สมกับเป็น Elon Musk จริงๆ เคลื่อนไหวแต่ละที วงการนั้นต้องสั่นสะเทือน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เขาทวีตข้อความทำโพลสำรวจอยากให้อัลกอริธึมของ Twitter ควรเป็น open source บ้าง จากนั้นก็ทำโพลสำรวจเรื่อง free speech เป็นสิ่งสำคัญสำหรับระบอบประชาธิปไตยและก็ถามผู้คนว่า พวกคุณเชื่อในหลักการที่ Twitter ยึดถือหรือไม่ ไปจนถึงการทวีตข้อความตั้งคำถามว่า แพลตฟอร์มใหม่ๆ นั้นจำเป็นแค่ไหน
Twitter algorithm should be open source
— Elon Musk (@elonmusk) March 24, 2022
Free speech is essential to a functioning democracy.
Do you believe Twitter rigorously adheres to this principle?
— Elon Musk (@elonmusk) March 25, 2022
Is a new platform needed?
— Elon Musk (@elonmusk) March 26, 2022
ในที่สุด วันนี้ ข่าว Elon Musk (อีลอน มัสก์) เข้าซื้อหุ้น Twitter ก็สะพัดไปทั่ว เขาซื้อหุ้นทวิตเตอร์ในอัตรา 9.2% หรือ จำนวน 73,486,938 หุ้นเมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา ทำให้เขากลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของแพลตฟอร์มนี้ หนึ่งสัปดาห์หลังจากที่บอกคำใบ้ในทวิตเตอร์อยู่นาน หลังข่าวนี้กระจาย ส่งผลให้หุ้นทวิตเตอร์ราคาพุ่งถึง 25%
อีลอน มัสก์ ถือหุ้นทวิตเตอร์ 9.2% มูลค่าหุ้นมากถึง 2.89 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 9.68 หมื่นล้านบาท จำนวนหุ้นที่เขาถือมากกว่า Jack Dorsey ถึง 4 เท่า มัสก์มียอดผู้ติดตามมากถึง 80 ล้านแอคเคาท์ ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งจะแสดงออกให้เห็นว่า เขากำลังครุ่นคิดถึงแพลตฟอร์มสำหรับโซเชียลมีเดียอย่างจริงจังผ่านทวีตข้อความที่กล่าวไว้ก่อนหน้า โดยปกติมัสก์ก็มักจะใช้ทวิตเตอร์ทวีตข้อความอยู่บ่อยๆ ทั้งสำหรับในทวิตส่วนตัว ใน SpaceX และ Neuralink เขายังชอบแชร์มีมผ่านทวิตเตอร์บ่อยๆ และเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ มาก
หลายข้อความของเขาก็มักสร้างความขัดแย้ง ตามประสาคนดังที่มักจะทำอะไรผู้คนก็จับตาไปหมด ปีที่ผ่านมา หัวหน้าโครงการอาหารโลกขององค์การสหประชาชาติ (WFP) ระบุว่า ถ้ามัสก์จะสละความมั่งคั่งเขาออกไปสัก 2% ก็จะช่วยแก้ปัญหาความหิวโหยของประชากรในโลกได้ จากนั้น มัสก์ก็ขายหุ้น Tesla มูลค่าประมาณ 6 พันล้านเหรียญสหรัฐและบริจาคให้ WFP
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา