ประธานาธิบดีสหรัฐได้เผยกับสื่อว่า เขาเองเป็นคนล้มการเจรจากับจีนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเหตุผลสำคัญคือเรื่องของ COVID-19 ขณะเดียวกันวันในการเจรจารอบใหม่นั้นยังไม่มีกำหนดในเร็วๆ นี้
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้กล่าวถึงการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่ล่มลงไปว่า เขานั้นเป็นคนยกเลิกการหารือกับทางฝั่งจีน โดยเขายังได้กล่าวเสริมว่ายังไม่ต้องการที่จะคุยเรื่องการค้ากับจีนในตอนนี้ นอกจากนี้เมื่อสื่อถามว่าถ้าหากสหรัฐยกเลิกข้อตกลงทางการค้าฉบับแรกที่ได้ทำไปในเดือนมกราคมที่ผ่านมานั้น ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้กล่าวว่า “เราจะเห็นว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป”
- สหรัฐอเมริกาและจีน เลื่อนวันทบทวนข้อตกลงทางการค้าฉบับแรกออกไปอย่างไม่มีกำหนด
- ทรัมป์ชี้ความสัมพันธ์ สหรัฐ-จีน “เสียหายอย่างรุนแรง” ย้ำไม่ใช่เวลามาเจรจาข้อตกลงการค้าเฟสที่ 2
ประธานาธิบดีสหรัฐ ยังได้กล่าวว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตัวเขาเองไม่อยากที่จะเจรจาการค้าในตอนนี้คือเรื่องการแพร่ระบาด COVID-19 ที่ทำให้ โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่พอใจในช่วงที่ผ่านมา เขาได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “จีนสามารถที่จะหยุดยั้งการแพร่ระบาดเรื่องนี้ได้” นอกจากนี้เมื่อถามความรู้สึกของเขากับจีนนั้นประธานาธิบดีสหรัฐได้กล่าวว่า “เขารู้สึกว่าจีนแตกต่างออกไปอย่างที่เขาเคยรู้สึก”
สำหรับมุมมองของ ประธานาธิบดีสหรัฐ เองนั้นหัวเสียไม่น้อยกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 เนื่องจากผู้ติดเชื้อในสหรัฐอเมริกายังคงถือว่าสูงต่อเนื่อง ส่งผลต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และซ้ำร้ายอาจทำให้เขาเองแพ้การเลือกตั้ง ซึ่งเขาย้ำกับสื่อสหรัฐหลายครั้งว่าเขาเองยังไม่อยากที่จะเจรจากับจีนในประเด็นการค้าในตอนนี้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้มีความกังวลถึงการเจรจาการค้ากับจีนในฉบับต่อไปนั้นริบหรี่ลง ไม่เพียงแค่นั้นยังอาจมีความเสี่ยงที่ข้อตกลงทางการค้าของทั้ง 2 ฝ่ายทำในช่วงต้นปียกเลิกได้ ซึ่งจะทำให้การเจรจาการค้าต้องเริ่มนับ 1 ใหม่อีกครั้ง อย่างไรก็ดีการยกเลิกข้อตกลงทางการค้านั้นฝ่ายที่ยกเลิกจะต้องแจ้งอีกฝ่ายล่วงหน้าเป็นเวลา 60 วัน
นอกจากนี้ มาร์ก มีโดวส์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาว ได้กล่าวว่าการเจรจาการค้าของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งสหรัฐและจีนจะยังไม่มีกำหนดวันที่พูดคุย โดยทั้ง 2 ฝ่ายจะพยายามที่ทำตามข้อตกลงทางการค้าฉบับแรก เขายังกล่าวเสริมว่าทางด้านผู้แทนการค้าของสหรัฐเองจะยังพูดคุยกับฝ่ายจีนเพื่อที่จะให้จีนซื้อสินค้าและบริการให้ได้ตามสัญญาที่ทำไว้ระหว่างกัน
ที่มา – Fox Business, Aljazeera, Express
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา