Toshiba ประเทศไทย คาดการณ์ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านยังมีโอกาสเติบโต เหตุกำลังซื้อ และเศรษฐกิจเริ่มฟื้น เตรียมอัดงบการตลาดเพิ่ม 3 เท่า พร้อมส่งสินค้าใหม่ 52 รายการ เน้นระดับกลางถึงบน ดันยอดขายเติบโต 20% ครองส่วนแบ่ง 3 อันดับแรกของกลุ่มสินค้าตู้เย็น, เครื่องซักผ้า, ไมโครเวฟ และหม้อหุงข้าว
เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านกลับมาเติบโต
อเล็กซ์ มา รองประธานบริษัท บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เล่าให้ฟังว่า ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในไทยปี 2023 ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือ, คอมพิวเตอร์, กล้องถ่ายรูป, เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านขนาดใหญ่ และเล็ก กับเครื่องเสียง ปรับตัวลดลง 1% จากปี 2022 คิดเป็นมูลค่า 2.60 แสนล้านบาท ผ่านการขายสินค้า 44,886 ล้านเครื่อง
หากเจาะไปที่เครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่ และเล็กของประเทศไทย ตลาดนี้คิดเป็นสัดส่วน 30% ของยอดขายทั้งตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือราว 76,000 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขนี้เติบโต 10% สวนทางกับตลาดโทรศัพท์มือถือที่ปรับตัวลดลง 1% แต่ยังกินสัดส่วน 47% ของตลาดนี้
“เหตุผลที่ตลาดนี้เติบโตมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และกำลังซื้อของผู้บริโภค รวมถึงการกลับมาลงทุนของหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งในปี 2024 โอกาสในการเติบโตของเครื่องใช้ไฟฟ้ายังมีอยู่ผ่านปัจจัยข้างต้น รวมถึงผู้บริโภคเริ่มให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในเครื่องใช้ไฟฟ้าเช่นกัน”
Toshiba กับการเติบโตเหนือตลาดที่ 20%
จากตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านขนาดใหญ่ และเล็กที่เติบโตราว 10% ในปี 2023 ทาง Toshiba สามารถเติบโตเหนือตลาดผ่านยอดขายที่เพิ่มขึ้น 14% และหากนับตั้งแต่ปี 2019-23 จะเติบโตต่อปีเฉลี่ย 11.1% โดยในปี 2023 มียอดขายจากสินค้าตู้เย็นมากที่สุดที่ 45% ของยอดขาย ตามด้วยเครื่องซักผ้า 24% ของยอดขาย
“ตู้เย็น และเครื่องซักผ้าต่างเป็นตลาดที่มีการหดตัว แต่ Toshiba สามารถมียอดขายเติบโต 4.3% กับ 16.1% ตามลำดับ และครองส่วนแบ่งในตลาดดังกล่าวได้ดี เช่น ตู้เย็น เรามีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 3 ด้วยสัดส่วน 13.4% และเครื่องซักผ้าอยู่อันดับ 3 ด้วยสัดส่วน 7.7%”
ในปี 2024 Toshiba ประเทศไทย ยังตั้งเป้ามียอดขายเติบโต 20% ซึ่งเป็นการเติบโตเหนือภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ และเล็กเช่นเดิม และจะดันส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มสินค้าตู้เย็นให้ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 ของตลาด รวมถึงรักษาตำแหน่งอันดับ 1 ในตลาดไมโครเวฟ และครองส่วนแบ่งอันดับ 3 ของเครื่องซักผ้าเช่นเดิม
เพิ่มงบการตลาด 3 เท่าตัวปูพรมหาลูกค้าใหม่
การไปถึงเป้าหมายดังกล่าว Toshiba ประเทศไทย เตรียมเพิ่มงบประมาณการตลาด 3 เท่าตัว โดยงบดังกล่าวคิดเป็น 15% ของยอดขาย เพื่อสื่อสารแบรนด์ และสินค้าไปที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ประกอบด้วย Generation Y, Generation Z และ Generation Alpha
“ที่เราต้องปูพรมคนรุ่นใหม่ เพราะฐานลูกค้าปัจจุบันของ Toshiba คือ Generation X ขึ้นไป ดังนั้นถ้าจะโตหลังจากนี้ต้องมีกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ใช้งานด้วย โดยการทำตลาดนั้นมีตั้งแต่ใช้สื่อนอกบ้าน ไล่ไปจนถึงการใช้ KOL และการนำหลัก UGC ที่ให้ผู้บริโภคช่วยสื่อสารแบรนด์กันเองมาช่วย”
- สถานีต่อไปคือเวียดนาม! Toshiba ย้ายฐานการผลิต หลังปิดโรงงานที่เปิดมากว่า 30 ปี ในจีน
- โตชิบา ขอมีที่ยืนในกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ ออกแบบเครื่องใช้ไฟฟ้าให้โดนใจ ขึ้น Top 3 ตลาดนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบัน Toshiba อยู่ในประเทศไทยมาแล้ว 55 ปี ถือเป็นหนึ่งในบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าแก่รายหนึ่งในไทย และตอนนี้ Toshiba อาจพูดได้ไม่เต็มปากว่าตัวเองเป็นแบรนด์ญี่ปุ่น เพราะถูกทุนเครื่องใช้ไฟฟ้าจีน Midea ควบรวมกิจการไปก่อนหน้านี้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา