พฤติกรรมการซื้อกาแฟของชาวอเมริกันส่วนใหญ่ มักนิยมซื้อกาแฟเพื่อดื่มในช่วงเช้าก่อนเดินทางไปทำงาน แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้พฤติกรรมที่เห็นจนคุ้นตาต้องเปลี่ยนแปลงไป
Kevin Johnson CEO ของ Starbucks เปิดข้อมูลให้นักลงทุนว่า พฤติกรรมการซื้อกาแฟ Starbucks ของลูกค้ากำลังเปลี่ยนไป เพราะสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปทำงาน หรือไปเรียนหนังสืออีกแล้ว ส่งผลกระทบต่อยอดขายที่หายไปกว่า 41% ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามแม้ว่าคนอเมริกันบางส่วนจะต้องทำงานที่บ้านในช่วงนี้จนกระทบต่อยอดขายของ Starbucks ที่ลดลง แต่ก็ไม่ใช่ว่าคนจะไม่ซื้อกาแฟดื่มเลย เพราะ Starbucks พบว่า พฤติกรรมการซื้อกาแฟของลูกค้าเปลี่ยนไป จากเดิมที่เคยซื้อกาแฟในช่วงเช้าก่อนเข้างาน เปลี่ยนเป็นซื้อกาแฟสายกว่าเดิม ในช่วงเวลา 9.30 น. โดยมีช่วงพีคคือ 14.00 น. ของแต่ละวัน
รวมถึงเมื่อคนไม่จำเป็นต้องเดินทางไปทำงานแล้ว สถานที่ในการซื้อกาแฟก็เปลี่ยนไปด้วย จากเดิมที่เคยซื้อกาแฟจากร้าน Starbucks สาขาที่อยู่ในเมือง กลายเป็นซื้อจากสาขาที่อยู่นอกเมืองใกล้บ้านแทน ซึ่ง Starbucks จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้พฤติกรรมใหม่ๆ ของลูกค้า เพื่อปรับรูปแบบการทำงานของพนักงาน และการขยายสาขาใหม่ๆ เพื่อรับกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ซึ่งก่อนหน้านี้ Starbuck ก็ได้ปรับเงื่อนไขการสะสมคะแนน Starbucks Rewards แม้จะจ่ายด้วยเงินสด หรือบัตรเครดิตก็สามารถสะสมคะแนนได้ ไม่จำกัดเฉพาะการจ่ายผ่านบัตร Starbucks อีกต่อไป
การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของลูกค้าในครั้งนี้ เป็นตัวเร่งทำให้ Starbucks ต้องเร่งขยายสาขาแบบ Pick-up Store เพียงอย่างเดียวมากขึ้น รวมถึงการหันไปเปิดสาขาที่อยู่นอกเมือง นอกจากนี้ Starbucks ยังพบด้วยว่าลูกค้าบางส่วน นิยมซื้ออาหารชนิดอื่นๆ ใน Starbucks มากขึ้น แทนที่จะซื้อกาแฟเพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะชุดอาหารเช้า และแซนวิช
ที่มา – Business Insider
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา