นิวยอร์กครองแชมป์ เมืองสวรรค์ที่เหล่าเศรษฐีเลือกไปอยู่อาศัยมากที่สุดในโลก ส่วนเศรษฐีไทยที่รวยติด 500 อันดับแรกของโลกคือ เจริญ สิริวัฒนภักดี และสารัชถ์ รัตนาวะดี
สำหรับปี 2022 ที่ผ่านมา 3 เมืองที่เป็น Top 3 ของโลกคือ นิวยอร์ก โตเกียว ซานฟรานซิสโก ส่วนปี 2023 นี้ 10 อันดับแรกที่เหล่าเศรษฐีชอบอยู่อาศัย ดังนี้ นิวยอร์ก โตเกียว อ่าวซานฟรานซิสโก ลอนดอน สิงคโปร์ ลอสแอนเจลิส ฮ่องกง ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และซิดนีย์
สัดส่วนของเหล่าเศรษฐีที่อาศัยอยู่ใน 10 เมืองอันดับแรกของโลกมีทั้งเพิ่มขึ้นและลดลง โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่ม HNWIs (High Net Worth Individual ผู้ที่มีความมั่งคั่ง มีเงินและสินทรัพย์ในครอบครองมูลค่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 34.4 ล้านบาท)
กลุ่ม Centi-millionaires (กลุ่มที่มีความมั่งคั่ง ครอบครองเงินและสินทรัพย์มูลค่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 3.44 พันล้านบาทขึ้นไป
กลุ่ม Billionaires (กลุ่มที่มั่งคั่งมาก ครอบครองเงินและสินทรัพย์มูลค่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือ 3.44 หมื่นล้านบาทขึ้นไป)
นิวยอร์ก
มีคนร่ำรวยระดับ HNWI หรือมีเงินและทรัพย์สินในครอบครองมูลค่า 34 ล้านบาทจำนวน 3.4 แสนคน ในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่ปี 2012- ปี 2022 มีสัดส่วนคนรวยระดับ HNWI เพิ่มขึ้น 40% มีคนรวยระดับ 3.4 พันล้านบาท จำนวน 724 คน และมีเศรษฐีระดับ 3.4 หมื่นล้านอยู่ที่ 58 คน
โตเกียว
ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา โตเกียวมีคนร่ำรวยระดับ HNWI มาอยู่อาศัยลดลง 5% กลุ่มคนรวยที่ครอบครองสินทรัพย์มูลค่า 34 ล้านบาทมีจำนวน 290,300 คน ศรษฐีระดับ 3.4 พันล้านบาทอยู่ที่ 250 คน และมีคนรวยระดับ 3.4 หมื่นล้านอยู่ที่ 14 คน
อ่าวซานฟรานซิสโก แคลิฟอร์เนีย
ในรอบ 10 ปีมีคนรวยระดับ HNWI อาศัยที่นี่เพิ่มขึ้น 68% เศรษฐีที่ถือครองสินทรัพย์มูลค่า 34 ล้านบาทขึ้นไปจำนวน 285,000 คน มีคนรวยระดับ 3.4 พันล้านบาทอยู่ที่ 629 คน และคนรวยระดับ 3.4 หมื่นล้านบาทอยู่ที่ 63 คน
ลอนดอน
ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมามีคนรวยระดับ HNWI อาศัยในลอนดอนลดลง 15% มีจำนวน 258,000 คน มีคนรวยระดับ 3.4 พันล้านบาทอยู่ที่ 384 คน มีคนรวยระดับ 3.4 หมื่นล้านอยู่ที่ 36 คน
สิงคโปร์
มีคนรวยระดับ HNWI อาศัยที่สิงคโปร์เพิ่มขึ้น 40% จำนวน 240,100 คน มีคนรวยระดับ 3.4 พันล้านบาท จำนวน 329 คน และคนรวยระดับ 3.4 หมื่นล้านอยู่ที่ 27 คน
ลอสแอนเจลิส
มีคนรวยระดับ HNWI อาศัยที่ลอสแอนเจลิสเพิ่มขึ้น 35% อยู่ที่ 205,400 คน มีคนรวยระดับ 3.4 พันล้านบาทอยู่ที่ 480 คน และคนรวยระดับ 3.4 หมื่นล้านจำนวน 42 คน
ฮ่องกง
มีคนรวยระดับ HNWI อาศัยที่ฮ่องกงลดลง 27% มีจำนวน 129,500 คน คนรวยระดับ 3.4 พันล้านบาทขึ้นไปมีจำนวน 290 คน และคนรวยระดับ 3.4 หมื่นล้าน อยู่ที่ 32 คน
ปักกิ่ง
มีคนรวยระดับ HNWI อาศัยที่ปักกิ่งเพิ่มขึ้น 70% อยู่ที่ 128,200 คน คนรวยระดับ 3.4 พันล้านบาทอยู่ที่ 354 คน และคนรวยระดับ 3.4 หมื่นล้านอยู่ที่ 43 คน
เซี่ยงไฮ้
มีคนรวยระดับ HNWI อาศัยอยู่เพิ่มขึ้น 72% มีจำนวน 127,200 คน และคนรวยระดับ 3.4 พันล้านบาทขึ้นไปอาศัยอยู่ 332 คน และคนรวยระดับ 3.4 หมื่นล้านอาศัยอยู่ 40 คน
ซิดนีย์
มีคนรวยระดับ HNWI อาศัยเพิ่มขึ้น 35% มีจำนวน 126,900 คน และคนรวยระดับ 3.4 พันล้านบาทอาศัยอยู่ 184 คน คนรวยระดับ 3.4 หมื่นล้านอาศัยอยู่ 15 คน
อย่างไรก็ดี สำหรับประเทศไทยนั้นมีจำนวนประชากรทั้งหมด 66.09 ล้านคน แต่มีมหาเศรษฐีไทยเพียง 2 คนเท่านั้นที่รวยติดอันดับ 500 คนที่มีฐานะร่ำรวยที่สุดในโลก จัดอันดับโดย Bloomberg Billionaire Index ดังนี้
คนแรกคือ เจริญ สิริวัฒนภักดี
ติดอันดับที่ 114 จาก 500 อันดับแรกของเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก
เจริญคือมหาเศรษฐีชาวไทยเชื้อสายจีน เจ้าอาณาจักรไทยเบฟและอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ ผู้ผลิตเครื่องดื่มรายใหญ่ที่สุดของไทยที่ทำรายได้ในปี 2022 สูงถึง 2.72 แสนล้านบาท
นับจากปี 2013 เจริญ สิริวัฒนภักดีมีสินทรัพย์ในครอบครองมูลค่า 9.72 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 3.3 แสนล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน) และขยายเพิ่มเป็น 1.55 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 5.1 แสนล้านบาทในปี 2023
ถ้าเทียบมูลค่าทรัพย์สินราว 5.1 แสนล้านบาท สามารถซื้อทองคำได้ประมาณ 7.78 ล้านทรอยออนซ์หรือประมาณ 2.41 แสนกิโลกรัม สามารถซื้อน้ำมันดิบได้ 188 ล้านบาร์เรล
คนที่สองคือ สารัชถ์ รัตนาวะดี
ติดอันดับที่ 151 จาก 500 อันดับแรกของเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก
สารัชถ์คือนักธุรกิจไทย บุตรของอดีตหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการ กองบัญชาการทหารสูงสุด สารัชถ์คือเจ้าอาณาจักรแห่งพลังงานไฟฟ้า ผู้ก่อตั้งบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้าและเป็นผู้ผลิตกระแสไฟฟ้าของเอกชนรายใหญ่ที่สุดของไทย
ปี 2018 สารัชถ์ครอบครองสินทรัพย์มูลค่า 3.57 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1.2 แสนล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน) และขยายเพิ่มเป็น 1.25 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 4.29 แสนล้านบาทในปี 2023
ถ้าเทียบมูลค่าทรัพย์สินที่มีอยู่ราว 4.29 แสนล้านบาท จะสามารถซื้อทองคำได้ประมาณ 6.24 ล้านทรอยออนซ์หรือประมาณ 1.94 แสนกิโลกรัม สามารถซื้อน้ำมันดิบได้ประมาณ 151 ล้านบาร์เรล
ที่มา – Henley Global, Bloomberg (1), (2)
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา