รัฐสภามีมติ “ไม่สามารถเสนอชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีซ้ำได้”

วันนี้ สารพัดเรื่องราวเกิดขึ้นราวกับนัดกันไว้ ใครที่ติดตามการประชุมสภาเพื่อโหวตให้พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งที่สอง หลังจากโหวตแล้วครั้งแรกเมื่อ 13 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา วันนี้คือการประชุมเพื่อโหวตรอบสอง 

ขณะที่ประชุมสภากำลังดำเนินไป อยู่ๆ ราวเที่ยงวัน ศาลรัฐธรรมนูญก็มีมติ 7 ต่อ 2 รับคำร้องคดีถือครองหุ้นสื่อ ITV ให้ชี้แจงภายใน 15 วัน และสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่โดยทันที จากนั้นราว 15.00 น. พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ขอหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งศาล พร้อมฝากสมาชิกรัฐสภาดูแลพี่น้องประชาชนต่อด้วย ประเทศไทยเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมตั้งแต่ 14 พฤษภาคมแล้ว

Thailand protest
ภาพจาก Shutterstock

เนื้อหาเต็มที่พิธากล่าวไว้ ดังนี้

“ณ ปัจจุบันตอนนี้มีเอกสารจากศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้ผมหยุดปฏิบัติหน้าที่ ขออนุญาติพูดกับท่านประธานว่า รับทราบคำสั่งและจะปฏิบัติตามคำสั่ง จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยเป็นอื่น ขอใช้โอกาสนี้อำลาท่านประธานจนกว่าเราจะพบกันใหม่และขอฝากเพื่อนๆ สมาชิกใช้รัฐสภาในการดูแลพี่น้องประชาชน ผมคิดว่าประเทศไทยเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมอีกแล้วครับตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม”

ถ้าเกิดประชาชนชนะมาได้แล้วครึ่งทาง เหลืออีกครึ่งทาง ถึงแม้ว่าผมจะยังไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ แต่ขอให้เพื่อนสมาชิกทุกคนช่วยกันดูแลประชาชนต่อไปครับ ขอบคุณมากครับท่านประธาน” จากนั้นพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 แห่งประเทศไทยก็เดินออกจากสภาไป

นับตั้งแต่เริ่มประชุมเวลาประมาณ 09.30 น. จนถึง 17.00 น. การประชุมรัฐสภาดำเนินไปอย่างยืดเยื้อด้วยการถกเถียงเรื่อง “ญัตติ” จึงนำไปสู่การโหวตในสภา โหวตว่าสรุปแล้วเสนอชื่อพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ โดยสรุป รัฐสภามีมติ “ไม่สามารถเสนอชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีซ้ำได้”

ที่ประชุมมีมติเกินกึ่งหนึ่ง เห็นว่าการใช้มติตามข้อ 41 ทำได้ คือไม่สามารถเสนอชื่อพิธา ลิ้มเจริญรัตน์เป็นนายกรัฐมนตรีได้

การโหวตเริ่มให้มีการออกเสียงโหวต ดังนี้

  • ผู้ที่เห็นว่าเป็นญัตติต้องห้ามตามข้อบังคับข้อ 41 เสนอให้พิธา เป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้ ให้โหวตว่า “เห็นด้วย”
  • ผู้ใดเห็นว่า เสนอให้พิธา ลิ้มเจริญรัตน์เป็นนายกรัฐมนตรีได้ ไม่อยู่ภายใต้ข้อบังคับ 41 ให้กดปุ่ม “ไม่เห็นด้วย”
  • ท่านใดเห็นว่าสมควรงดออกเสียง ให้กดปุ่ม งดออกสียง

ผลสรุปคือ

  • จำนวนผู้ลงมติ รวม 715 คน
  • เห็นด้วย 394 เสียง
  • ไม่เห็นด้วย 312 เสียง
  • งดออกเสียง 8 เสียง
  • ไม่ลงคะแนน 1 เสียง

*ภายหลัง ในช่วงโหวต มีการโหวต “ไม่เห็นด้วย” เพิ่ม อีก 1 เสียง กลายเป็น

  • จำนวนผู้ลงมติทั้งหมด 715 คน
  • เห็นด้วย 395 เสียง
  • ไม่เห็นด้วย 312 เสียง
  • งดออกเสียง 8 เสียง
  • ไม่ลงคะแนน 1 คะแนน

ประธานสภาระบุว่า “ขณะนี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ งดปฏิบัติหน้าที่ เพราะฉะนั้นจำนวนสมาชิกกึ่งหนึ่งของที่ประชุมทั้งสองสภาในวันนี้คือ 374 คะแนนที่ออกมาจึงเห็นว่า 395 มีมติเกินกึ่งหนึ่ง การใช้มติตามข้อ 41 ใช้ได้ คือไม่สามารถเสนอชื่อพิธา ซ้ำได้ ในสมัยประชุมนี้” แม้หลังจากนั้นจะมีเสียง ส.ส. ขออนุญาตหารือ แต่ก็ปิดการประชุมทันที

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา