ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าของประเทศญี่ปุ่นค่อนข้างลดบทบาทในตลาดไปมาก แต่หลังจากนี้จะไม่เป็นอย่างนั้นแล้ว หลัง Toshiba ประกาศเดินเกมรุกอีกครั้ง แถมตั้งเป้าเติบโตในไทยถึง 20%
แบรนด์ญี่ปุ่นต้องกลับมามีบทบาทในตลาด
ต้องยอมรับว่าช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์เกาหลี กับจีน ต่างทำกิจกรรมการตลาดอย่างหนักหน่วง และได้ส่วนแบ่งในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านมูลค่าราว 63,000 ล้านบาทไปมาก ที่เติบโตไม่ถึง 1% ส่วนแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าของญี่ปุ่นกลับไม่มีที่ยืนในตลาด และยังคงจุดเด่นแค่สินค้าบางตัว ไม่ใช่ทุกชนิดของเครื่องใช้ไฟฟ้า
Toshiba ก็คือหนึ่งในแบรนด์ญี่ปุ่นที่โดดเด่นแค่เพียงกลุ่มสินค้าตู้เย็น 1 ประตู ผ่านการกินส่วนแบ่งเป็นอันดับที่ 1 ของตลาดนี้ เพราะกลุ่มสินค้าอื่นๆ ยังแข่งกับแบรนด์ประเทศอื่นๆ ได้ลำบาก แต่ด้วยการเข้ามาซื้อกิจการโทรทัศน์ของกลุ่ม Hisense จากประเทศจีนก็ทำให้ Direction เปลี่ยนไป แถมยังเดินเกมรุกในตลาดนี้มากขึ้น
ไบรอัน จ้าว ประธาน บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เล่าให้ฟังว่า การทำตลาดในประเทศไทยหลังจากนี้จะอาศัยเรื่องคุณภาพแบบญี่ปุ่น, ความรวดเร็วแบบจีน และประสบการณ์ในการทำตลาดที่นี่มานาน เพื่อทำให้แบรนด์ Toshiba กลับมาเติบโต และสามารถขึ้นเป็นอันดับ 3 ของกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอีกครั้งหนึ่ง
เปิดตัวสินค้าใหม่ 8 ชนิด รวม 34 รุ่นเสริมทัพ
“เราคาดว่าจะกลับมาเป็นเบอร์ 3 ของเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านภายใน 3 ปี ซึ่งจะทำอย่างนั้นได้ก็คงต้องเติบโตอย่างน้อย 2 ดิจิตขึ้นไป ซึ่งในครึ่งแรกของปี 2561 นั้นเราก็มียอดขายเติบโต 20% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนแล้ว และเชื่อว่าจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่น่าจะเติบโตขึ้น ก็น่าจะทำให้ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเติบโตเช่นกัน”
ขณะเดียวกัน Toshiba เตรียมทำตลาดสินค้าใหม่ในประเทศไทยอีก 34 รุ่น ประกอบด้วย 8 กลุ่มสินค้า เช่นกลุ่มตู้เย็น, เครื่องซักผ้า, หม้อหุงข้าว, เครื่องปั่นน้ำผลไม้ และเครื่องทำน้ำอุ่น นอกจากนี้ยังเน้นการทำตลาดกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านขนาดเล็ก เพราะมีการเติบโตค่อนข้างมาก และกินส่วนแบ่งในตลาดนี้ในแง่มูลค่าถึง 31%
เช่นหม้อหุงข้าวที่จะมีหลากหลายดีไซน์, เครื่องปั่นน้ำผลไม้ที่ปัจจุบันเติบโตอย่างรวดเร็วด้วยกระแสรักสุขภาพ รวมถึงกลุ่มไมโครเวฟที่บริษัทมียอดขายเติบโต 189% ถือว่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านขนาดเล็กอื่นๆ รวมถึงเครื่องทำน้ำอุ่นอีก 8 รุ่นที่จะมาทำตลาดในช่วงหน้าหนาวที่จะมาถึงปลายปีนี้เช่นกัน
อาเซียนสำคัญ เพราะเป็นรายได้หลักจากตปท.
ด้านแผนการตลาดในปีนี้ Toshiba จะเน้นสื่อสารข้อมูลให้ตรงกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคนี้ที่ประกอบด้วย ความสะดวกสบาย, คุณภาพ, เทคโนโลยี และการออกแบบ รวมถึงรองรับชีวิตที่เร่งรีบของใครหลายๆ คนได้ พร้อมยังใช้แนวคิด “นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต” เหมือนในอดีตที่เป็นภาพจำของแบรนด์
สำหรับธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านของ Toshiba นั้นมีรายได้หลักมาจากการจำหน่ายภายในประเทศญี่ปุ่น คิดเป็นมูลค่าราว 70% ของยอดขายทั้งหมด ที่เหลือ 30% เป็นยอดขายจากต่างประเทศ ซึ่งกว่า 90% ของยอดขายในต่างประเทศนั้นมาจากกลุ่มประเทศอาเซียน ทำให้ตลาดนี้ค่อนข้างสำคัญกับบริษัท
“แม้ครึ่งปีแรกตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าจะเติบโตเพียง 0.2% แต่เราเชื่อว่าสิ้นปีนี้ภาพรวมมันจะเติบโต 4-5% ได้ แต่ Toshiba จะพยายามเติบให้ได้มากกว่านั้น เพราะไทย และอาเซียนสำคัญกับเรามาก หากไม่พยายาม หรือไม่เปิดตัวสินค้าใหม่ๆ เพื่อมาตอบโจทย์ตลาด ก็คงไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องนัก
สรุป
ถือเป็นการกลับมาแบบ Full Team ของ Toshiba เหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้เราจะเห็นแบรนด์ Toshiba กับแค่ตู้เย็น แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ อาจไม่เห็นมากนัก แต่ถ้าทางแบรนด์ญี่ปุ่นรายนี้อยากกลับมาเป็นเบอร์ 3 ของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า การทุ่มสุดตัว และส่งสินค้าใหม่ๆ ออกมาทำตลาด ก็คือเรื่องที่จำเป็นที่สุดในตอนนี้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา