แพลตฟอร์มจับคู่ผู้ซื้อ-ผู้ขายรถป้ายแดงมาแล้ว Siamcardeal เตรียมดึงดีลเลอร์ 150 รายขึ้นออนไลน์

โลกออนไลน์กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการซื้อรถยนต์มือหนึ่งแล้ว ดังนั้นโอกาสการสร้างธุรกิจที่เกี่ยวกับรถใหม่จึงมีมากขึ้น และ Siamcardeal.com ก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่เขาทำอะไรบ้าง วันนี้ Brand Inside จะพามารู้จักกัน

แพลตฟอร์มกลางจับคู่ดีลเลอร์กับผู้ซื้อ

ด้วยแบรนด์รถยนต์ต่างๆ ในประเทศไทยยังไม่มีนโยบายให้เกิดการซื้อรถยนต์ใหม่ผ่านระบบออนไลน์เหมือนในต่างประเทศ แต่ถ้าอ้างอิงข้อมูลจาก JD Power ที่รายงานว่า มีถึง 58% ของผู้ต้องการซื้อรถใหม่ ต่างหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต เพื่อทราบราคา และโปรโมชั่นต่างๆ เพราะถ้าไม่หาข้อมูลก่อน การมุ่งหน้าไปโชว์รูมรถใกล้บ้านอาจได้รุ่น หรือสีที่ไม่ถูกใจ และถ้าอยากได้ตรงความต้องการจริงๆ อาจต้องเดินทางไปยังโชว์รูมที่อยู่ไกลกว่าเดิม ซึ่งก็ไม่รู้ว่ารุ่น หรือสีที่ถูกใจจะมีอยู่หรือไม่เช่นกัน ทำให้ใครที่สามารถสร้างธุรกิจมาแก้ Pain Point นี้ได้ก็น่าจะได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว

ศิริพร เชาว์ว่องเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เว็บดีกรุ๊ป จำกัด ผู้ให้บริการเว็บไซต์ Siamcardeal.com เล่าให้ฟังว่า การเดินทางไปที่โชว์รูมโดยไม่รู้ข้อมูลใดๆ เลยเป็นอีกเรื่องที่เกิดขึ้นในประเทศไทยมานานแล้ว และยังไม่มีใครเข้ามาแก้ปัญหา ดังนั้นบริษัทจึงสร้างแพลตฟอร์มกลาง เพื่อเชื่อมต่อระหว่างดีลเลอร์รถยนต์ยนต์ กับผู้สนใจซื้อรถยนต์ตั้งแต่ปี 2559 ถือเป็นรายแรกในประเทศไทยที่ให้บริการแบบนี้ ทั้งๆ ที่ในต่างประเทศก็มีเว็บที่ให้บริการคล้ายกัน เช่น Neowebcar แต่กลับไม่มีใครมองเห็นโอกาสนี้

รูปแบบธุรกิจ Siamcardeal.com

โดย Siamcardeal.com จะเป็นผู้รวบรวมดีลเลอร์รถยนต์ของแต่ละแบรนด์เอาไว้ และให้ทางนั้นใส่รายละเอียดเช่นราคา, โปรโมชั่นส่วนลด หรือของแถม รวมถึงข้อมูลรุ่น และสี ที่อยู่ในสต๊อก ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 30 ดีลเลอร์ที่จำหน่ายรถยนต์ 10 แบรนด์ เช่น Toyota, Honda และ MG มาลงข้อมูลกับเว็บไซต์บริษัทแล้ว ส่วนฝั่งผู้สนใจซื้อรถ หากเข้ามายังหน้าเว็บไซต์ที่เป็นข้อมูลเรื่องราคา และโปรโมชั่นของรถแต่ละรุ่น ทางเว็บก็จะมีช่องให้กรอกรายละเอียด เช่นชื่อ, เบอร์โทรศัพท์ และชื่อบัญชี Line เพื่อให้ทางดีลเลอร์รถยนต์รุ่นนั้นๆ ติดต่อกลับไป และค่อยปิดการขายกันที่โชว์รูม

ลงทุนน้อย และมีโอกาสขายกว่าไปโชว์ตามห้าง

“ก่อนนี้วิธีเดียวที่ดีลเลอร์รถยนต์จะไปเจอกับผู้บริโภคนอกโชว์รูมคือการไปออก Road Show ตามพื้นที่ต่างๆ ทั้งงานมอเตอร์โชว์ หรือไม่ก็ตั้งบูทตามห้างสรรพสินค้า ซึ่งทั้งสองแบบนั้นมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แต่การเข้ามาลงพื้นที่โฆษณาในเว็บเรา กับค่าใช้จ่ายเพียง 4,000 บาท/เดือน ก็น่าจะเป็นวิธีที่ดีกว่า เพราะเหมือนได้เปิดโชว์รูม 24 ชม. และช่วยสร้าง Visibility ให้มากกว่าเดิมด้วย แต่ก็ยังมีหลายดีลเลอร์ที่เป็นผู้บริหารยุคก่อนไม่เข้าใจรูปแบบการลงโฆษณานี้ ทำให้เป็นอีกความท้าทายของบริษัทในการไปอธิบายให้พวกเขาเข้าใจ แต่เรื่องนี้จะไม่เกิดกับเจ้าของดีลเลอร์รุ่นใหม่ที่คุ้นเคยกับออนไลน์แล้ว”

การเติบโตของการลงโฆษณาออนไลน์ในอุตสาหกรรมรถยนต์ยังมีสูง

ทั้งนี้ทางเว็บไซต์สามารถส่งข้อมูลลูกค้าที่มีความสนใจซื้อรถยนต์ให้กับดีลเลอร์ต่างๆ ได้มากกว่า 1,000 รายชื่อ/เดือน ผ่านยอดเข้าชมเว็บไซต์ 40,000 คน/วัน โดยทั้งปี 2559 สามารถช่วยดีลเลอร์ขายรถยนต์ไปได้กว่า 500 คัน หรือคิดเป็นมูลค่าราว 500 ล้านบาท แต่การบริการข้อมูลรถยนต์นั้นยังครอบคลุมแค่ดีลเลอร์ในกรุงเทพ และหัวเมืองใหญ่เช่น เชียงใหม่, ชลบุรี และนครราชสีมา ซึ่งปี 2560 จะเป็นปีที่ต้องขยายดีลเลอร์ให้เพิ่มขึ้นเป็น 150 ราย และภายใน 2 ปีต้องเป็น 400 ราย จากดีลเลอร์รถยนต์มือหนึ่ง (ไม่รวม Grey Market) ในตลาดกว่า 2,000 ราย

จริงๆ ดีลเลอร์ทำเองก็ได้ แต่คงไม่คุ้มค่า

ศิริพร ยอมรับว่า การทำตลาดออนไลน์นั้นดีลเลอร์ทำเองก็ได้ เพราะเว็บไซต์ และ Social Media ไม่ใช่เรื่องยากในปัจจุบัน แต่ด้วยความไม่เชี่ยวชาญอาจทำให้การตลาดออนไลน์นั้นไม่มีประสิทธิภาพพอ ซึ่งจุดนี้เองทำให้บริษัทตั้งเป้าเติบโตก้าวกระโดดเช่นปีก่อน และสามารถสร้างยอดขายให้กับดีลเลอร์ในแพลตฟอร์มได้รวมกัน 2,500 คัน พร้อมกับมีรายได้จากค่าลงโฆษณาราว 10 ล้านบาท นอกจากนี้ยังหาพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจเพิ่มเติม เช่นบริษัทประกัน กับอุปกรณ์แต่งรถยนต์ จากที่ตอนนี้ร่วมกับเว็บไซต์ขายรถมือสอง Carsome.co.th เพื่อดึงผู้ขายมาซื้อรถยนต์มือหนึ่งคันใหม่กับทางเว็บ

สรุป

ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของตลาดรถยนต์ แม้แบรนด์ยังไม่มีนโยบายขายรถมือหนึ่งออนไลน์เหมือนในต่างประเทศ แต่เป็นตัวกลางในการเจรจาระหว่างผู้ซื้อ กับผู้ขายบนโลกออนไลน์ ก็น่าจะมีแนวโน้มว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นก็ได้ เพราะหลังจากนี้ Siamcardeal.com จะไปคุยตรงกับแบรนด์ เพื่อหันมาทำตลาดออนไลน์มากขึ้น หลังจากคุยกับดีลเลอร์มาตลอด

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา