ท็อปส์ ดึงแคมเปญสะสมสแตมป์กลับมาอีกครั้ง เดินหน้าสร้าง Brand Loyalty ทำยอดขายให้มากกว่าครั้งที่แล้ว

แคมเปญสะสมสแตมป์แลกของรางวัลของท็อปส์กลับมาอีกครั้ง คราวนี้สะสมออนไลน์ได้เลย แก้ Pain Point เดิม ให้ลูกค้าเข้าถึงง่าย ดันยอดขาย ดึง 3 ครีเอเตอร์ออกแบบของรางวัล

จักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เล่าให้ฟังว่า การนำแคมเปญสะสมแสตมป์กลับมาอีกครั้งเพราะช่วงไตรมาส 2 เป็นเวลาที่ค่อนข้างท้าทายในการดึงดูดกลุ่มลูกค้า โดยเฉพาะเดือนพฤษภาคมที่เป็นช่วงนักเรียนใกล้เปิดเทอม ทำให้ผู้บริโภคเริ่มประหยัดเงิน ฝั่งการท่องเที่ยวเองก็ไม่ได้เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวเยอะ ทำให้ทางท็อปส์คิดแคมเปญเพื่อรักษาฐานลูกค้าไว้

ก่อนที่จะนำแคมเปญกลับมา ท็อปส์ได้เก็บข้อมูลและความเห็นของลูกค้าตั้งแต่แคมเปญครั้งก่อนหน้า พบข้อมูลน่าสนใจว่า ลูกค้าท็อปส์ 3 ใน 4 เป็นลูกค้าผู้หญิง 75.2% อยู่ในช่วงอายุ 25-54 ปี เท่ากับว่าเป็นกลุ่ม Gen X และ Gen Y เป็นหลัก ลูกค้าส่วนใหญ่กว่า 44% เป็นพนักงานออฟฟิศที่มีรายได้ค่อนข้างสูง

ผลสำรวจกลุ่มลุกค้าท็อปส์ ยังให้ข้อมูลว่า ลูกค้ากว่า 39% ชื่นชอบโปรโมชั่น กว่า 25% ชื่นชอบแคมเปญสะสมแต้มเพื่อแลกของรางวัล ราว 42% ก็มีความคุ้นเคยกับการชอปปิ้งออนไลน์อยู่แล้ว สะท้อนเทรนด์ผู้บริโภคที่ต้องการของพรีเมี่ยมที่แลกไปแล้วต้องใช้งานได้จริง หายาก ไม่ซ้ำใคร ทำให้แคมเปญเมื่อปีที่แล้ว มีจำนวนลูกค้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 4%

เดินหน้าตามหลัก 3Es ด้วยกลยุทธ์ Winning Together

โจทย์ที่ท็อปส์นำมาคิดต่อจากการทำแคมเปญปีที่แล้วอยู่ว่า ลูกค้าชื่นชอบสินค้าพรีเมี่ยมที่น่ารัก น่าใช้ ต้องเข้าถึงง่าย และที่สำคัญ คือ มีทางลัดในการแลกของรางวัลให้ง่ายขึ้นและสนุกมากขึ้น ไม่ต้องใช้เวลานานกว่าจะสะสมสแตมป์ครบ โดยสามารถเพิ่มเงินเพื่อแลกซื้อได้ 

แคมเปญนี้เลยถูกคิดมาบนแกนหลัก 3 ข้อหรือเรียกว่า 3Es เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของลูกค้า ประกอบด้วย Experience, Exclusivity และ Extraordinary 

Experience

การสร้างประสบการณ์ของลูกค้าให้ดีขึ้นและต่างจากแคมเปญที่มีอยู่แล้วในตลาด โดยพัฒนาจาก Pain Point ของแคมเปญในปีก่อนหน้าที่ให้ลูกค้าสะสมสแตมป์ด้วยสมุดสะสมจากการซื้อของจากท็อปส์ เดลี่ เท่านั้น ทำให้ในปีนี้ ทุกร้านในเครือท็อปส์เข้าร่วมรายการทั้งหมด และยังไม่จำเป็นต้องพกสมุดสะสมสแตมป์ แต่สะสมผ่านทางออนไลน์ด้วยแอปพลิเคชันไลน์ @TopsThailand และ @TopsDaily_th

Exclusivity

การสร้างสินค้าให้พรีเมี่ยม เป็นเอกลักษณ์ที่หาจากที่อื่นไม่ได้ ทำให้ท็อปส์ได้ร่วมมือกับครีเอเตอร์ 3 คนที่มีแนวทางการออกแบบที่ต่างกันออกไปภายใต้ตีมหลัก คือ ความยั่งยืนและวัฒนธรรมไทยเพื่อส่งเสริม Soft Power ไทย ได้แก่

  • Painterbell นักวาดภาพคาแรคเตอร์ตัวการ์ตูน John Lulu and Friends 
  • Nui Wonderland เจ้าของนิทรรศการ Nui in Wonderland ที่สร้างผลงานเพื่อสื่อถึงการอยู่ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วไปพร้อมกับการรักษาความเป็นตัวของตัวเองไว้ด้วยการจัดองค์ประกอบภาพในลักษณะเดินหน้าเป็นวงกลมตามเข็มนาฬิกา 
  • ARTSTORY by Autistic Thai ลายเส้นของกลุ่มศิลปินออทิสติกทั้ง 5 คนที่มีความหลากหลายตามฝีแปรงของแต่ละคน 

Extraordinary 

ของรางวัลนอกจากจะต้องมีลวดลายน่าใช้แล้วยังต้องมีคุณภาพดี ใช้ได้ในชีวิตประจำวันได้ เป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดการระดมความคิดจากท็อปส์ว่าสินค้าอะไรสามารถใช้ได้ทุกวัน จนออกมาเป็นร่วมที่ใช้ได้ทั้งแดดร้อนและฝนตก รวมทั้งเป็นร่ม 5 ตอนทำให้พกพาสะดวก หรือแก้วน้ำที่เป็นสินค้า 1 ใน 3 อันดับแรกที่ลูกค้าอยากได้ ทำให้มีโจทย์มาคิดต่อว่าขนาดเท่าไรถึงจะเหมาะกับลูกค้าที่ส่วนใหญ่เป็นพนักงานออฟฟิศ

นอกจากนี้ การสะสมสแตมป์ยังทำให้ลูกค้าได้สะสมแต้ม The 1 ไปด้วยในเวลาเดียวกกัน

หลักการ 3Es นี้จะนำไปสู่กลยุทธ์ Winning Together ที่สร้างประโยชน์ให้ห่วงโซ่ธุรกิจของท็อปส์ คือ

  • ลูกค้า ได้ของที่เป็นเอกลักษณ์ ใช้งานได้จริง เหมาะสมกับราคา
  • พาร์ทเนอร์ แบรนด์ได้รับการมองเห็นและรับรู้มากขึ้นจากแคมเปญ
  • ท็อปส์ สามารถรักษาฐานลูกค้าในปัจจุบันที่เป็น Gen X และ Gen Y และค่อย ๆ ขยายฐานลูกค้าใหม่ไปยังกลุ่ม Gen Z 
  • ศิลปิน ได้รับการมองเห็นมากขึ้น สร้างพื้นที่แสดงความคิดสร้างสรรค์

จักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล ทิ้งท้ายว่า ทางท็อปส์เชื่อว่าการทำ Brand Engagement ด้วยการทำแคมเปญแบบเดิม ทำได้แค่ 1-2 รอบก็จะไม่เวิร์คแล้ว เลยต้องพยายามหาสูตรใหม่ ๆ มีการปรับเปลี่ยนได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นประเภทของพรีเมี่ยม คาแรคเตอร์สินค้า หรือลักษณะของกิจกรรมในแคมเปญ ผ่านการเก็บข้อมูลและถามความเห็นลูกค้าก่อน

สำหรับแคมเปญในปีนี้ สมาชิก The 1 จะได้รับ E-stamp 1 ดวงเมื่อซื้อสินค้าครบทุก 100 บาทต่อใบเสร็จ โดยสแตมป์จะสะสมผ่านแอปพลิเคชันไลน์ @TopsThailand และ @TopsDaily_th ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม – 6 สิงหาคมปีนี้ โดยสามารถแลกของรางวัลตามคอลเลคชั่นของศิลปินได้ 3 รอบ 

  • รอบที่ 1 แลกซื้อสินค้าจากคอลเลกชันศิลปิน Painterbell ตั้งแต่ 15 พฤษภาคม – 13 สิงหาคม หรือจนกว่าสินค้าจะหมด
  • รอบที่ 2 แลกซื้อสินค้าจากคอลเลกชันศิลปิน Nui Wonderland ตั้งแต่ 12 มิถุนายน – 13 สิงหาคม หรือจนกว่าสินค้าจะหมด
  • รอบที่ 3 แลกซื้อสินค้าจากคอลเลกชันศิลปิน ARTSTORY by Autistic Thai ตั้งแต่ 12 มิถุนายน – 13 สิงหาคม หรือจนกว่าสินค้าจะหมด

โดยมีรายละเอียดสินค้า ดังนี้

  • ร่มพับ 5 ตอน กัน UV สะสมสแตมป์ 100 ดวง แลกซื้อในราคา 1 บาท หรือสะสมครบ 10 ดวง แลกซื้อในราคา 119 บาท
  • แก้วน้ำเก็บอุณหภูมิ สะสมสแตมป์ 150 ดวง แลกซื้อในราคา 1 บาท หรือสะสมครบ 20 ดวง แลกซื้อในราคา 159 บาท
  • กระเป๋าผ้าช็อปปิ้ง สะสมสแตมป์ 250 ดวง แลกซื้อในราคา 1 บาท หรือสะสมครบ 30 ดวง แลกซื้อในราคา 299 บาท

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา