รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมเตรียมอนุมัติให้ Grab ถูกกฎหมาย คาดมีนาปีหน้ามีผลบังคับใช้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเตรียมอนุมัติให้บริการเรียกรถแอปพลิเคชันให้ถูกกฎหมายภายในเดือนมีนาคมปีหน้า นอกจากนี้ยังมีมาตรการช่วยเหลือกลุ่ม Taxi อีกด้วย

Grab Bangkok Thailand
ภาพจาก Shutterstock

เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ ได้รายงานว่า ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าการให้บริการรถรับจ้างสาธารณะผ่านแอปพลิเคชันว่า ในเดือนตุลาคมนี้นั้นจะยกร่างกฎกระทรวงเสร็จและเสนอกระทรวงคมนาคมในต้นเดือนพฤศจิกายนเพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็น จากนั้นจึงจะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบใน ธันวาคมและส่งไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยคาดว่าจะดำเนินการตามขั้นตอนและกระทรวงคมนาคมสามารถลงนามประกาศได้ภายในเดือนมีนาคม 2563

โดยเกณฑ์เบื้องต้นสำหรับผู้นำรถส่วนบุคคลมาให้บริการรับจ้างสาธาาณะผ่านแอปพลิเคชัน จะต้องมี เช่น

  • มีใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ
  • เป็นรถส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน อายุไม่เกิน 9 ปี
  • ให้บริการผ่านแอปพลิเคชันเท่านั้น
  • ต้องติดเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ตามกำหนด
  • ต้องแสดงชื่อ นามสกุล เลขที่ใบอนุญาตขับรถให้เห็น
  • แสดงค่าโดยสารให้ทราบล่วงหน้า อย่างน้อย 3 ภาษา คือ ไทย อังกฤษ จีน
  • มีประกันภัยเพิ่มเติมจากภาคบังคับ

ปัจจุบันแอพเรียกรถ เช่น Grab หรือแม้แต่ GET ยังไม่ได้รับรองให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยประเทศไทยถือเป็น 1 ใน 3 ประเทศของภูมิภาคอาเซียน (ไทย, เมียนมาร์, ลาว) ซึ่งยังไม่มีการรับรองให้แอพเรียกรถถูกกฎหมาย ส่วนประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้มีกฎหมายรองรับเรียบร้อยแล้ว

ธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ Grab ประเทศไทย ได้ให้มุมมองถึงเรื่องการอนุมัติให้แอพเรียกรถถูกกฎหมายในงานของบริษัทเมื่อเดือนกรฏาคมที่ผ่านมาว่า “เชื่อว่าหากทุกอย่างถูกกฎหมาย Grab ประเทศไทยก็น่าจะเติบโตได้มากกว่านี้อีก เพราะตอนนี้ในประเทศอื่นที่ Grab เข้าไปทำตลาดก็ต่างมีกฎหมายรองรับแล้ว ซึ่งเราก็เห็นสัญญาณดีว่าเรื่องนี้มันน่าจะเกิดขึ้นในไทยเหมือนกัน ผ่านการผลักดันจากพรรคการเมืองต่างๆ ก่อนเลือกตั้งที่อยากสนับสนุนให้ Grab ถูกกฎหมาย”

ข้อมูลจากศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาผู้บริหารทางธุรกิจแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้คาดการณ์อุตสาหกรรมการให้บริการยานพาหนะผ่านทางแอปพลิเคชัน หรือ Ride-hailing ในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2561 มีมูลค่าตลาดประมาณ 21,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 6 ของ GDP ภาคขนส่งทางบกไทย และคาดว่าจะเติบโตสูงขึ้นเป็น 433,000 ล้านบาทภายในปี พ.ศ. 2568 หรือคิดเป็นร้อยละ 27 ของ GDP ภาคขนส่งทางบกไทย

ส่วนทางด้านรถแท็กซี่รูปแบบเดิมนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้กล่าวว่าจะมีมาตรการช่วยเหลือออกมา เช่น การปรับค่าโดยสารให้เหมาะสม มีการโฆษณาบนตัวรถได้ กำหนดให้รถขนาดเล็กสามารถเป็นรถแท็กซี่ได้ ขยายอายุการใช้งานของรถ นำเทคโนโลยีใหม่มาใช้แทนอุปกรณ์ Taxi OK ได้

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
Content Writer ที่สนใจในเรื่องของตลาดทุนทั้งในและต่างประเทศ กลุ่ม TMT (Technology, Media, Telecom) การควบรวมกิจการ (M&A) นโยบายทางเศรษฐกิจของไทยและต่างประเทศ รวมถึงสิ่งละอันพันละน้อยทางธุรกิจที่น่าสนใจ