Singapore Airlines เปิดเส้นทางบินตรงจากสิงคโปร์สู่สหรัฐฯ แถมไม่มีที่นั่ง Economy

ช่วงที่ผ่านมาธุรกิจสายการบินอาจไม่ได้รุ่งโรจน์เหมือนในอดีต เพราะด้วยน้ำมันที่แพง ทำให้เกิดสายการบินราคาถูก-บินไม่สบายเยอะขึ้น แต่แล้วทำไม Singapore Airlines ถึงกล้าเปิดเส้นทางบินตรงสู่สหรัฐอเมริกาอีกครั้งล่ะ?

Singapore Airlines // ภาพ Pixabay.com

พลิกฟิ้นธุรกิจสายการบินให้กลับมารุ่งโรจน์

ก่อนหน้านี้ทุกธุรกิจสายการบินก็จะแข่งขันกันเรื่องความหรูหรา และความสะดวกสบาย แต่นั่นอาจจะเป็นแค่อดีต เพราะช่วงนี้การแข่งขันส่วนใหญ่จะเน้นที่เรื่องราคาค่าตั๋วที่ถูก เพื่อจูงใจผู้บริโภคให้มาใช้ ซึ่งมันก็ยังเป็นอย่างนั้นในบางสายการบินอยู่ แสดงให้เห็นถึงจุดเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของธุรกิจสายการบิน

อย่างไรก็ตามเรื่องนั้นอาจจะเป็นแค่ในอดีตแล้วเช่นกัน เพราะอีก 2 วันหลังจากนี้ Singapore Airlines จะเปิดให้บริการเที่ยวบินที่บินไกลที่สุดในโลก หรือจากสิงคโปร์ไปที่ New York สหรัฐอเมริกา โดยใช้เวลาบินเพียง 19 ชม. ซึ่งน้อยกว่าปกติถึงเกือบ 2 เท่า

สำหรับเที่ยวบินดังกล่าวนั้นจะใช้เครื่องบินรุ่น A350-900 Ultra Long Range บรรทุกผู้โดยสารได้ทั้งหมด 161 คน แบ่งเป็น Business Class ที่มาพร้อมกับเตียงส่วนตัว 67 ที่นั่ง และ Premium Economy อีก 94 ที่นั่ง ราคาค่าตั๋วเริ่มต้นที่ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.3 แสนบาท)

การให้บริการบน Singapore Airlines // ภาพจาก Singapore Airlines

บริการสุดหรูหราเพื่อให้เวลา 19 ชม. มีความสุข

แต่ด้วยระยะเวลาบินถึง 19 ชม. ทำให้ Singapore Airlines ตัดสินใจพาร์ทเนอร์กับ Canyon Ranch ผู้ให้บริการ Health Spa Resort เพื่อออกแบบวิธีทำให้ผู้โดยสารนอนหลับได้ลึกขึ้น, รูปแบบการยืดเส้นยืดสายบนเครื่อง รวมถึงเมนูอาหารที่ใช้หลักโภชนาการมาช่วยให้ร่างกายรู้สึกดีตลอดเวลา แต่ถ้าไม่อยากรับประทานอาหารแบบนั้น ทางสายการบินก็มีบริการ Book the Cook ที่สามารถเลือกอาหารได้ตามต้องการด้วย

ส่วนเรื่องความบันเทิงนั้น ตัวเครื่องก็มีภาพยนตร์ให้รับชมกว่า 1,200 ชม. พร้อมรายการโทรทัศน์จำนวนมาก และถ้าอยากทำงานก็สามารถจ่ายค่าบริการเพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 200 Mbps ได้

ทั้งนี้ Singapore Airlines เคยมีเส้นทางบินตรงจากสิงคโปร์ไปสหรัฐฯ มาแล้ว แต่เพิ่งหยุดบินไปเมื่อ 5 ปีก่อน เพราะด้วยราคาน้ำมันที่พุ่งเกิน 100 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล แต่ปัจจุบันราคาน้ำมันต่ำลงแล้ว ประกอบกับเครื่องบินรุ่นใหม่ที่น้ำหนักเบาลง, กินน้ำมันน้อยลง 25% และบรรทุกน้ำมันได้มากกว่าเดิม 17% ทำให้มันคุ้มค่าที่จะทำการบินให้มันหรูหรา

สรุป

ใครที่อยากลองการบินระดับหรูก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าจับจอง และถ้ามองในแง่ธุรกิจการบินก็แสดงให้เห็นว่าโอกาสที่ความรุ่งโรจน์ของธุรกิจนี้อาจกลับมาอีกครั้งก็ได้ เพราะมันแสดงให้เห็นว่าเครื่องบินหรูก็ยังทำได้อยู่ และในอนาคตเราอาจเห็นการติดตั้งโรงยิมในเครื่องบิน, โซนสำหรับเด็ก หรืออื่นๆ ก็เป็นได้

อ้างอิง // Quartz

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา