้แต่นิดเดียว เพราะผมได้ทำเต็มที่ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมมี ทุกอย่างที่ผมมี ผมมอบให้พี่น้องประชาชนไปหมดแล้ว

แต่พี่น้องประชาชนห้ามชาชินกับแบบนี้โดยเด็ดขาด ระบอบที่คนทำรัฐประหารได้ดิบได้ดี เป็นรัฐมนตรี เป็นอย่างนู้น เป็นอย่างนี้ แต่คนที่ประชาชนเลือกมา ถูกแบนไม่ให้เล่นการเมือง พี่น้องประชาชนอย่าชิน อย่าชา อย่ายอมโดยเด็ดขาด

ถ้าเราชนะขนาดนี้เขาไม่ยอม คราวหน้าเราจะชนะจนกว่าเขาจะยอม ปี 2570 อย่างน้อยที่สุด 270 คน เอาแบบชัวร์ๆ 300 ไว้ก่อนไม่เป็นไร โปรเจกต์ 2570 เป็น 270 โอเคไหม จะให้ดีไปถึง 300 เลย

แล้วถึงวันนั้น พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะเป็นคนสุดท้ายในประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่ต้องมายืนพูดแบบนี้ พรรคก้าวไกลจะเป็นพรรคสุดท้ายที่โดนเลือกมาโดยพี่น้องประชาชนแต่ถูกทำให้มลายหายไปโดยคนไม่กี่คน

เมื่อเรามีพลังมากขนาดนั้น ยื่นกฎหมายไปเลย ต่อไปนี้ ไม่มีการยุบพรรคในประวัติศาสตร์การเมืองไทยต่อไป และที่สำคัญที่สุด ไม่มีการทำรัฐประหารอีกต่อไป

แล้วมายืนยันร่วมกันว่าอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน
ขอบคุณมากครับ

ผลจากการที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ สั่งให้ยุบพรรคก้าวไกล ตามพระราชบัญญัติรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 วรรค 1 อนุ 1 และ อนุ 2 และวรรค 2

เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคที่ดำรงตำแหน่งระหว่าง 25 มีนาคม 2564 – 31 มกราคม 2567 เป็นช่วงเวลาที่มีการกระทำอันเป็นเหตุให้ยุบพรรคผู้ถูกร้อง ตามมาตรา 92 วรรค 2 มีกำหนดเวลา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคผู้ถูกร้อง

ห้ามมิให้ผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคช่วงเวลาดังกล่าวจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง หรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ ภายในกำหนด 10 ปีนับตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรค ตามมาตรา 94 วรรค 2

คณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ชุดแรก ประกอบด้วย

  • พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล
  • ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล
  • ณกรณ์พงศ์ ศุภนิมิตตระกูล นายทะเบียนสมาชิกพรรค
  • ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ เหรัญญิกพรรคก้าวไกล
  • ปดิพัทธ์ สันติภาดา กรรมการบริหารสัดส่วนภาคเหนือ
  • สมชาย ฝั่งชลจิตร กรรมการบริหารสัดส่วนภาคใต้
  • อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรรมการบริหารสัดส่วนภาคกลาง
  • เบญจา แสงจันทร์ กรรมการบริหารสัดส่วนภาคตะวันออก
  • อภิชาต ศิริสุนทร กรรมการบริหารสัดส่วนภาคเหนือ
  • สุเทพ อู่อ้น กรรมการบริหารสัดส่วนปีกแรงงาน

คณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ชุดที่สอง ดังนี้

  • ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล
  • อภิชาติ ศิริสุนทร เลขาธิการพรรคก้าวไกล
  • ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ เหรัญญิกพรรคก้าวไกล
  • ณกรณ์พงศ์ ศุภนิมิตตระกูล นายทะเบียนสมาชิกพรรคก้าวไกล
  • สุเทพ อู่อ้น กรรมการบริหารพรรค
  • เบญจา แสงจันทร์ กรรมการบริหารพรรค
  • สมชาย ฝั่งชลจิตร กรรมการบริหารพรรค
  • อภิสิทธิ์ พรมฤทธิ์ กรรมการบริหารพรรค

 

ที่มา – Move Forward Party (1), (2), (3), ศาลรัฐธรรมนูญ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา