“น้ำเต้าหู้” คือสินค้าธรรมดาๆ ที่หาซื้อได้ง่าย แต่ทำไม Tofusan ที่ขายน้ำเต้าหู้พาสเจอร์ไรซ์บรรจุขวดถึงเข้าไปนั่งในใจผู้บริโภค ด้วยยอดขายเกิน 500 ล้านบาท เตรียมแผนส่งออกน้ำเต้าหู้ไปต่างประเทศเร็วๆ นี้
นวัตกรรมคือสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจ
จุดเริ่มต้นของ Tofusan มาจากผู้ก่อตั้ง และกรรมการผู้จัดการ “สุรนาม พานิชการ” ที่ต้องซื้อน้ำเต้าหู้คั้นสด 100% มาให้คุณพ่อของเขาดื่มทุกวัน แต่ด้วยเวลาในการทำงานไม่เอื้ออำนวย ต้องออกเช้า-กลับดึก ทำให้บางครั้งก็ซื้อน้ำเต้าหู้คั้นสดมาไม่ได้ จึงตัดสินใจพัฒนาสินค้านี้ขึ้นมาเอง และกลายเป็น SME ดาวรุ่งในประเทศไทย
“ผมเริ่มต้นเมื่อปี 2554 จากการไม่ได้มีความรู้เรื่องนี้มากนัก จึงไปขอความช่วยเหลือจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนงานวิจัย และมหาวิทยาลัยต่างๆ เพราะผมเชื่อว่ามันต้องมีวิธีที่ทำให้น้ำเต้าหู้คั้นสด 100% ดื่มที่ไหนก็ได้ แต่กว่าจะสำเร็จออกมาก็ใช้เวลาในห้องทดลองเกือบปี” สุรนาม อธิบาย
ดังนั้น Tofusan จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้า “สุรนาม” ไม่เชื่อในนวัตกรรมใหม่ๆ และเขาก็ใช้แนวคิดเป็นหนึ่งในหัวใจของการพัฒนาธุรกิจ Tofusan เพราะเมื่อมีนวัตกรรมใหม่ออกมาตลอดเวลา โอกาสในการทำตลาดก็มีมากขึ้น และถึงจะต้องใช้เงินลงทุนมากแค่ไหน หากที่สุดแล้วผลลัพธ์มันออกมาดี ก็เท่ากับประสบความสำเร็จ
แผนกวิจัยและพัฒนาที่เก่งคือเรื่องจำเป็น นวัตกรรมที่ Tofusan สร้างขึ้นมา คือ การทำให้รสชาติน้ำเต้าหู้ออกมาให้เหมือนน้ำเต้าหู้ดั้งเดิม ไม่ใช่คล้ายนมวัวเหมือนในตลาด นอกจากนี้ยังเป็นน้ำเต้าหู้ที่ไม่ผสมน้ำมัน และมีโปรตีนมากกว่าน้ำเต้าหู้ทั่วไป รวมถึงเป็นผู้เล่นเพียงรายเดียวที่ใส่เม็ดแมงลักในน้ำเต้าหู้บรรจุขวดแล้วเม็ดแมงลักยังคงรูปเดิม
“Tofusan จะไม่ทำนวัตกรรมที่ไม่มีคนซื้อ หรือขนาดลูกค้าเล็กเกินไป เราจึงหาฐานลูกค้าก่อน แถมยังต้องใช้ศาสตร์ และศิลป์ในการพัฒนานวัตกรรมแต่ละตัวด้วย ทำให้แผนก R&D ของเราต้องทำงานหนัก ยิ่งเรามีแค่ 7-8 คน ทุกฝ่ายก็ต้องมาช่วยกัน และในแต่ละปีเราใช้เงิน 5-7% ของรายได้ไปกับการวิจัย และพัฒนาสินค้า”
เมื่อปลายปี 2562 Tofusan ก็สร้างนวัตกรรมใหม่อีกครั้งด้วยการทำน้ำเต้าหู้บรรจุกล่อง UHT โดยคงความเป็นน้ำเต้าหู้เอาไว้ได้ นอกจากนี้การพัฒนาขวดที่ลดการใช้พลาสติกลง 30% รวมถึงการทำให้ขวดมีลักษณะเหลี่ยมจนคุ้มค่าการขนส่งก็เป็นอีกนวัตกรรมที่บริษัทภูมิใจ และจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าบริษัทไม่สร้างทีมงานที่เก่งขึ้นเรื่อยๆ
อนาคตคือไปต่างประเทศ และทำสินค้าใหม่ๆ
สำหรับแผนในอนาคตของ Tofusan ก็คือการเดินหน้าออกไปทำตลาดต่างประเทศ แต่ต้องรอให้ตัวสินค้าพร้อมก่อน เนื่องจากสินค้าหลักยังเป็นกลุ่มพาสเจอร์ไรซ์ และถ้าสินค้ากลุ่ม UHT แข็งแกร่งมากขึ้น โอกาสในการบุกตลาดต่างประเทศก็มีสูง
ขณะเดียวกัน Tofusan ก็เตรียมพัฒนาสินค้าใหม่ๆ โดยคงไว้ที่นวัตกรรม และสุขภาพที่ดีหลังจากรับประทาน ทั้งยังเตรียมสร้างแนวทางการตลาดใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคอีกด้วย โดยเฉพาะการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง รวมถึงการหาพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่จะเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
จากความสำเร็จนี้เองทำให้ Tofusan เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับรางวัล Bai Po Business Awards ครั้งที่ 15 จากธนาคารไทยพาณิชย์ และสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ฯ โดย Tofusan ได้รางวัลทั้งหมด 4 ด้าน ประกอบด้วย การบริหารจัดการด้านสินค้าและบริการที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า การบริหารจัดการด้านการสร้างตราสินค้าและการตลาด องค์กรที่มีการสร้างสรรค์นวัตกรรม การสร้างธุรกิจด้วยพลังแห่งการเป็นผู้ประกอบการ
สรุป
ไม่ใช่ธรรมดาที่ Tofusan จะยืนหยัดได้ เพราะถึงตอนนี้ “สุรนาม” ก็ยังยอมรับว่า หากลูกค้าเจอน้ำเต้าหู้คั้นสดๆ ในหม้อ ลูกค้าก็ขอเลือกซื้อในหม้อมากกว่าจะเดินเข้ามาในร้านสะดวกซื้อแล้วซื้อ Tofusan แต่สำหรับสุรนาม เขากลับคิดนอกกรอบว่า มันไม่สำคัญเท่ากับว่า Tofusan จะเป็นตัวเลือกแรกของลูกค้าเสมอ เมื่อเวลาที่ร้านน้ำเต้าหู้เหล่านั้นปิด เพราะความอร่อยจนบอกต่อกันปากต่อปาก ทำให้ Tofusan เติบโตถึงจนถึงวันนี้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา