“RISE” ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จโครงการ Corporate Innovation Accelerator

กระแส Startup ทั่วโลกและในไทยกำลังบูมสุดขีด เพราะทุกคนรู้ว่านี่คือ ทิศทางของอนาคตที่องค์กรต่างๆ จะใช้เทคโนโลยีมาเปลี่ยนแปลงตัวเองให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ซึ่งปีที่ผ่านมามีโครงการ Startup ที่โดดเด่นหลายโครงการ หนึ่งในนั้นคือ Krungsri RISE ที่ปั้น Startup FinTech ขึ้นมาให้บริการ จนได้รับการกล่าวถึงอยู่ไม่น้อย

แต่รู้หรือไม่ว่า ผู้อยู่เบื้องหลังการสร้าง Krungsri RISE และกำลังจะเริ่มต้น Batch 2 ในช่วงปลายเดือน มี.ค. นี้ คือ RISE องค์กรที่ถือเป็น Corporate Innovation Accelerator หรือ ศูนย์เร่งสปีดนวัตกรรมองค์กร ซึ่งไม่ได้บริหารจัดการเพียงแค่ Krungsri RISE เท่านั้น แต่ยังอยู่เบื้องหลังในอีกหลายโครงการ

และต่อไปนี้คือรายละเอียดของ RISE

ศุภชัย ปาจริยานนท์ ผู้บริหาร RISE
รัชชต เศรษฐ์วรเดช ผู้บริหาร RISE

บริหาร 3 งานหลักสร้างธุรกิจนวัตกรรม

การสร้าง Startup นั้นได้รับความสนใจตั้งแต่ผู้ประกอบการรายเล็กที่มีไอเดียเด็ดๆ ต้องการ Disrupt ข้อจำกัดเดิมๆ เพื่อยกระดับการสังคมให้ดีขึ้น จนถึงองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการให้ Startup มาสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ทำลายข้อจำกัดเรื่องกระบวนการและความยุ่งยากในองค์กรใหญ่ให้หมดไป

แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถทำให้ Startup เกิดขึ้นได้ เพราะมีข้อจำกัดหลายส่วน เช่น เงินทุน, ความรู้ หรือวัฒนธรรม และนี่คือสิ่งที่ RISE ซึ่งเชี่ยวชาญด้านนี้ก้าวเข้ามาช่วยเหลือ และยังมองเห็นว่า การจะสร้าง Startup ให้เกิดขึ้น และต่อยอดทางธุรกิจได้จริง ต้องมี 3 ส่วนต่อไปนี้

  1. RISE Academy
  2. RISE Accelerator
  3. RISE Venture Capital

Academy และ Accelerator สร้าง Startup สร้างองค์กรนวัตกรรม

ส่วนงานด้าน Academy และ Accelerator นั้น มีความชัดเจนว่า เป็นการฝึกอบรม Startup ให้เข้าใจธุรกิจ การทำ Business Model ที่มีประสิทธิภาพ ความเข้าใจด้านกฎหมาย ภาษี และการทำตลาด หรือแม้แต่การ Corporate Valuation ซึ่ง Startup ต้องเข้าใจอย่างดีก่อนจะก้าวเข้าสู่สนามธุรกิจของจริง ทั้งหมดเป็นงานที่ RISE มีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว

อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญและองค์กรขนาดใหญ่กำลังให้ความสนใจ คือ การช่วยให้องค์กรใหญ่เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กร สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ได้ภายในองค์กร รวมถึงการร่วมทำงานเพื่อสร้างองค์กรนวัตกรรมย่อยภายใน เช่น Krungsri RISE ทำให้ Startup ได้มาเจอกับ Corporate และเติบโตทางธุรกิจไปด้วยกัน

ปัญหาหนึ่งขององค์กรขนาดใหญ่คือ ขนาดใหญ่ที่ทำให้ตัดสินใจหรือเคลื่อนไหวได้ช้า และกลายเป็นอุปสรรคของการสร้างนวัตกรรม และนั่นกลายเป็นวัฒนธรรมองค์กรไปแล้ว นี่คือสิ่งที่ RISE เน้นเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งใน 1 ปี RISE จะเน้นทำ Accelerator ประมาณ 3 Batch เท่านั้น เพื่อรักษาคุณภาพและทำงานร่วมกับพันธมิตรอย่างใกล้ชิด หนึ่งในนั้นคือ Krungsri RISE และมีการเจรจากับองค์กรขนาดใหญ่อื่นๆ อยู่ในเวลานี้

Venture สร้างเงินลงทุน ขยายธุรกิจต่างประเทศ

การจะสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดในธุรกิจ Startup เรื่องของ Scale up คือปัจจัยสำคัญและ ตลาดประเทศไทยไม่เพียงพอ ดังนั้น งานด้านที่ 3 คือ Venture Capital จึงเป็นส่วนสำคัญอีกประการ โดย RISE ได้ร่วมลงทุนกับกองทุน KKFund ซึ่งเน้นการลงทุนทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้รู้แนวโน้มสถานการณ์ตลาดในภูมิภาคนี้เป็นอย่างดี

ดังนั้นการที่จะสนับสนุนให้ Startup ขยายตลาดไปต่างประเทศ การทำ Global Expansion จะมีโอกาสเกิดขึ้นและเป็นไปได้ นอกจากนี้ RISE ยังดึงนักลงทุนระดับโลกที่เกี่ยวข้องมาร่วมให้ความรู้กับ Startup ในโครงการอย่างต่อเนื่อง เรียนรู้การทำ Exit Strategy ที่ถูกต้องในรูปแบบต่างๆ

หรือแม้แต่ NTT DoCoMo หนึ่งใน VC และพันธมิตรของ RISE ก็มีโปรแกรมด้าน Accelerator ที่สามารถทำงานร่วมกันได้ตลอด ทั้งหมดคือ ความเชี่ยวชาญจาก RISE และเป็นประโยชน์ที่ Startup และองค์กรจะได้รับ

สรุป

ปีที่ผ่านมา FinTech เป็น Startup ที่มาแรงมากและยังคงแรงต่อเนื่อง พร้อมกับ Startup สายใหม่ๆ ที่กำลังเกิดขึ้น เช่น PropTech หรือสายอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงอีกหลายสาขาที่กำลังได้รับความสนใจ เช่น ท่องเที่ยว, การเกษตร, การศึกษา แต่คนที่สามารถทำโครงการ Accelerator ที่มีคุณภาพได้ มีไม่มาก ดังนั้น RISE จึงเป็นหนึ่งใน Corporate Innovation Accelerator ที่น่าจับตามอง

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา