Sansiri Transformation แสนสิริปรับโครงสร้างธุรกิจ ดันยอดขายรวมทั้งปี 36,000 ล้าน

เดิมทีในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเน้นแผนธุรกิจโครงการต่างๆ สร้างยอดขายหลายหมื่นล้านบาทต่อปี แต่กับปัจจุบันจะมองแต่การพัฒนาโครงการใหม่ๆ อย่างเดียวไม่ได้แล้ว หนึ่งในบริษัทอสังหาฯ ที่เห็นถึงความจำเป็นนี้ และเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงก่อนใครคือ แสนสิริ (Sansiri)

ช่วงต้นปี แสนสิริ ร่วมกับ ธนาคารไทยพาณิชย์ ก่อตั้งบริษัทสิริเวนเจอร์ (SIRI VENTURE) ดูแลเรื่องสตาร์ทอัพ PropTech ทั้งด้านการลงทุน การพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ และวันนี้ได้ขยายผลมาสู่การทำ Sansiri Transformation ตัวองค์กรใหญ่

ปรับโครงสร้างธุรกิจ Sansiri Transformation

อภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนายการ ของ แสนสิริ บอกว่า ไฮไลท์สำคัญคือ การทำ Sansiri Transformation ปรับกลยุทธ์เต็มรูปแบบ 4 ด้าน คือ การบริหารการเงิน การบริหารการพัฒนาโครงการ การบริหารกลยุทธ์การตลาด และการบริหารด้านเทคโนโลยี

Financial Transformation นำทีมโดย วันจักร์ บุรณศิริ CFO ดูแล ใช้ระบบ dashboard เรียกดูตัวเลขในการพัฒนาโครงการต่างๆ ได้ทันที เพื่อควบคุมด้านการเงินได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ มุ่งเน้นบริหารการเงินเชิงลึก Financial Growth ทั้งการลงทุนในและต่างประเทศ ลดสัดส่วนรายจ่ายในการขายและบริหารต่อยอดการขาย จากนโยบาย Engineering for Growth ที่แสนสิริทำมา 2-3 ปีแล้ว

Project Transformation นำทีมโดย อุทัย อุทัยแสงสุข COO ดูแลทั้งโครงการเก่าและโครงการใหม่ มองหาโอกาสและนวัตกรรมทางธุรกิจที่เชื่อมโยงกับธุรกิจหลักของแสนสิริ ผลักดันธุรกิจหลักให้มีประสิทธิภาพและคล่องตัว

Marketing Transformation นำทีมโดย อรุณภรณ์ ลิ่มสกุล รองกรรมการผู้จัดการสายงานการตลาด เน้นการเป็น Market Shaper ใช้กลยุทธ์ Customer Living Experience ให้ประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดีที่สุด ทำความเข้าใจกับไลฟ์สไตล์และความต้องการลูกค้า เน้นการใช้สื่อดิจิทัลเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนขึ้น

Technology Transformation นำทีมโดย ทวิชา ตระกูลยิ่งยง CTO รองรับการเปลี่ยนแปลงสู่ยุค Digital Lifestyle ใช้ข้อมูลในเชิงรุก นำเทคโนโลยีมาใช้สร้างจุดขายและสร้างความแตกต่างในตลาดอสังหาริมทรัพย์

90 WIRELESS หนึ่งในโครงการ Flagship ของแสนสิริ

ครึ่งปีแรกต่างชาติตอบรับดี คาดทำยอดขายรวม 36,000 ล้านปีนี้

ครึ่งปีแรกที่ผ่านมา แสนสิริ มีผลประกอบการน่าพอใจ มียอดขายรวม 15,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 20% เทียบช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา และคิดเป็นสัดส่วน 42% ของยอดขายรวมที่ตั้งเป้าไว้ 36,000 ล้านบาท

สำหรับตลาดที่น่าสนใจครึ่งปีแรกคือ ตลาดต่างชาติที่ทำยอดขายได้ 3,700 ล้านบาท และเชื่อว่าจะทำได้ถึง 8,000 ล้านบาท (จากยอดขายรวม 36,000 ล้านบาท) ในปีนี้ สะท้อนว่า ชาวต่างชาติให้ความเชื่อมั่นและสนใจในโครงการของแสนสิริ

ขณะที่ครึ่งปีหลังเตรียมเปิดอีก 16 โครงการ คอนโด 7 บ้านเดี่ยว 8 และทาวเฮ้าส์ 1 มูลค่ารวม 39,260 ล้านบาท คาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้ไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาทเพื่อให้ได้ตามเป้าที่วางไว้

วาง 5 แนวทางเสริมยอดขายครึ่งปีหลัง

1. สานต่อความสำเร็จโครงการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับ BTS โดย 2 ปีที่ผ่านมาพัฒนาไป 8 โครงการ มูลค่า 30,000 ล้านบาท ปีนี้พัฒนาไปแล้ว 1 และมีแผนพัฒนาเพิ่มอีก 3 โครงการ

2. รุกตลาดระดับบน เล็งเปิดตัว “บ้านแสนสิริ” เป็นระดับ Super Hi-End ช่วงไตรมาส 4 หลังจากเคยประสบความสำเร็จกับ บ้านแสนสิริ สุขุมวิท67 มาแล้ว

3. เดินหน้าบุกตลาดต่างประเทศ เป็นบริษัทอสังหาฯ ไทยที่ลูกค้าต่างชาติไว้วางใจและครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุด

4. ต่อยอดพัฒนาคอนโดฯ ภายใต้แบรนด์ HAUS สไตล์รีสอร์ท มีส่วนกลางเป็นสวนขนาดใหญ่ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น พัฒนาไปแล้ว 2 โครงการ คือ Hasu HAUS และ Mori HAUS ได้รับความสนใจจากชาวญี่ปุ่นมาก

5. สร้างนวัตกรรม PropTech เต็มรูปแบบรายแรก เตรียมเปิดตัว “น้องแสนดี” Delivery Robot หุ่นยนต์ส่งอาหารและส่งของถึงหน้าประตูลูกบ้าน นำร่องใช้งานปลายปนี้ในโครงการ เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า

“น้องแสนดี” Delivery Robot

สรุป

แสนสิริ เป็นผู้นำในกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ อย่างชัดเจน นอกจากเริ่มต้น CVC กับ สิริ เวนเจอร์ ไปแล้ว ยังเดินหน้าปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ เพื่อให้สอดรับกับยุคดิจิทัลมากขึ้น ถือเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการยุคใหม่ที่น่าจับตามอง

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา