ทำไมถึงต้องดูหนังในเครือ SF กลยุทธ์สร้างความแตกต่างในตลาดโรงหนัง

sf-cinema-city-logo-759x500

เมื่อพูดถึงโรงหนัง คนในกทม. และหัวเมืองใหญ่มีโรงหนัง 2 เครือให้เลือกดู คือ Major Cineplex และ SF Cinema ถ้าไม่นับในต่างจังหวัดที่อาศัยระบบ สายหนัง นำหนังเรื่องใหม่ๆ เข้าไปให้ผู้บริโภคได้ดู ตลาดหลักอยู่ที่ผู้ให้บริการ 2 รายนี้ และการแข่งขันก็หนักหน่วงไม่ใช่เล่น สุวิทย์ ทองร่มโพธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานปฏิบัติการ บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จึงเปิดเผยกลยุทธ์ว่า ทำไมคนดูต้องเลือกมา SF มากกว่าจะไปที่อื่น และการเปิดตัวครั้งแรกกับโรงหนัง MX4D

DSC_9637

  • พฤติกรรมคนดูหนัง จะเลือกโรงหนังที่ใกล้บ้านหรือใกล้ที่ทำงาน เดินทางสะดวก มีความปลอดภัยเป็นหลัก เพราะหนังกระแสหลักที่เข้าฉายส่วนใหญ่ไม่แตกต่างกัน ดังนั้นกลยุทธ์หลักของ SF คือ การลงทุนเปิดโรงหนังแห่งใหม่ๆ ให้ครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด
  • ในปีนี้ SF เตรียมงบลงทุน 800 ล้านบาท สำหรับขยายโรงหนังใหม่ 6-7 โลเคชั่น รวม 40 โรง เน้นในพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น และแหล่งท่องเที่ยว จากปัจจุบันมีโรงหนังอยู่ 48 โลเคชั่น รวม 322 โรง
  • กลยุทธ์ที่สองคือ การเน้น Special Content ซึ่ง คอหนังพิเศษๆ เช่น หนังนอกกระแส, หนังอินดี้ หรือหนังอาร์ท จะรู้ดีว่า ถ้าอยากดูต้องมาที่ SF เป็นหลัก ถือเป็นกลยุทธ์ที่ทำติดต่อกันมาหลายปี มีการจัดเทศกาลหนังเป็นประจำเพื่อสร้างกลุ่มคนดูคอหนังเดียวกัน นอกนั้นจะเป็นการทำตลาดร่วมกับพันธมิตรคือ dtac, Kbank และ Coke และการทำ Online Marketing
  • ล่าสุด SF ได้ลงทุนเปิด MX4D โรงหนัง 4 มิติ ใช้ระบบเครื่องฉาย Sony Digital Cinema 4K เปิดตัวด้วยภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ Independence Day: Resurgence โดยเปิดแห่งแรกที่ SF World Cinema เซ็นทรัล เวิลด์ และมีแผนจะเปิดที่อื่นๆ ในอนาคตอันใกล้ ซึ่ง SF ระบุว่า โรงหนัง 4D ออกมาเพื่อตอบโจทย์คนดูจำนวนหนึ่งทีชื่นชอบ ซึ่งเมื่อปรึกษากับทางเจ้าของคอนเทนต์ โดยเฉพาะ Hollywood ยืนยันว่า มีหนังที่ฉายในระบบ 4D เข้ามาอย่างต่อเนื่องตลอดแน่นอน
  • ราคาบัตรชมภาพยนตร์
    • บัตรชมภาพยนตร์ราคาปกติ วันจันทร์ – วันพุธ ราคา 450 บาท วันพฤหัสบดี – วันอาทิตย์ ราคา 500 บาท
    • สำหรับนักเรียน – นักศึกษา (ที่มีบัตร Student Card) วันจันทร์ – วันพุธ ราคา 350 บาท วันพฤหัสบดี – วันอาทิตย์ ราคา 400 บาท

MX4DSFB_resize

  • อีกกลยุทธ์หนึ่งคือ SF ได้พัฒนาแอพพลิเคชั่นและเว็บไซต์ใหม่สำหรับจองและซื้อตั๋วชม ถือเป็นช่องทางรูปแบบใหม่ในการจำหน่ายตั๋ว โดยใช้งบประมาณกว่า 10 ล้านบาท และจะเปิดตัวในเดือน ก.ค. นี้
  • สำหรับมูลค่าตลาดโรงหนังรวมเฉพาะใน กทม.  (ตจว. ไม่สามารถวัดได้) มีมูลค่าประมาณ 4,300 ล้านบาท คาดการณ์ว่าจะเติบโตประมาณ 10% โดย SF มีส่วนแบ่งตลาดกว่า 35%
  • อย่างไรก็ตามหากวัดรายได้จากทั่วประเทศ SF ตั้งเป้ารายได้ 5,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 20% จากปีที่ผ่านมา (กว่า 4,000 ล้านบาท) ในปีนี้คาดว่าจะเป็นปีที่ดี มีทั้งหนังไทยและหนังต่างประเทศได้รับความนิยม ทำรายได้เกินหลัก 100 ล้านบาทหลายเรื่อง โดยหนังไทยที่ประสบความสำเร็จอย่างมากช่วงครึ่งปีแรกคือ หลวงพี่แจ๊ส
  • นอกจากนี้ SF ยังมีแผนบุกต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่ม CLMV ที่คาดว่าจะเห็นในช่วงปีนี้ถึงปีหน้า ขณะที่การนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ ได้เตรียมการไว้หมดแล้ว แต่จะรอดูสถานการณ์ตลาดที่เหมาะสมก่อน ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบอะไร

บทสรุป

SF มีแนวทางชัดเจนคือ การจัดเทศกาลหนัง และฉายหนังนอกกระแส ซึ่งแม้จะมีคนดูไม่มาก แต่ก็สามารถสร้างกลุ่มคนดูได้ นี่คือจุดแข็งที่ SF ต้องรักษาไว้ และการลงทุนเพื่อทำระบบจองตั๋วผ่านแอพและเว็บ ซึ่งที่ผ่านมาเป็นจุดอ่อนของ SF เพราะระบบล่มบ่อย ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม มีผลต่อความเชื่อมั่นในการจองผ่านออนไลน์ ดังนั้นการลงทุน 10 ล้านบาทต้องทำให้ดีที่สุด

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา