Weekend Warrior หรือนักรบในช่วงสุดสัปดาห์…คุณก็เป็นได้
Weekend Warrior เป็นคำศัพท์ที่นำมาจากงานวิจัยที่ศึกษาการออกกำลังกายในรูปแบบที่แตกต่างกันนั้นจะสร้างประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง โดยงานวิจัยชิ้นนี้เพิ่งจะเผยผลลัพธ์ออกมาเมื่อปลายเดือนกันยายน และถูกนำมาเผยแพร่ผ่านสถาบันด้านสาธารณสุขแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา
งานวิจัยชิ้นนี้ ศึกษาโดย Dr. Shaan Khurshid นักวิจัยจาก Massachusetts General Hospital เขานำข้อมูลจาก UK Biobank เพื่อมาศึกษาใหม่ โดยได้รับทุนสนับสนุนจาก National Institutes of Health ภายใต้กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์แห่งสหรัฐอเมริกา (HHS) และอีกหลายแห่ง
ข้อมูลจาก UK Biobank นั้น มีการติดตามสุขภาพของผู้คนจำนวนกว่าครึ่งล้าน ยาวนานเกือบ 20 ปี จากผู้ที่มีอายุระหว่าง 40 ปีถึง 69 ปี เพื่อมาศึกษาใหม่ โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 90,000 คน ยินยอมสวมเครื่องวัดความเคลื่อนไหวที่ข้อมือขณะเข้าร่วมศึกษาวิจัยเป็นเวลา 1 สัปดาห์
นักวิจัยได้แบ่งผู้เข้าร่วมวิจัยออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
- กลุ่ม 1 กลุ่มนี้ออกกำลังน้อยกว่า 150 นาทีต่อสัปดาห์ หรือกลุ่มที่ไม่ค่อยแอคทีฟ ไม่ค่อยเคลื่อนไหวร่างกายนั
- กลุ่ม 2 กลุ่มนี้ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์
- กลุ่ม 3 กลุ่มนี้เรียกว่า Weekend Warriors นักรบในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่ก็สามารถใช้เวลาได้ถึง 150 นาทีเหมือนกัน เพียงแต่อาจจะมีเวลาออกกำลังได้แค่ 1-2 วันต่อสัปดาห์เท่านั้น
ทีมวิจัยได้เปรียบเทียบความเสี่ยงที่จะเกิดกับสุขภาพถึง 678 รายการ โดยใช้เวลาติดตามผลเฉลี่ย 6 ปี นอกจากนี้ ยังนำปัจจัยด้านอื่นมาวิเคราะห์ด้วย ทั้งเรื่องอายุ เพศ เชื้อชาติ การสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์ ตลอดจนการทานอาหาร ผลการศึกษาเผยแพร่เมื่อ 26 กันยายน 2024 ที่ผ่านมา
ผลการวิจัย
นักวิจัยพบว่า คนสองกลุ่มที่ออกกำลังกายสามารถลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่างๆ ลง 250 โรคเมื่อเทียบกับคนที่แทบไม่ได้ออกกำลังกายหรือแทบไม่เคลื่อนไหวร่างกาย
คนสองกลุ่มที่ออกกำลังกายสามารถลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดและการเผาผลาญได้ อาทิ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคอ้วน และโรคหยุดหายใจขณะหลับ
ตัวอย่างจากคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำกับคนที่ออกกำลังกายเฉพาะวันหยุดนั้นเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ออกกำลังกายแล้ว พบว่า สามารถลดความเสี่ยงที่จะทำให้เป็นโรคเบาหวานได้มากกว่า 40%
ด้าน Khurshid นักวิจัยให้เหตุผลว่า ไม่ว่าจะเป็นคนออกกำลังกายเป็นประจำหรือคนออกกำลังกายไม่กี่วัน ก็ให้ผลประโยชน์ต่อสุขภาพคล้ายกัน ซึ่งคนป่วยก็ควรจะได้รับการสนับสนุนให้มีกิจกรรมในการออกกำลังกายโดยใช้รูปแบบที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดผลดีที่สุดแก่สุขภาพของพวกเขาด้วย จากนี้ไปอาจจะต้องมีการทำวิจัยเพิ่มขึ้นเพื่อทำความเข้าใจผลกระทบและรูปแบบกิจกรรมในการออกกำลังกายที่แตกต่างกัน รวมทั้งจะต้องมีการติดตามรูปแบบกิจกรรมและติดตามผลในระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น
สรุป
สำหรับคนยุคนี้ที่งานรัดตัว ไม่ค่อยมีเวลาว่างออกกำลังกายก็ไม่ต้องกังวลแล้ว ผลวิจัยล่าสุดพิสูจน์แล้วว่า คุณไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายทุกวันเป็นประจำ แม้จะออกกำลังกายน้อยวัน แต่ใช้เวลายาวนานมากพอ ก็จะทำให้คุณลดความเสี่ยงจากโรคต่างๆ ได้
ถ้าเอาตามเกณฑ์ออกกำลังกายให้ได้ 150 นาทีต่อสัปดาห์เพื่อให้ได้สุขภาพที่ดี ก็เท่ากับว่าคุณต้องหาเวลามาออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยวันละ 21 นาทีสะสมไปก็น่าจะทำให้สุขภาพดีขึ้นได้เช่นกัน หรือจะออกกำลังกาย 2 วัน วันละ 75 นาทีก็ได้ หรือจะออกวันเดียวตามที่งานวิจัยบอกก็ย่อมได้ แต่..มันอาจจะโหดมากไปหน่อย ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและการใช้ชีวิตด้วย ถ้าไม่อยากให้ร่างกายเครียดหรือล้ามากเกินไปก็ควรจะค่อยๆ ทำไปวันละนิดวันละหน่อย น่าจะทำให้สนุกกับการออกกำลังกายและผ่อนคลายมากกว่า
สำหรับคนที่มีโรคประจำตัวหรือสภาพร่างกายอ่อนแอ อาจจะต้องปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อหารูปแบบการออกกำลังกายที่เหมาะสมต่อสภาพร่างกาย
*หมายเหตุ
UK Biobank คือฐานข้อมูลเชิงชีวการแพทย์ที่มีขนาดใหญ่ มีข้อมูลทางพันธุกรรมเชิงลึก และข้อมูลด้านสุขภาพจากคนอังกฤษมากกว่าครึ่งล้าน มีการเก็บข้อมูลทางชีววิทยาและข้อมูลทางการแพทย์กว่า 500,000 ราย ในคนอายุระหว่าง 40-69 ปี และอาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักร
เป็นการศึกษาแบบ Prospective study คือการรวบรวมข้อมูลเพื่อศึกษาจากเหตุไปหาผลเพื่อติดตามในอนาคตว่าผู้เข้าร่วมจะเกิดโรคหรือไม่ อย่างไร ผู้เข้าร่วมจะให้ความยินยอมให้ตัวอย่างเลือด ปัสสาวะ และน้ำลายเป็นประจำ รวมถึงให้ข้อมูลการใช้ชีวิตของพวกเขา เพื่อบันทึกและทำความใจอย่างลึกซึ้งว่าพวกเขาต้องเผชิญกับโรคต่างๆ อย่างไร
ที่มา – National Institutes of Health, UK Biobank, Circulation
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา