ยุคนี้การดูแลลูกค้าคือหัวใจสำคัญที่สุดประการหนึ่งของธุรกิจ ใครมัดใจลูกค้าได้เหนียวแน่นกว่า คือ รายได้และโอกาสในการเพิ่มรายได้จากบริการอื่นๆ ในอนาคต
ครั้งนี้ ทรู เปิดตัว “TrueSphere” Co-Working Space First Class แห่งแรกในไทย เป้าหมายคือ การเป็นคลับสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าทรูที่ถือ True BlackCard รวมถึงลูกค้าองค์กรธุรกิจชั้นนำต่างๆ และได้เพิ่มจุดเด่นที่คลับอื่นๆ ไม่มี คือ Co-Working Space สถานที่ทำงานสำหรับกลุ่มสตาร์ทอัพอีกด้วย
ปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ ผู้ช่วยบริหารงานประธานคณะผู้บริหารด้านแบรนด์และการสื่อสาร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น เล่าถึงจุดมุ่งหมายของ TrueSphere เปิดสาขาแรกที่ ดิ เอ็มควอเทียร์ เป็นสถานที่ที่ให้บริการกลุ่มลูกค้าพิเศษที่ถือบัตร True BlackCard และกลุ่มองค์กรธุรกิจชั้นนำ ภายใต้แนวติด “Together Destination of First-Class Co-Working Space Experience” เป็นที่พบปะพูดคุย หรือเป็นที่ทำงาน และยังให้บริการทั้งเครื่องดื่ม อาหารว่าง พร้อมบริการต่างๆ ของกลุ่มทรู โดยพนักงานที่มีประสบการณ์ด้านการบริการระดับ First Class
เล็งเปิด TrueSphere 14 สาขาใน 2 ปี เพิ่มลูกค้า True BlackCard 1 ล้านราย
ลูกค้ากลุ่ม True BlackCard เป็นผู้ที่มีการใช้งานของกลุ่มทรูมากกว่า 3,000 บาทต่อเดือน ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไป ที่ตอนนี้มีอยู่ประมาณ 170,000 คน โดย 80% อยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล การเลือกเปิดสาขาของ Truesphere นั้น จะเลือกเปิดให้บริการในแถบที่มีลูกค้ากลุ่ม True BlackCard ใช้งานอยู่หนาแน่น โดยเริ่มเปิดสาขาแรกที่ ดิ เอ็มควอเทียร์ และอีก 5 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัล เวสต์เกสต์, เมกา บางนา, เดอะมอลล์ ท่าพระ, เดอะมอลล์ บางกะปิ และ เดอะมอลล์ บางแค ภายในสิ้นปีนี้ เงินลงทุน 130 ล้านบาท และอีก 8 สาขาภายในปี 2560 ลงทุนอีก 160 ล้านบาท รวมงบลงทุนกว่า 290 ล้านบาทใน 2 ปี
ปพนธ์ บอกว่ากลุ่มลูกค้า True Card มีรวมกันประมาณ 1.7 ล้านราย แบ่งเป็น BlackCard 170,000 ราย ที่เหลือเป็น RedCard ซึ่งมีแผนเพิ่มจำนวนลูกค้ากลุ่มนี้ เริ่มต้นจากตัวบุคคล และต่อยอดไปยังคนในครอบครัวที่ให้ใช้บริการของทรู โดยได้ Privilege เช่นเดียวเจ้าของบัตร
ส่วนลูกค้ากลุ่มองค์กรที่ใช้บริการเครือทรู ก็มีอยู่มากเช่นกัน ทรูจะให้คนในองค์กรธุรกิจต่างๆ ได้ใช้ Privilege เหมือนกัน ทำให้ได้ฐานลูกค้าทรูมากขึ้น ด้วย Privilege ที่สร้างความประทับใจ และล่าสุดได้คะแนนความพึงพอใจใน Customer Experience จาก True Privilege กว่า 63% ถือว่าพอใจมากๆ ทั้งหมดนี้ จะผลักดันให้มีลูกค้ากลุ่ม BlackCard เพิ่มเป็น 1 ล้านราย ภายใน 2 ปีนี้
สร้างจุดต่างด้วย Co-Working Space ระดับ First Class แห่งแรกในไทย
เดิมศูนย์บริการของทรู ถือว่ามีความแตกต่างเพราะเป็น One Stop Service และยังเป็น True Coffee อยู่แล้ว วันนี้นอกเหนือจะเดินเข้าไปใช้บริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเปิดเบอร์ใหม่ จ่ายค่าโทรศัพท์ อินเตอร์เน็ตได้ TrueSphere ได้ยกระดับขึ้นไปอีก เป็นสถานที่ที่รวมตัวของลูกค้าที่ถือบัตร True BlackCard หรือกลุ่มลูกค้าธุรกิจองค์กรต่างๆ รวมถึงกลุ่มสตาร์ทอัพและ SME ที่เป็นลูกค้าของทรู ก็สามารถใช้เป็นสถานที่ทำงานได้
Co-Working Space ที่นี่ให้บริการในระดับ First Class ทั้งการดูแลจากพนักงานที่ผ่านการอบรมมาเป็นอย่างดี และบริการอาหาร และเครื่องดื่ม โดยเฉพาะกาแฟ ที่ใช้เครื่องชงกาแฟ ExpressoDek เครื่องแรกใน Southeast Asia
ลูกค้า True BlackCard สามารถเข้ามาใช้บริการ พร้อมผู้ติดตามได้ 1 คน โดยแสดงบัตร True BlackCard หรือบัตรประชาชนตัวจริง รับ Welcome Set เป็นขนมและเครื่องดื่มฟรี และส่วนลดในการสั่งซื้อเครื่องดื่ม-อาหารเพิ่มเติม
สรุป
Brand Inside ได้ทดลองเข้าไปใช้บริการ TrueSphere มาก่อนหน้านี้ ต้องบอกว่า ไฮโซมากๆ รู้สึกว่ามีระดับสุดๆ ซึ่ง TrueSphere ของทรู ถ้าเปรียบเทียบแล้วมีลักษณะคล้าย AIS Serenade Club ของคู่แข่งอย่าง AIS ที่ต้องถือว่าเป็นอันดับ 1 ด้านการดูแลลูกค้า ครั้งนี้ ทรู จึงท้ารบแบบตรงๆ ใน 2 ปีจากนี้ถ้าสามารถขยาย TrueSphere ได้ครอบคลุม และรักษามาตรฐาน First Class ไว้ได้ ถือว่าเป็นการเปิดตลาดการแข่งขันในมิติใหม่ที่น่าสนใจ
เพราะกลุ่มลูกค้าระดับที่จ่ายเงินมากกว่า 3,000 บาทต่อเดือน ถือเป็นลูกค้าชั้นดีที่ต้องรักษาไว้ให้เหนียวแน่น และยิ่ง TrueSphere มีจุดเด่นคือการมี Co-Wroking Space ที่ให้บริการแบบ First Class แห่งแรกในประเทศไทย ถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ของลูกค้า เป็นสถานที่ทำงาน และต่อยอดในการจำหน่าย อาหาร ขนม และเครื่องดื่ม ลด transaction จากศูนย์บริการทรู ให้มาได้สัมผัสประสบการณ์ TrueSphere ไปในตัว
AIS ยังนำหน้าอยู่อีกไกล และเรื่องดูแลลูกค้าต้องใช้เวลาสร้างชื่อกันยาวๆ แต่ก็ต้องรู้ไว้ว่า True เริ่มขยับตัวแล้ว
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา