ถึงจะทำงานที่บ้าน แต่สังคมการทำงานก็ยัง Toxic ผลสำรวจสหรัฐเผย ปัญหาพฤติกรรมแย่ ๆ ในที่ทำงานยังมีอยู่แม้ WFH

ถึงแม้จะไม่ค่อยได้พบปะพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานเพราะนโยบายทำงานที่บ้านสลับการการเข้าออฟฟิศอยู่ไม่กี่วันทำให้เราใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ติดบ้าน แต่ชาวอเมริกันกลับมองว่าปัญหาพฤติกรรมน่าปวดหัวของเพื่อนร่วมงานบางคนยังอยู่เหมือนเดิม

ผลสำรวจในสหรัฐอเมริกาที่สอบถามความคิดเห็นของพนักงานบริษัทจำนวน 800 รายพบว่า พนักงานราวครึ่งหนึ่งกล่าวว่าปัญหาพฤติกรรมด้านลบในสังคมการทำงานอย่างการประจบหัวหน้า การนินทา และการบูลลี่ยังคงเไม่ได้หายไป แม้ว่าจะเจอหน้าเพื่อนร่วมงานน้อยลงจากการทำงานที่บ้านหรือ Hybrid Work นอกจากนี้ พนักงานอีก 25% ยังคาดว่าพฤติกรรมแบบนี้จะแย่ลงเสียอีกก่อนที่จะได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้น

พนักงานมากว่า 1 ใน 3 จากทั้งหมดเผยว่า การซุบซิบนอนทาเรื่องข่าวลือและการประจบหัวหน้างานเป็นพฤติกรรมไม่น่าพึงประสงค์ที่พวกเขาพบเห็นได้ทั่วไปในสังคมการทำงาน ตามมาด้วยการโยนความผิดให้กันและกัน การแทงข้างหลัง การเคลมผลงานคนอื่นเป็นของตัวเองและปิดท้ายด้วยการบูลลี่

Dana Sumpter รองศาสตราจารย์ด้านการจัดการองค์กรของมหาวิทยาลัย Pepperdine University ในสหรัฐอเมริกา ผู้ร่วมทำการสำรวจนี้ กล่าวว่า การทำงานทางไกลทำให้พนักงานมีเวลาพูดคุยกับหัวหน้างานน้อยลงทำให้พนักงานต้องประจบและพยายามทำตัวให้เป็นที่ชื่นชอบของหัวหน้า ซึ่งพอมีคนที่ทำแล้วประสบความสำเร็จ เพื่อนร่วมงานคนอื่นก็จะทำตามกัน 

พนักงานครึ่งหนึ่งเผยว่า พวกเขารู้สึกกดดันที่จะต้องอยู่ใกล้ชิดกับพฤติกรรมไม่พึงประสงค์แบบนี้ พนักงาน 2 ใน 5 ยังเผยว่า พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้พวกเขาคิดที่จะลาออกจากบริษัทและพนักงาน 1 ใน 4 ถึงขั้นลาออกจากงานเพราะเหตุผลเรื่องนี้ โดยผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะลาออกมากกว่าผู้ชาย ในประเด็นนี้ Sumpter ให้เหตุผลว่าผู้หญิงและผู้ที่มีสิทธิมีเสียงน้อยกว่าในที่ทำงานมีอำนาจน้อยกว่าและมักจะเป็นเหยื่อของพฤติกรรมเหล่านี้

อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจเผยว่า ไม่ใช่พนักงานทุกคนที่จะมองพฤติกรรมลักษณะนี้เป็นเรื่องแย่ บางคนมองว่าการเผยแพร่ข่าวลือต่อ ๆ กันไปช่วยทำให้ทุกคนรับรู้ถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของแต่ละคน ส่วนการประจบประแจงก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะทำให้ทำงานอย่างราบรื่นในสภาพการทำงานปัจจุบัน

ผลการสำรวจของ Dana Sumpter และผู้ร่วมสำรวจ Kurt Motamedi เป็นงานการศึกษาชิ้นล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับการเมืองในองค์กร (Office Politics) ก่อนหน้านี้ ก็มีการศึกษาเรื่องนี้อยู่หลายชิ้นเพราะมุมมองที่ว่าองค์กรเป็นพื้นที่ทางการเมืองที่มีมิติหลายอย่างทั้งการเจรจาต่อรอง การโน้มน้าวใจ การครอบงำทางความคิดที่นอกเหนือไปจากแค่เรื่องทักษะการทำงานและความฉลาด 

ผลสำรวจนี้เองพบว่า พนักงาน 9 ใน 10 คน มองว่า การเมืองในองค์กรสามารถนำไปสู่ประเด็นเรื่องจริยธรรมและสภาพการทำงานที่ไม่พึงประสงค์ได้ไปพร้อม ๆ กับปัญหาทางด้านการฟ้องร้องทางกฎหมาย

Sumpter เสนอว่า ปัญหาเหล่านี้จะไม่หมดไปถ้าหัวหน้างานไม่กำจัดแรงจูงใจที่ทำให้เกิดพฤติกรรมลักษณะนี้ซึ่งสามารถทำได้ด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น การให้รางวัลกับพนักงานที่ให้ความร่วมมือในการทำงาน

ที่มา – Bloomberg

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา