บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO เปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ว่า ไตรมาส 4 ปี 2566 ที่ผ่านมามีกำไรสุทธิในส่วนของบริษัทอยู่ที่ 1,781.66 ล้านบาท ลดลง 1.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (ลดลง 5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/66 เรื่องจากการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพื่อรองรับความเสี่ยงในอนาคต) สาเหตุหลักมาจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอ่อนตัวลง 17.0% เนื่องจากธุรกิจที่เกี่ยวกับตลาดทุนทั้งรายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่ลดลงและการรับรู้ผลขาดทุนจากเครื่องมือทางการเงิน รวมถึงธุรกิจธนาคารพาณิชย์ชะลอตัวลงตามสภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงอ่อนแอ อย่างไรก็ดี รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 6.6% จากสินเชื่อที่ขยายตัว ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 5.4% ตามแผนการเติบโตในระยะยาวของบริษัท ส่วนผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ขณะที่ภาพรวมผลประกอบการของธนาคารทิสโก้ ทั้งปี 2566 พบว่ามีกําไรสุทธิที่ 7,302.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.1% จากปี 2565 สาเหตุหลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเติบโตขึ้น 8.6% ตามเงินให้สินเชื่อที่ขยายตัวร้อยละ 7.2 แม้ว่าในปีนี้ ต้นทุนทางการเงินของบริษัทปรับเพิ่มขึ้นถึง 93.9% ตามทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นในตลาด และการปรับ อัตราเงินนําส่งจากสถาบันการเงินเข้ากองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) กลับสู่ระดับปกติท่ี 0.46% ต่อปี
ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 6.4% จากปี 2565 เนื่องจากการชะลอตัวของธุรกิจท่ีเกี่ยวกับตลาดทุน โดยรายได้ค่านายหน้า จากการซื้อขายหลักทรัพย์อ่อนตัวลง 16.5% จากตลาดทุนที่ผันผวนรุนแรงซึ่งส่งผลต่อเนื่องถึงผลขาดทุนจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่ายุติธรรมผ่านงบกําไรขาดทุน (FVTPL) นอกจากนี้ ค่าธรรมเนียมธุรกิจธนาคารพาณิชย์ฟื้นตัวช้ากว่าคาดโดยเฉพาะธุรกิจนายหน้าประกันภัย ที่ชะลอตัวลงตามปริมาณการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ลดลง
อย่างไรก็ดี ธุรกิจจัดการกองทุน สามารถกลับมาขยายตัวได้ 5.4% เป็นผลมาจากทั้งค่าธรรมเนียมพื้นฐานที่เติบโตตามสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร รวมถึงการรับรู้ค่าธรรมเนียมตามผลประกอบการของธุรกิจจัดการกองทุน (Performance Fee) สําหรับค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.7% จากแผนการลงทุนระยะยาวเพื่อการขยายตัวของธุรกิจ ในขณะที่ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดข้ึน (ECL) อยู่ที่ 613.47 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า ขณะที่ยังอยู่ในระดับต่ำที่ 0.3% ของยอดสินเชื่อ เฉลี่ย
ผลประกอบการในส่วนของบริษัทฯ ปี 2566 มีจุดสำคัญดังนี้
- กำไรสุทธิอยู่ที่ 7,302.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
- รายได้ดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 13,828.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
(ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ: NIM อยู่ที่ 5.04% ลดลงจากปี 2565 ที่อยู่ราว 5.09%) - รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอยู่ที่ 5,217.15 ล้านบาท ลดลง 6.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
- ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอื่นๆ อยู่ที่ 9,340 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
- สินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) อยู่ที่ 5,222.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.1% จากสิ้นปีก่อนหน้า โดยอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) อยู่ที่ 2.22% เพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นปีก่อนหน้าที่อยู่ระดับ 2.09%
ทั้งนี้ ธนาคารและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมจำนวน 290,726.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.5% จากสิ้นปี 2565 และมีหนี้สินรวมที่ 248,276.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.5% จากปีก่อนหน้า
ที่มา TISCO, SET
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา