เปิดแล้ว Starbucks Reserve Roastery แห่งแรกในญี่ปุ่น ขึ้นแท่นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในโลก โค่นเซี่ยงไฮ้แชมป์เก่า

พาไปทำความรู้จัก Starbucks Reserve Roastery แห่งแรกในญี่ปุ่น ☕️ ปัจจุบันขึ้นแท่นเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในโลก

Starbucks Reserve Roastery แห่งแรกในญี่ปุ่น ใหญ่ที่สุดในโลก

เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา (27 กุมภาพันธ์ 2019) Starbucks เปิดตัว Reserve Roastery แห่งแรกในประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในโตเกียว แถวย่านสุดฮิตที่เอาไว้ดูดอกซากุระอย่าง Nakameguro ตรงข้ามแม่น้ำ Meguro

Starbucks Reserve Roastery ในญี่ปุ่นถือเป็นร้านลำดับที่ 5 ในโลกของ Starbucks ถัดจาก ซีแอตเทิล เซี่ยงไฮ้ มิลาน และนิวยอร์ก แต่สาขานี้มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เพราะมีพื้นที่ทั้งหมด 32,000 ตารางฟุต ขึ้นแท่นเป็นร้านสตาร์บัคส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เฉือนชนะแชมป์เก่าอย่าง Starbucks Reserve Roastery สาขาเซี่ยงไฮ้ในประเทศจีนไปเรียบร้อย เพราะที่เซียงไฮ้มีขนาดพื้นที่เพียง 30,000 ตารางฟุตเท่านั้น

• อ่านบทความเพิ่มเติม Starbucks Reserve Roastery ในเซี่ยงไฮ้ ใหญ่กว่าสาขาปกติ 300 เท่า มีบาร์ยาวสุดในโลก หรือชมคลิปที่ Brand Inside พาไปชมร้านสตาร์บัคส์สาขาเซี่ยงไฮ้ได้ที่ด้านล่างนี้

Starbucks Reserve Roastery ในญี่ปุ่นที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีอะไรบ้าง?

ความพิเศษของ Starbucks Reserve Roastery สาขานี้นอกจากความยิ่งใหญ่อลังการของพื้นที่ สิ่งที่ควรรู้คือ ร้านนี้ตกแต่งและออกแบบด้วยแรงบันดาลใจจากซากุระ และอีกสิ่งที่สำคัญคือ ในร้านแห่งนี้สามารถผลิตกาแฟได้มากกว่า 750 ตันต่อปี

ส่วนความพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของ Starbucks Reserve Roastery ในญี่ปุ่น คือการมี 4 ชั้น และแต่ละชั้นจะมีความแตกต่างกันออกไป

ชั้นที่ 1 กาแฟและเบเกอรี่

ชั้นแรกเน้นไปที่จุดเด่นที่สุดของ Starbucks นั่นคือกาแฟและเบเกอรี่ เมื่อเดินเข้าไปสั่งกาแฟจะได้เห็นบาริสต้ามายืนชงกาแฟให้ดื่มเหมือนกับแฟล็กชิปสาขาอื่นๆ แต่บรรยากาศแน่นอนว่าจะรับรู้ได้ถึงความอลังการตามแบบฉบับของ Reserve Roastery

อย่างไรก็ตาม ในชั้นแรกไม่ได้มีแค่เบเกอรี่เท่านั้น เพราะมีอาหารอย่างพิซซ่า สลัด ด้วยเช่นกัน

ชั้นที่ 2 Teavana เครื่องดื่มชา

เครื่องดื่มชาเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่ Starbucks ผลักดันมานาน โดยได้นำเอาวัตถุดิบท้องถิ่นในญี่ปุ่นมาผสมผสานและดึงเป็นจุดขายที่น่าสนใจ

ชั้นที่ 3 Arriviamo ค็อกเทลบาร์

ชั้นนี้ Starbucks บอกว่า เป็นการนำเอากาแฟมาผสมผสานกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากการทำเครื่องดื่ม “ค็อกเทล” โดยบางเมนูในชั้นนี้เป็นการนำเอากาแฟมาผสมกับเหล้าบางชนิด

อย่างไรก็ตาม การขายแอลกอฮอล์ในร้าน Starbucks ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะสาขาในซีแอตเทิลก็ทำมาตั้งแต่ปีที่แล้ว

ชั้นที่ 4 ชั้นผลิตกาแฟ และพื้นที่สำหรับการเรียนรู้เรื่องกาแฟ

ชั้นบนสุดของร้าน Starbucks ดัดแปลงให้ออกแนวเป็น​ “โรงงานกาแฟ” และจัดพื้นที่ไว้ให้เป็นโซนสำหรับการเรียนรู้เรื่องกาแฟสำหรับลูกค้าด้วย

ที่มา – Starbucks, Japantimes, Business Insider, TicToc

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา