ถุงสายเขียว!? เจ้าของถุงยาง One Touch ลงทุน กัญชง-กัญชา-กระท่อม เตรียมใส่ใน ถุงยาง-เจลหล่อลื่น

TNR เจ้าของแบรนด์ถุงยางอนามัย One Touch ประกาศลงทุนใน กัญชง, กัญชา และกระท่อม เป็นตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงปลายน้ำ เผยเตรียมใส่ใน ถุงยาง และเจลหล่อลื่น หวังปั้นรายได้จากธุรกิจใหม่ 1,000 ล้านบาท

ถุงยาง

ถุงยาง One Touch ใส่กัญชง-กัญชา?

รายงานข่าวแจ้งว่า บมจ. ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ หรือ TNR ผู้รับผลิตถุงยางอนามัย และเจ้าของถุงยางแบรนด์ One Touch เตรียมนำสารสกัดจาก กัญชง ไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ถุงยางอนามัย และสารหล่อลื่น เพื่อส่งออกต่างประเทศ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ส่วนผสมของสาร Mitragynine จากใบกระท่อมเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่าสินค้าถุงยางอนามัย และสารหล่อลื่น รวมถึงสินค้าที่มีส่วนผสม Mitragynine จะเริ่มทำตลาดเมื่อไร และจะทำภายใต้แบรนด์ One Touch หรือไม่ แต่ในไตรมาส 3 ปี 2565 จะเห็นเครื่องดื่ม และสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพที่บริษัทพัฒนาร่วมกับ บริษัท เอส วี เอส อินโนเทค จำกัด และ บริษัท โกพลัส เฮลธี จำกัด

ปัจจุบัน One Touch มีถุงยางอนามัยหลากหลายรูปแบบ มีสินค้าเรือธงคือ One Touch Happy ถุงยางราคาเข้าถึงง่าย และเป็นผู้ผลิตสัญชาติไทยเพียงรายเดียวที่ต่อสู้กับคู่แข่งต่างชาติเช่น Durex และ Okamoto ได้อย่างสูสี โดยปี 2564 One Touch มีส่วนแบ่งในตลาดถุงยางอนามัย 40.1% เป็นอันดับ 1 ในแง่จำนวน

TNR กับแหล่งรายได้ใหม่พืชสมุนไพร

อมร ดารารัตนโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ เล่าให้ฟังว่า บริษัทได้เข้าสู่ตลาด กัญชง, กระท่อม และกัญชา เต็มตัว ครอบคลุมตั้งแต่ระดับต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ผ่าน บริษัท ทีเอ็นอาร์ ไบโอไซเอินซ์ จำกัด (TNRBio) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ TNR ถือหุ้น 100% มีทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท

บริษัทดังกล่าวจะดำเนินธุรกิจสกัด และจำหน่ายสารสำคัญพืชสมุนไพร ตั้งเป้าเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจในด้านนี้ ด้วยการต่อยอดความเชี่ยวชาญจากธุรกิจหลักในปัจจุบันที่เป็นผู้ผลิตถุงยางอนามัย และเจลหล่อลื่น ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือแพทย์ที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะ

ทั้งนี้ บริษัทฯ เห็นโอกาสจากการที่รัฐบาลมีนโยบายผลักดันกัญชงและกระท่อมเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่และได้รับการปลดล็อกจากบัญชียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 เป็นที่เรียบร้อย โดยได้เริ่มศึกษาและรุกเข้าสู่ธุรกิจดังกล่าวอย่างจริงจังตั้งแต่ปีที่ผ่านมา

ครอบคลุมต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ

สำหรับแผนดำเนินการรุกตลาด กัญชง, กัญชา และกระท่อม ของ TNR แบ่งเป็น 3 ระดับคือ

  • ระดับต้นน้ำ
    • บริษัทฯ จะร่วมมือกับสถาบันการศึกษาสนับสนุนการทดสอบ วิจัย และพัฒนาสายพันธุ์กัญชงที่สามารถสกัดสาร CBD (Cannabidiol) ได้ในปริมาณสูง รวมถึงจัดตั้งจุดรับซื้อช่อดอกกัญชง และศูนย์ตรวจวัดค่าต่าง ๆ ตามมาตรฐาน
  • ระดับกลางน้ำ
    • บริษัทฯ จะลงทุนจัดตั้งโรงงานสกัดสารสำคัญจากกัญชงและกระท่อม เพื่อจำหน่ายสารสกัด CBD และ Mitragynine เพื่อนำไปใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ พร้อมกับจัดตั้งห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ พื่อตรวจวัดระดับสารสำคัญ CBD ,THC รวมไปถึงสารปนเปื้อนและโลหะหนัก ทั้งในช่อดอกกัญชงและสารสกัด
  • ระดับปลายน้ำ
    • บริษัทฯ พัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพที่มีส่วนผสมสารสกัดจากกัญชงภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ ออกสู่ตลาด พร้อมเตรียมแผนงานรุกเข้าสู่อุตสาหกรรมกระท่อมโดยการจำหน่ายทั้งสารสกัด และผลิตภัณฑ์ รวมถึงศึกษาการรุกอุตสาหกรรมกัญชาเพื่อขยายธุรกิจนอนาคต

ปัจจุบันบริษัทฯ ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจในด้านการปลูกกับองค์กรต่าง ๆ แล้ว 3 แห่ง คือ

  • มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เพื่อสนับสนุนโครงการศูนย์ทดสอบ วิจัย และพัฒนากัญชงอุตสาหกรรมเป็นระยะเวลา 5 ปี
  • บริษัท เอฟจีพี (ไทยแลนด์) จำกัด เจ้าของสายพันธุ์กัญชง เพื่อสั่งซื้อเมล็ดพันธุ์กัญชงมาใช้เพาะปลูกในการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์
  • บริษัท ซีบีดี ไบโอไซเอนซ์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญการปลูกกัญชงในระดับอุตสาหกรรม โดยทำสัญญาคอนแทกฟาร์มมิ่ง พื่อซื้อ-ขายช่อดอกกัญชงแห้งจากแปลงเพาะปลูกในโรงเรือนระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้น โดยมีกำหนดทยอยส่งมอบช่อดอกกัญชงแห้งให้บริษัทฯ ตั้งแต่เดือน เม.ย.-ธ.ค. 2565 ขั้นต่ำ 18,000 กิโลกรัม

นอกจากนี้ทางบริษัทฯ เตรียมลงนามบันทึกข้อตกลงกับบริษัทที่มีความสนใจในการนำตัวสารสกัดจากพืชกัญชงไปใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ ได้แก่ บริษัท แมคโครฟาร์ จำกัด, บริษัท สุพรีม ฟาร์มาเทค จำกัด และยังได้ บริษัท เมอราเคช จำกัด มาเป็นตัวแทนในการร่วมจัดจำหน่ายกับบริษัทฯ ส่วนพืชกระท่อม บริษัทฯ เตรียมลงนามบันทึกข้อตกลงด้านการวิจัยพืชสมุนไพร เครื่องมือแพทย์ และอาหารทางการแพทย์ กับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

ธุรกิจใหม่สร้างรายได้หลัก 1,000 ล้านบาท

สุเมธ มาลิสีรังสี ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน TNR กล่าวว่า ความคืบหน้าการจัดตั้งโรงงานสกัดภายในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง จังหวัดชลบุรี ใกล้กับที่ตั้งของโรงงานผลิตถุงยางอนามัยและเจลหล่อลื่นของ TNR ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักรแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2565 เพื่อให้ อย.ตรวจสอบ

เบื้องต้นเดือน มิ.ย. 2565 จะทราบผลและเริ่มเดินเครื่องจักรโรงงานสกัดได้จากแผนงานขยายธุรกิจสู่อุตสาหกรรมกัญชง และกระท่อม ทั้งนี้ หากได้รับใบอนุญาตโรงงานสกัดจากอย. ภายในเดือน มิ.ย. นี้ จะสามารถผลิตสารสกัดได้ภายในครึ่งปีหลัง

ทำให้บริษัทตั้งเป้าว่า ปี 2567 ธุรกิจกัญชง กระท่อม และกัญชา จะสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ ประมาณ 1,000 ล้านบาท ประเมินรายได้จากการจำหน่ายสารสกัดแบบผง และแบบสารสกัดละลายน้ำที่เป็นสินค้าหลัก (ไม่รวมรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ และบริการทดสอบต่าง ๆ)

สรุป

กัญชง กัญชา และกระท่อม ยังเป็นกระแสอยู่ แม้ในปี 2565 บริษัทในตลาดจะหันไปประกาศลงทุนบิตคอยน์ หรือสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ กันมากขึ้น และหากมีถุงยางอนามัย หรือเจลหล่อลื่นที่มีส่วนผสมของกัญชา หรือกระท่อม เชื่อว่าการทำตลาดถุงยาง และเจล น่าจะมีสีสันกว่านี้แน่ ๆ แต่ต้องดูว่า อย. จะเข้ามากำกับมากแค่ไหน

อ้างอิง // TNR

อ่านข่าวเกี่ยวกับถุงยางอนามัยเพิ่มเติมได้ที่นี่

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา