ในบรรดาเครื่องดื่มดับกระหายคลายร้อนขวัญใจคนทั่วโลก อาจมี รูทเบียร์ (Root Beer) ติดหนึ่งในลิสต์ด้วย นอกจากกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ ใครจะรู้บ้างว่า เครื่องดื่มสีดำรสชาติหวานซ่า ปราศจากคาเฟอีนชนิดนี้ เป็นมากกว่าน้ำหวานทั่วไป และนี่คือ 7 เรื่องเกี่ยวกับรูทเบียร์ที่คุณอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน…ก็เป็นได้!!
1. เครื่องดื่มกลิ่นสมุนไพรที่มีส่วนผสมหลักมาจากรากไม้ กลิ่นของรูทเบียร์ที่บางคนว่าหอม บางคนว่าไม่ ที่จริงแล้วเริ่มต้นจากการเป็นยาขมปี๋ ส่วนผสมหลักคือ ดอกแดนดิไลออน เปลือกไม้เบิร์ชดำ ราก sassafras และ sarsaparilla นำมาต้มเป็นน้ำสมุนไพรรักษาทุกโรคในยุคล่าอาณานิคม ฮอตฮิตจนร้านขายยาสมุนไพรกึ่งสำเร็จรูปขายให้ลูกค้าซื้อไปต้มรูทเบียร์ดื่มเองที่บ้าน โดยคำว่า Root ในรูทเบียร์มาจากส่วนผสมหลักที่เป็นรากไม้นั่นเอง
2. น้ำสมุนไพรเปลี่ยนสถานะเป็นของดื่มเล่น เมื่อเภสัชกรชื่อ Charles Elmer Hires (ชาร์ลส์ เอลเมอร์ ไฮร์ส) ปรุงเครื่องดื่มสุดซ่า แสนอร่อย เป็นน้ำพุรูทเบียร์แจกฟรีในเทศกาลเฉลิมฉลองครบ 100 ปีประเทศสหรัฐอเมริกา ช่วงเวลาเดียวกับที่แอลกอฮอล์ถูกห้ามขายในหลายๆ รัฐ ก่อนจะขยับขยายเป็นทั้งอเมริกา เมื่อดื่มเบียร์ไม่ได้ ผู้คนก็ขอจิบรูทเบียร์เย็นๆ ให้ชื่นใจแทน
3. รูทเบียร์มีชื่อเล่นว่า Black Cow ตั้งแต่เริ่มผลิตเป็นขวดน้ำอัดลม รูทเบียร์ก็เป็นที่นิยมจนขายได้หลายล้านขวดต่อปี ถึงขั้นมีคนตั้งชื่อเล่นของรูทเบียร์ว่า Black Cow หรือวัวดำ เพราะสีดำสนิท ที่เหมือนน้ำนมสีดำ
4. สูตรลับจากห้องทดลอง รูทเบียร์สูตรเฉพาะของ A&W กำเนิดขึ้นจากนักเคมีคนหนึ่ง ผู้คิดค้นรูทเบียร์สูตรพิเศษที่อร่อยด้วยรสชาติหวานละมุนจากสมุนไพร เครื่องเทศ เปลือกไม้ และเบอร์รี่ต่างๆ รวม 14 อย่าง ซึ่งอร่อยแตกต่างจากโซดาน้ำดำเจ้าอื่นๆ ในท้องตลาดและปราศจากคาเฟอีน ซึ่งต่อมาความอร่อยของเครื่องดื่มชนิดนี้ได้เผยแพร่ไปทั่วโลก
5. กำเนิดฟองซ่า รอย อัลเลน (Roy Allen) หนุ่มนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชาวอเมริกัน ตัดสินใจซื้อสูตรการทำรูทเบียร์ทั้งหมดจากนักเคมีคนหนึ่ง มาเปิดร้านรูทเบียร์เล็กๆ ที่เมือง Lodi รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยคิดราคาเครื่องดื่มแสนอร่อยแก้วละ 1 นิกเกิล หรือ 5 เซนต์เท่านั้น รสหวานซาบซ่าไม่เหมือนใคร ทำให้รูทเบียร์นี้ ขายดิบขายดีราวกับเทน้ำเทท่าอย่างรวดเร็ว จากความสำเร็จ ทำให้เขาร่วมมือกับ แฟรงก์ ไรต์ (Frank Wright) อดีตพนักงานในร้านสาขาแรกที่กลายเป็นหุ้นส่วน ทั้งคู่เปิดสาขา 2 ที่เมือง Stockton และขยายสาขาเล็กๆ ไปทั่วเมือง Sacramento อักษรย่อนามสกุลของทั้งคู่จึงกลายเป็น A&W Root Beer (Allen & Wright)
6. แจ้งเกิดพร้อมวัฒนธรรมไดร์ฟ-อิน รูทเบียร์สุดซ่าของ A&W เกิดในปี 1920 ที่วัฒนธรรมไดร์ฟ-อิน (Drive-in) กำลังเฟื่องฟู เพราะเป็นยุคสมัยที่ใครๆ ก็เห่อซื้อรถยนต์มาขับ จะทำกิจกรรมก็ต้องทำในรถไปซะทุกอย่าง รูทเบียร์เย็นเจี๊ยบจากร้านอาหารจึงต้องลอยไปให้ดื่มอย่างชื่นใจถึงข้างพวงมาลัย โดยมีบริกรชายหญิงจะถือถาดใส่แก้วมัคใบโตไปเสิร์ฟลูกค้าถึงที่
7. ให้อร่อยต้องดื่มในแก้วมัคแช่เย็นเท่านั้น ดื่มไวน์ให้ดีต้องใช้แก้วก้านยาว ดื่มกาแฟให้อร่อยต้องใช้ถ้วยเซรามิก แต่ถ้าจะดื่มรูทเบียร์ให้ชื่นใจแบบออริจินัล ต้องใช้แก้วมัคเนื้อหนาที่มีหูจับอันโต ที่สำคัญต้องแช่เย็นล่วงหน้าด้วยอุณหภูมิ -17 องศาเซลเซียล พร้อมบรรจุรูทเบียร์เย็นเฉียบสำหรับดับกระหายให้นักดื่มทุกวัย
นอกจากนี้รูทเบียร์ยังเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยส่งเสริมรสชาติอาหารให้อร่อยมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะรับประทานคู่กับเมนูของคาวหรือของหวาน ก็อร่อยลิ้น แถมร้อนๆ อย่างนี้ ยิ่งไม่ควรพลาดการแวะไปชิมรูทเบียร์สูตรต้นตำรับจากอเมริกากันได้ที่ร้าน A&W ทุกสาขาทั่วประเทศไทย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา