สวิตเซอร์แลนด์เตรียมที่จะยกเลิกการซื้อขายหุ้นของบริษัทสวิตเซอร์แลนด์ในตลาดหุ้นยุโรปต่างๆ ตอบโต้ EU ที่ก่อนหน้าแบนตลาดหุ้นสวิตเซอร์แลนด์
รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์เตรียมที่จะยกเลิกการซื้อขายหุ้นของบริษัทสวิตเซอร์แลนด์ในตลาดหลักทรัพย์ต่างๆ ในยุโรป เป็นการตอบโต้สหภาพยุโรป หรือ EU กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้ EU ได้แบนตลาดหลักทรัพย์สวิตเซอร์แลนด์ ส่งผลทำให้ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ย่ำแย่ลงจากเรื่องนี้
เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้คือ รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ไม่สามารถตกลงข้อตกลงและกฎระเบียบต่างๆ กับ EU เช่น ข้อตกลงและกฎระเบียบของตลาดหลักทรัพย์ เรื่องของกฎระเบียบ MiFID II ส่งผลให้ตลาดหลักทรัพย์สวิตเซอร์แลนด์ไม่ผ่านข้อกำหนดของ EU นอกจากนี้ทาง EU ยังหงุดหงิดในความล่าช้าของสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากข้อตกลงหลายๆ เรื่องจะต้องผ่านการลงประชามติก่อน รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ถึงจะอนุมัติได้
เรื่องดังกล่าวสร้างความเดือดร้อนให้กับหุ้นของบริษัทสวิตเซอร์แลนด์ ซื้อขายลำบากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Nestle หรือบริษัทผลิตยารักษาโรคอย่าง Novartis ได้รับผลกระทบในการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ในทวีปยุโรป เช่น ตลาดหลักทรัพย์แฟรงก์เฟิร์ต ฯลฯ โดยปัจจุบันปริมาณการซื้อขายหุ้นของบริษัทสวิสเซอร์แลนด์ 1 ใน 3 มาจากทวีปยุโรป
ความสัมพันธ์ของสวิตเซอร์แลนด์กับ EU ถือว่าแนบแน่นก่อนที่จะมีปัญหา ปริมาณการส่งออกของสวิตเซอร์แลนด์คิดเป็น 70% ส่งออกไปทวีปยุโรป ขณะที่บริษัทสวิตเซอร์แลนด์มีมูลค่าตลาด 10% ในดัชนี STOXX 600 ซึ่งรวม 600 บริษัทใหญ่ในทวีปยุโรป
นอกจากนี้ปัญหาระหว่างสวิตเซอร์แลนด์กับ EU อาจสร้างความตื่นตระหนกในอนาคตกับตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน หลังจาก EU ได้ยื่นคำขาดให้สหราชอาณาจักรออกจาก EU ภายในวันที่ 31 ตุลาคม หลังจากยืดเยื้อมาเป็นเวลานาน ซึ่งหลังจากนี้จะทำให้สถาบันการเงินต้องทำตามกฎระเบียบของ EU ถ้าหากไม่ทำตามแล้วอาจเป็นเหมือนกรณีของสวิตเซอร์แลนด์
อย่างไรก็ดีเมื่อวันที่ 1 กรกฏาคมที่ผ่านมา การซื้อขายหุ้นของบริษัทสวิตเซอร์แลนด์ ในตลาดหลักทรัพย์สวิตเซอร์แลนด์หลังจากที่ EU แบนนั้นกลายเป็นว่าปริมาณการซื้อขายนั้นดีกว่าสมัยก่อน EU แบนด้วยซ้ำ เฉลี่ยแล้วปริมาณการซื้อขายสูงขึ้นกว่าในอดีต 10%
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา