เจาะธุรกิจ The Mom Project กับการสร้างแพลตฟอร์มเพื่อคุณแม่ที่อยากกลับมาทำงานอีกครั้ง

Harvard Business Review พบว่า 43% ของผู้หญิงที่มีทักษะในการทำงานสูง เมื่อมีบุตรก็จะหายไปจากตลาดงาน ซึ่งมันน่าจะดีกว่าถ้าสามารถดึงคุณแม่เหล่านี้กลับมาได้ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของ The Mom Project

แพลตฟอร์มรวมงานสำหรับคุณแม่

จากข้อมูลของ Harvard Business Review ชี้ให้เห็นว่า องค์กรต่างๆ จะสูญเสียผู้หญิงที่ทำงานเก่งๆ ไปในทันทีหลังจากที่พวกเธอแต่งงาน และมีบุตร เพราะในยุคนี้การยอมลาออกมาเพื่อเลี้ยงดูลูกเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะปัจจัยต่างๆ เช่นโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และทัศนคติเรื่องการมีลูก

อย่างไรก็ตามเมื่อเหล่าคุณแม่เมื่อเลี้ยงดูลูกจนเติบโต และพอมีเวลาเป็นของตัวเองบ้างแล้ว ส่วนใหญ่ก็อยากกลับมาทำงาน เพราะอาจต้องการเข้าสู่สังคมนี้อีกครั้ง หรือไม่ก็อยากใช้เวลาว่างของตัวเองมาสร้างรายได้จุนเจือครอบครัว แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้นน่ะสิ เนื่องจากเมื่อคุณหายไปจากตลาดงาน 1-2 ปี องค์กรต่างๆ ก็คงมองข้ามคุณไปแล้ว

ประกอบกับเรื่องเวลาที่เหล่าคุณแม่ก็อยากมีเวลาอิสระเพื่อแบ่งให้กับการเลี้ยงดูลูกด้วย แต่เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ และส่งมอบโอกาสให้คุณแม่ที่มีทักษะงานค่อนข้างดีกลับเข้ามาสู่ตลาดนี้ได้อีกครั้ง The Mom Project จึงก่อตั้งขึ้น พร้อมวางตัวเองเป็นแพลตฟอร์มรวมงานสำหรับคุณแม่ที่อยากกลับมาทำงานโดยเฉพาะ

จากขายผ้าอ้อมสำเร็จรูป สู่เจ้าของธุรกิจนี้

สำหรับ The Mom Project นั้นก่อตั้งโดย Allison Robinson อดีตพนักงานด้านดูแลกลยุทธ์ให้กับแบรนด์ Pampers หลังจากที่เธอเข้าสู่สถานะคุณแม่เมื่อปี 2559 เพราะตอนนั้นเธอได้ลาคลอดออกมาเลี้ยงดูลูก และรู้สึกเข้าใจเรื่องการกลับไปทำงานของเหล่าคุณแม่มากขึ้น

“แม้จะทำงานกับคุณแม่มาเยอะ แต่กว่าจะเข้าใจความเป็นคุณแม่ ก็ตอนที่เป็นคุณแม่ที่มีลูกชายคนหนึ่งนี่แหละ” เธอกล่าว พร้อมกับเล่าเรื่องแรงบันดาลใจในการสร้างธุรกิจนี้ว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะกลับเข้าไปในตลาดงานอีกครั้งหลังจากห่างหายไประยะหนึ่ง และมันท้าทายอย่างมากกับการตัดสินใจในเรื่องแบบนี้

ทั้งนี้ปัญหาดังกล่าวจะหมดไป เพราะ The Mom Project จะเข้ามาช่วยผ่านการรวบรวมองค์กรที่มีความสนใจจ้างงานคุณแม่เหล่านี้ ซึ่งปัจจุบันก็มีกว่า 1,000 บริษัทที่ให้ความสนใจ และด้วยมันเป็นธุรกิจที่ค่อนข้างใหม่ ทำให้บริษัทระดมทุนได้ถึง Series A และถ้ารวมการลงทุนตั้งแต่เริ่มต้นก็มีมูลค่า 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 360 ล้านบาท)

ช่วยเหลือคุณแม่ พร้อมสร้างภาพลักษณ์องค์กร

ในทางกลับกัน The Mom Project ก็มีคุณแม่สมัคร พร้อมกรอกประวัติการทำงานกว่า 75,000 คนแล้วด้วย แถมส่วนใหญ่นั้นจบอย่างน้อยปริญญาตรี และมีความเชี่ยวชาญในงานด้านต่างๆ พร้อมประสบการณ์ทำงาน 8-10 ด้วย เรียกว่าควรค่าแก่การจ้างงานเป็นอย่างยิ่ง

ขณะเดียวกันสิ่งจูงใจให้องค์กรต่างๆ มาเลือกจ้างคุณแม่ แทนที่จะเป็นกลุ่มบุคคลอื่นเพราะ คุณแม่เหล่านี้สามารถทำงานได้อย่างอิสระ เหมาะกับรูปแบบการทำงานในโลกยุคใหม่ที่ไม่ต้องมีระยะเวลาตายตัว, ช่วยเพื่อความหลากหลายภายในองค์กรได้อีกด้วย ผ่านการมีผู้หญิงที่มีประสบการณ์เข้ามาช่วยขับเคลื่อน

ที่ดูแตกต่างจากแพลตฟอร์มหางานอื่นๆ ก็คงเป็นเรื่องการสนับสนุนกลุ่มคุณแม่ เพราะตัว The Mom Project มีระบบดูแลการทำงานของคุณแม่ ทำให้นายจ้างสามารถขยายเวลาลาคลอดออกไปได้ ถือเป็นการสนับสนุนพวกเธอให้เลี้ยงลูกได้เต็มที่ และเป็นการรักษาบุคลากรระดับคุณภาพให้อยู่ในองค์กรได้นานขึ้นอีกด้วย

สรุป

ถือเป็นการสร้างธุรกิจรูปแบบใหม่ที่น่าสนใจ เพราะปัจจุบันเหล่าคุณแม่ที่อยู่ในที่ทำงานก็มีทักษะที่จำเป็นต่อองค์กรอยู่ และยิ่ง The Mom Project ตั้งเป้าว่าจะมีงานมากกว่า 75,000 ตำแหน่งให้เลือกสมัคร พร้อมวางตัวเป็นตัวกลางให้คุณแม่ช่วยแก้ปัญหางานให้กับองค์กรต่างๆ จากเดิมที่ทั้งคู่เซ็นสัญญางานแล้วก็จบไป

เรียกว่าเตรียมเป็น Airbnb หรือ Uber สำหรับวงการหางานก็เป็นได้

อ้างอิง // Techcrunch, The Mom Project

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา