เมื่อโลกยานยนต์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว Toyota หนึ่งในผู้นำของตลาดนี้ก็ต้องปรับตัว โดยเฉพาะตัวเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ และล่าสุดก็มี Mazda, Suzuki, Subaru, Daihatsu และ Isuzu เข้ามาช่วยกันพัฒนาแล้ว
รถยนต์ไร้คนขับคือบริการที่ต่อยอดธุรกิจ
เมื่อปี 2561 ทาง Toyota พี่ใหญ่ในโลกยานยนต์ของญี่ปุ่น ได้จับมือกับ Softbank ผู้นำด้านเทคโนโลยีของญี่ปุ่นก่อตั้ง MONET Technologies เพื่อพัฒนารถยนต์ไร้คนขับที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า โดยตัวต้นแบบที่ทำออกมาในช่วงแรกนั้นเป็นทั้งยานพาหนะที่บรรทุกผู้โดยสารผ่านบริการร่วมเดินทาง หรือใช้ส่งสินค้าในที่ห่างไกลได้ด้วย
สำหรับทุนจดทะเบียนของ MONET ในช่วงแรกนั้นอยู่ที่ 2,000 ล้านเยน (ราว 570 ล้านบาท) แต่ด้วยตัวธุรกิจที่เกิดจากยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ และเทคโนโลยีมาจับมือกัน ทำให้ค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นอื่นๆ ก็อยากเข้ามาร่วมบ้าง เช่นหลังจากก่อตั้งไม่ถึงปีก็มี Honda และ Hino เข้ามาลงทุนบริษัทละ 200 ล้านเยน (ราว 57 ล้านบาท)
ล่าสุดทาง Mazda, Suzuki, Subaru, Daihatsu และ Isuzu ก็แสดงความสนใจลงทุนใน MONET แต่ไม่ได้เปิดเผยมูลค่าออกมา ทำให้ปัจจุบันผู้ถือหุ้นของ MONET ประกอบด้วย Softbank ที่ถือเกิน 40% เล็กน้อย, Toyota ที่ถือต่ำกว่า 40% เล็กน้อย และ Honda กับ Hino คนละ 10% ส่วนที่เหลือคิดเป็นสัดส่วนน้อยมาก
อย่างไรก็ตามเหตุที่ค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นเกือบทุกเจ้าตัดสินใจลงทุนใน MONET ก็มาจากความต้องการเอาชนะในการแข่งขันเรื่องรถยนต์ไร้คนขับที่กำลังดุเดือด ผ่านบริษัททางเทคโนโลยีที่เชื่ยวชาญเรื่องนี้มากกว่า นอกจากนี้ค่ายรถยนต์ที่เพิ่งเข้ามาลงทุน เกือบทั้งหมดยังเคยร่วมมือกับ Toyota ในการวางโครงสร้างพื้นฐานรถยนต์ไฟฟ้าเช่นกัน
ในทางกลับกันที่ Nissan และ Mitsubishi ไม่ได้เข้าร่วมลงทุนใน MONET ก็มาจากทางกลุ่มพันธมิตร Renault-Nissan-Mitsubishi ได้บรรลุข้อตกลงในการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับกับ Waymo บริษัทในเครือ Google ไปเมื่อไม่นานนี้ ที่สำคัญทั้ง MONET และ Waymo ก็มีแผนทำตลาดทั่วโลก ไม่ใช่แค่ประเทศต้นกำเนิดอย่างเดียว
สรุป
การเติบโตของ CASE หรือ Connected, Autonomous, Shared และ Electric Cars ทำให้โลกยานยนต์เปลี่ยนไปมาก จึงไม่แปลกที่ค่ายรถยนต์ดั้งเดิมต้องพยายามดิ้นรนเพื่อผ่านวิกฤตินี้ไปให้ได้ ซึ่งนอกจาก Toyota จะร่วมมือกับ Softbank เพื่อก่อตั้ง MONET แล้ว ยังร่วมมือกับ Uber เพื่อมีส่วนร่วมในบริการร่วมเดินทาง
แต่ถึงอย่างไรการร่วมมือกันของค่ายรถญี่ปุ่นเกือบทุกเจ้า ก็แสดงให้เห็นว่า ญี่ปุ่นเอาจริงกับเรื่องรถยนต์ไร้คนขับแน่นอน
*PwC คาดการณ์มูลค่าบริการ On-Demand Vehicle หรือบริการยานพาหนะรับส่งคน หรือพัสดุตามที่ผู้สั่งต้องการจะมีมูลค่าสูงถึง 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 43,000 ล้านล้านบาท) แถมการสำรวจดังกล่าวยังคิดแค่ประเทศสหรัฐอเมริกา, จีน และกลุ่มยุโรป เท่านั้น
อ้างอิง // Asian Nikkei Review
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา