Scarlett Johansson ฟ้อง Disney ที่นำ Black Widow ฉายสตรีมมิ่งชนโรง กระทบรายได้นับพันล้าน

Scarlett Johansson

สตรีมมิ่งชนโรง ทำเสียรายได้

Scarlett Johansson นักแสดงนำในภาพยนตร์เรื่อง Black Widow ยื่นฟ้องศาลในลอสแองเจลิสต่อ Disney ในฐานะเจ้าของภาพยนตร์ ด้วยข้อหาทำผิดสัญญาในการนำเอาภาพยนตร์ไปฉายในสตรีมมิ่ง Disney+ แบบชนโรง ทำให้เธอสูญเสียรายได้มหาศาล

ในเอกสารฟ้องร้องระบุว่า Johansson เซ็นสัญญากับทาง Disney (ค่าย Marvel Studios) ไว้ว่าจะต้องนำภาพยนตร์เรื่อง Black Widow เข้าฉายในโรงภาพยนตร์เท่านั้น รวมถึงมีการเปิดเผยด้วยว่า จะมีการแบ่งรายได้จากการขายตั๋วในโรงภาพยนตร์ให้ด้วย หากยอมลดค่าตัวในการแสดงภาพยนตร์ ซึ่งเธอตอบรับสัญญาแต่โดยดี

  • แต่ในความเป็นจริง สิ่งที่เกิดขึ้นคือ Disney เปลี่ยนแผน โดยนำเอา Black Widow เข้าฉายใน Disney+ แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งวันเดียวกับที่ฉายในโรงภาพยนตร์

ทนายของ Johansson ให้ข้อมูลว่า การเปลี่ยนแผนของ Disney ทำให้นักแสดงเสียรายได้มหาศาล เพราะรายได้สัปดาห์แรกของ Black Widow ปรากฏว่า ทำรายได้จากโรงภาพยนตร์ 80 ล้านดอลลาร์ ส่วนใน Disney+ ทำรายได้รวมไปถึง 60 ล้านดอลลาร์ รวมถึงทนายยังบอกว่า จริงๆ แล้ว Black Widow ควรลงฉายในโรงภาพยนตร์ตั้งแต่ปี 2019 แต่ที่ Disney ถ่วงเวลาจนต้องมาฉายในปี 2021 เป็นเพราะต้องการนำเอาภาพยนตร์มาฉายในแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งของตัวเอง

Disney+
แผนระยะยาวของ Disney คือการผลักดันธุรกิจสตรีมมิ่ง Disney+

Disney ตอกกลับ ที่ฉายสตรีมมิ่ง ตกลงกันแล้ว แถมจ่ายเงินให้เพิ่มด้วยซ้ำ

หลังจากที่มีข่าวว่า Johansson ฟ้อง Disney ปรากฏว่าล่าสุด Disney ออกมาตอบโต้ว่า การฟ้องร้องครั้งนี้ไม่มีมูลเหตุที่สมเหตุสมผล รวมถึงเป็นการฟ้องร้องที่ไม่ได้ดูบริบทว่าวันที่ Black Widow ฉายในโรงภาพยนตร์ (ปี 2021) สถานการณ์โรคระบาดยังไม่ดีขึ้นเท่าที่ควร ทางบริษัทจึงตัดสินใจที่นำมาฉายในสตรีมมิ่ง Disney+ ด้วย

มากไปกว่านั้น Disney บอกว่า ก่อนที่จะมีการนำเอาภาพยนตร์เรื่อง Black Widow มาฉายในสตรีมมิ่งแบบชนโรง ทาง Disney ได้มีการพูดคุยกันแล้วกับนักแสดงนำ พร้อมทั้งมีค่าตอบแทนเพิ่มให้ด้วยถึง 20 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 650 ล้านบาท)

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวของ The Wall Street Journal ประเมินว่าการที่ Disney นำเอา Black Widow ไปฉายสตรีมมิ่งแบบชนโรง ทำให้ Johansson สูญเสียรายได้ไปมากถึง 50 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณกว่า 1.6 พันล้านบาท

[opinion] เป็นไปได้ว่า เมื่อนักแสดงนำคิดคำนวณรายได้ดูแล้ว อาจพบว่า ค่าตอบแทนในกรณีนำเอา Black Widow ไปฉายสตรีมมิ่งชนโรงนั้น ได้-ไม่คุ้มเสีย เมื่อเทียบกับการฉายในโรงภาพยนตร์ตามสัญญาฉบับแรกที่มีการแบ่งรายได้กัน

เสียงวิจารณ์

ไม่ใช่แค่นักแสดงนำของเรื่องเท่านั้นที่ไม่พอใจการฉายสตรีมมิ่งชนโรงของ Disney เพราะก่อนหน้านี้ สมาคมโรงหนังในสหรัฐอเมริกาออกแถลงการณ์ บอกว่า ถ้า Disney ไม่เอา Black Widow ฉายสตรีมมิ่งขนโรง

กลุ่มสมาคมโรงหนังวิจารณ์ว่า เอาเข้าจริงแล้ว หนังฟอร์มยักษ์ระดับนี้ “อย่างน้อยๆ สัปดาห์แรกน่าจะทำรายได้แตะ 92-100 ล้านดอลลาร์” การที่ Disney เอาหนังมาฉายสตรีมมิ่งชนโรง ทำให้รายได้ของภาพยนตร์เรื่องนั้นๆ ที่ควรจะทำได้ หายไปตลอดกาล”

[opinion] โดยสรุปแล้ว กระบวนท่าของ Disney ในการฉายหนังแบบไฮบริด (สตรีมมิ่งชนโรง) ทำให้เกิดคำถามว่า นี่อาจเป็นคำตอบใหม่ของ Disney เพื่อความอยู่รอด แต่คนอื่นๆ ในวงการอย่างนักแสดงหรือคนทำธุรกิจโรงหนังอาจไม่รอดไปด้วย

ส่วนการเข้าฉายในไทย Black Widow จะฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 12 สิงหาคมนี้

ที่มา – WSJ, Washington Post, Variety, Business Insider, The Guardian

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา